คุณเชื่อไหม คุณลักษณะหนึ่งของคนที่จะประสบความสำเร็จในการทำงาน คือเป็น คนเจ้าความคิด ชอบคิดโปรเจกต์ใหม่ๆตลอด สังเกตง่ายๆคนเหล่านี้จะไม่ชอบอยู่นิ่งๆ เป็นคนที่คิดจะพัฒนาสิ่งรอบตัวพยายามทำให้ชีวิตตัวเองและคนรอบข้างดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา มีความคิดสร้างสรรค์ บ้างาน ชอบทำงานมากกว่าพักผ่อน คนเหล่านี้เราอยู่ด้วยแล้วจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย เพราะเราจะรู้สึกมีแรงทำงานมากขึ้น คนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทำงานแล้วประสบความสำเร็จ เพราะ เขามีความหลงใหลในงานที่เขาทำและมีความสุขที่ได้ทำงานที่เขารักนั่นเอง
หลายๆคนอาจจะอยากรู้ว่าแล้วเราจะมีความรู้สึกอย่างนี้ได้บ้างไหมแล้วทำอย่างไร
สำคัญที่สุดอยู่ที่คำว่า passion ในการทำงาน หมายถึง ความหลงใหลที่คุณมี อะไรก็ตามที่คุณชอบ อะไรที่คุณรู้มากกว่าคนอื่น เอ๊ะแล้วถ้าฉันไม่รู้สึกว่าฉันมีอะไรที่ชอบ หรือ ทำได้ดีกว่าคนอื่นเลย ฉันต้องทำอย่างไรล่ะ ? ก็ต้องขอตอบอย่างนี้ครับว่า ในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้หรอกครับ ที่คนๆหนึ่งเกิดมาจนโตขนาดนี้แล้วยังไม่มีเรื่องที่ถนัดเลย สิ่งสำคัญคือ คุณอย่าไปคิดว่าคุณไม่มีอะไรที่ชอบ หรือถนัดเป็นพิเศษเลย ของอย่างนี้อยู่ที่ว่าเราเชื่อในตัวเองมากที่ไหน ทำใจโล่งๆ วิธีดูสิ่งที่คุณถนัดง่ายๆคือ คุณเรียนจบอะไรมา ชอบทำอะไรในวันหยุดผักผ่อน หรือ ทำสิ่งนั้นแล้วคนรอบข้างชมคุณ เช่น บางคนอาจจะเรียนจบดีไซน์เนอร์มา ชอบเล่นอินเตอร์เน็ตซื้อของออนไลน์ หรือแม้กระทั่งบางคนชอบตัดผมเลยไปเรียนตัดผมมาจากศูนย์ฝึกอาชีพจตุจักร หรืออะไรก็ตาม แค่นี้ก็ถือเป็นสิ่งที่คุณสนใจแล้วครับ แต่ก็มีข้อแม้บ้างครับว่า งานที่คุณชอบก็ต้องมีความต้องการในตลาดด้วย หมายถึงว่า มีคนต้องการงานของคุณ งานของคุณสามารถทำให้คนอื่นมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ไม่ใช่คุณบอกว่าวันหยุดสิ่งที่ฉันชอบทำคือ กินขนมขบเคี้ยวหน้าจอทีวีดู ณเดช ญาญ่า อย่างนี้ไม่ถือเป็น passion นะครับเพราะ มันไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์กับคนอื่น จึงไม่สามารถนำมันไปพัฒนาต่อให้กลายเป็นอาชีพที่ประสบความสำเร็จได้
อีกปัญหาหนึ่งที่หลายๆคนอาจจะเจอก็คือ รู้สึกเบื่อใน passion ของตัวเอง คือ รู้สึกเหมือนว่าเราจะมีเรื่องที่ถนัดกว่าคนอื่นนะ แต่งานเรามันช่างน่าเบื่อเหลือเกิน ทำงานก็หนัก รายได้ก็น้อย จนทำให้รู้สึกว่างานที่เราถนัดมันดูเป็นงานที่ไม่มีค่า ไม่น่าทำเสียเลย สาเหตุหนึ่งก็อาจเป็นเพราะ คุณเห็นคนอื่นทำงานอื่น แล้วได้ดีกว่า ประสบความสำเร็จกว่า ร่ำรวยกว่า เช่น สมมุติ คุณ A ชอบการตัดผมมาก อยากเปิดร้านเสริมสวย เลยเปิดร้านเสริมสวยได้สักระยะหนึ่ง แต่เพิ่งเริ่มต้นอาจจะยังไม่มีลูกค้า แต่วันหนึ่ง คุณ A ดันเหลือบไปเห็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยขายดีมาก คนต่อแถวกันสามเมตรแปดเมตร คุณ A ก็จะเริ่มคิดว่า หรือว่าฉันจะไปขายก๋วยเตี๋ยวดี ทั้งที่ทำก๋วยเตี๋ยวยังไงก็ยังไม่รู้เลย แต่ก็คิดว่าจะได้ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยแบบแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวบ้าง คุณ A ก็เลยเปลี่ยนความตั้งใจตอนแรกที่อยากเปิดร้านเสริมสวย ปิดร้านเสริมสวยทิ้งแล้วไปเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวแทน ทำให้คุณ A ลืม passion ของตัวเองที่อยากจะเปิดร้านเสริมสวยไป
วิธีแก้ไขเหตุการณ์นี้ง่ายๆก็คือ คุณต้องแยกระหว่าง passion กับความโลภให้ออก โดยปกติคนเราจะแยกระหว่าง passion กับ ความโลภไม่ค่อยได้แล้วนึกไปว่าความโลภคือ passion แต่ให้คุณลองสังเกตตัวเองดู ถ้าเป็นสิ่งที่คุณมี passion จริงๆ ความรู้สึกว่าอยากทำหรืออยากเสพสิ่งนั้นจะมาเรื่อยๆ จะไม่ตื่นเต้นแบบสุดๆ keyword ของมัน อยู่ที่คำว่า “เรื่อยๆ” ต้องมาเรื่อยๆจริงๆ ทำได้ไม่เบื่อ ทำเป็นกิจวัตรเหมือนการอาบน้ำแปรงฟัน เช่น ชอบตัดผม ก็จะชอบดู youtube เกี่ยวกับการตัดผม ไปซื้อหนังสือเรื่องแฟชั่นทรงผมมาอ่าน พยายามหาเทคนิคการตัดผมต่างๆ ดังนั้นการจะสังเกตว่าสิ่งนี้เป็น passion ของเราจริงหรือไม่อาจจะต้องใช้เวลาสังเกตสักหน่อย ลองสังเกตไปสัก 3 เดือน 6 เดือน แล้วถ้าคุณยังทำสิ่งนั้นแบบต่อเนื่องได้นั่นแหละ passion แต่ถ้าเป็นความโลภอารมณ์มันจะต่างกันคือ เป็นเห็นคนนู้นคนนี้ทำแล้วประสบความสำเร็จ แล้วอยากจะเป็นอย่างเขาบ้างทั้งที่ยังไม่ได้ลองทำงานนั้นๆดูเลย อารมณ์มันออกไปทางเพ้อฟัน แล้วคิดว่าถ้าฉันทำบ้างต้องรวยแน่เลยๆ เช่นเห็นเพื่อนเล่นหุ้นได้กำไรเยอะก็อยากเล่นตามบ้างอะไรประมาณนี้ สิ่งที่ต้องระวังอย่างมากก็คืออย่าให้ความโลภมาบัง passion ของคุณได้ ถึงจะเป็นหนทางสำเร็จในการทำงานอย่างแท้จริง
รู้อย่างนี้แล้ว หากคุณอยากให้การทำงานสำเร็จไปได้ด้วยดี ลองวาง passion และเป้าหมายให้กับตัวเองดูสิ จากนั้นจึงไล่ตามเป้าหมายที่ตัวเองวางไว้ เพราะมันจะทำให้คุณมีกำลังใจที่อยากจะไล่ตามมากขึ้น และยังเป็นหนทางแห่งการประสบความสำเร็จที่จะทำให้คุณมีชัยไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว ลองทำตามวิธีที่เราแนะนำมานี้ แล้วคุณจะสามารถประสบความสำเร็จจากการทำงานได้ไม่ยาก แถมยังอาจจะพ่วงด้วยการประสบความสำเร็จในชีวิตอีกด้วย