ถือเป็นปัญหาโลกแตกพอ ๆ กับคำถามที่ว่า “ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน” เลยทีเดียว สำหรับบรรดาคนโสดที่กำลังมองหาคู่ครองมาทำให้ตัวเองไม่โสด ที่น่าจะต้องประสบปัญหาเรื่องการตัดสินใจว่า ในมื้อดินเนอร์กับคู่เดทของตนนั้นเราควรจ่ายให้หรือให้แชร์กันคนละครึ่งดี
ถ้าว่ากันตามค่านิยมส่วนใหญ่ที่ทำตาม ๆ กันมาตั้งแต่ครั้งอดีตนั้น ฝ่ายชายมักต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าอาหารในมื้อเดทนั้น ๆ โดยธรรมเนียมตามวิถีของสุภาพบุรุษแต่ก็ต้องยอมรับกันว่าในระยะหลัง ๆ มานี้ก็มีประเด็นดราม่าเรื่องการที่ฝ่ายหญิงมักหาประโยชน์จากธรรมเนียมดังกล่าวอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะการที่ฝ่ายหญิงตั้งใจเลือกร้านหรู ๆ แพง ๆ ชนิดไม่สนใจกำลังทรัพย์ของฝ่ายชาย พร้อมทั้งชวนเพื่อนชวนฝูงมาร่วมโต๊ะประมาณว่ากะถล่มฝ่ายชายให้ราบคาบเป็นหน้ากลอง เรียกว่าทัศนคติประมาณนี้มันได้กลายเป็นเรื่องของการหาผลประโยชน์แบบชั่วครั้งชั่วคราวมากกว่าการเดทเพื่อคบหาดูใจกันไปเสียแล้ว
เพื่อความสบายใจและเพื่อการดูใจกันอย่างแท้จริง วันนี้เราจึงมี 4 แนวทางการแก้ปัญหากวนใจว่าจะเปย์หรือแชร์ในมื้อดินเนอร์สำหรับทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงมาฝากกัน
1.เปย์ไม่อั้น เพราะชั้นรวย!
เรื่องเปย์หรือแชร์คงไม่ใช่ปัญหากวนอกกวนใจเท่าใดนัก ถ้าหากคุณหล่อสวยและรวยมาก ไม่ว่าจะเป็นท่านชายหรือหญิงถ้าคุณมีกำลังทรัพย์มากพอและหวังซื้อใจคนที่ท่านถูกตาต้องใจจริง ๆ การเปย์ให้รัว ๆ แบบไม่อั้นหรือไม่บันยะบันยัง โดยที่การเปย์นั้นไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งท่านร่วงก็ไม่น่าจะเป็นอะไร ในเมื่อมันคือความต้องการอันนำไปสู่ความสบายใจของท่านเอง แต่ท่านก็ต้องพร้อมยอมรับด้วยว่าอีกฝ่ายที่รับเปย์นั้น ก็ไม่ผิดที่จะคิดคอยคาดหวังการเปย์จากท่านไปตลอด ถึงวันที่ท่านขาดแคลนหรือไม่สะดวกที่จะเปย์ให้มันก็อาจนำไปสู่การทะเลาะไม่พอใจกันได้
2.ชายเป็นหลัก หญิงเป็นรอง
วิธีที่ยึดเอาตามธรรมเนียมที่ฝ่ายชายควรเปย์เป็นที่ตั้ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเปย์ไปทุกครั้ง อาจจะมีบางครั้งที่อาจต้องให้ฝ่ายหญิงเข้ามามีส่วนร่วมในการจ่ายด้วย ก็ถือเป็นรูปแบบหนึ่งที่ค่อนข้างรอมชอมดีสำหรับการคบหาดูใจกันในระยะยาว (คือนัดดินเนอร์นัดเดทกันหลาย ๆ ครั้ง) เพราะธรรมชาติของผู้หญิงส่วนใหญ่นั้นก็ล้วนต้องการคนดูแลเทคแคร์และเปย์ให้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ครั้นจะให้ดูแลและเปย์ไปเสียทุกครั้งฝ่ายชายก็อาจไม่ไหว (โดยเฉพาะฝ่ายชายที่กำลังทรัพย์ไม่ได้มากนัก) เปย์บ้างแชร์บ้างผลัดกันไปก็น่าจะเป็นรูปแบบวิธีที่โอเคสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย แต่ถึงที่สุดแล้วก็คงต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายหญิงเองนั่นแหละ ว่าโอเคหรือไม่กับรูปแบบการจ่ายดินเนอร์แบบนี้
3.เคลียร์ให้ชัดก่อนไปดินเนอร์
วิธีที่จะสร้างความเคลียร์ได้ดีที่สุด ก็คือ การพูดคุยตกลงกันให้ชัดไปเลยว่า ดินเนอร์มื้อนี้ใครจะเป็นผู้จ่าย จะให้ฝ่ายชายรับผิดชอบไปแบบแมน ๆ หรือจะแชร์กันคนละครึ่ง หรือแม้แต่ให้ฝ่ายหญิงรับบทเจ้ามือเองก็ตาม แน่นอนว่ารูปแบบนี้มันไม่โรแมนติคแน่นอน แต่ในระยะยาวแล้วมันถือเป็นวิธีที่เคลียร์ดีที่สุด ชัดเจนดีที่สุด ไม่ต้องมีใครมางอนหรือไม่พอใจย้อนหลัง (เพียงแต่ตอนคุยกันคุณต้องพูดความจริง ไม่ตอบไปตามมารยาท) หรือหากจะมีฝ่ายไหนไม่พอใจก็อาจตัดสินใจสิ้นสุดความสัมพันธ์จากการดินเนอร์ในครั้งนั้น ๆ ไปได้เลย เพราะถือว่าทัศนคติและความคิดไม่พ้องกัน ในระยะยาวก็ไม่น่าจะคบกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง
4.แชร์ทุกครั้งที่ไปเดท
อาจเป็นวิธีที่ไม่โรแมนติคที่สุดของที่สุดแล้วในบรรดา 4 วิธี แต่วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่เสมอภาคและยุติธรรมที่สุด และน่าจะสบายใจกับทุกฝ่ายที่สุดด้วย นั่นคือไม่ว่าจะไปดินเนอร์ที่ไหนอย่างไรเมื่อไหร่ ก็หาร 2 ตลอดศก ทว่าประเด็นก็คือวิธีนี้ฝ่ายหญิงอาจไม่โอเคนัก ตามธรรมชาติที่ปรารถนาให้มีผู้ชายมาดูแลเทคแคร์ แต่อย่างไรก็ตามที่สุดแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติของฝ่ายหญิงด้วย เพราะบางคนก็อาจไม่โอเคกับการต้องแชร์ทุกมื้อ แต่บางคนก็อาจมองว่ามันแฟร์ดีและไม่เป็นการเอาเปรียบฝ่ายชายมากเกินไป (ไว้ค่อยไปคิดเหมารวบยอดด้วยการยึดกระเป๋าสตางค์ตอนที่ตกล่องปล่องชิ้นแล้วนั่นแหละ อิ ๆ)
ทั้งหมดทั้งมวล นั่นคือ 4 รูปแบบ 4 แนวทางของการจัดการปัญหาเรื่องเปย์หรือแชร์ในการไปดินเนอร์กับคู่เดทของคุณ มีทั้งแบบเจ้าสัวมาเอง แบบรอมชอม แบบเคลียร์กันก่อนและแบบหารตลอดศก โดยแต่ละรูปแบบก็มีความแตกต่างกันไปในรายละเอียด ซึ่งหากจะถามว่าวิธีไหนใช้แล้วโอเคที่สุดก็คงไม่สามารถชี้ชัดเจาะจงลงไปได้
เพราะปัจจัยสำคัญที่สุดนั้นอยู่ที่ทัศนคติของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงคู่เดทนั่นเอง ว่าเป็นคนประเภทไหน ลักษณะนิสัยและการมองโลก รวมถึงมองบทบาทในเรื่องความรักและการครองคู่เป็นอย่างไร ลักษณะนิสัยของทั้ง 2 ฝ่ายนั่นแหละ ที่จะเป็นดัชนีชี้วัดและคัดกรองรูปแบบการเปย์หรือแชร์ในมื้อดินเนอร์นั้น ๆ เอง และแน่นอนลักษณะนิสัยนี่แหละที่จะเป็นตัวช่วยคัดกรองการคบหาดูใจต่อไปในระยะยาวไปในตัว
เลือกรูปแบบที่สบายใจ เลือกคู่เดทที่สบายใจ นั่นอาจเป็นแนวทางที่ดีที่สุดก็ได้