ความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินสดในปัจจุบัน ที่นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวันแล้ว การใช้เงินสดยังมีความจำเป็นในกรณีฉุกเฉิน หรือเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับตัวเองและธุรกิจได้อีกด้วย นอกเหนือจากสินเชื่อส่วนบุคคลแล้ว ก็ยังคงรวมถึงสินเชื่อต่างๆ อย่างสินเชื่อบ้านหรือรถยนต์ ที่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่อาจจะจำเป็นหรือไม่จำเป็น ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากน้อยแค่ไหน
ด้วยเหตุนี้ ทำให้สถาบันการเงินถูกมองเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับกลุ่มคนที่กำลังมองหาสินเชื่อ สำหรับการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ขอสินเชื่อสำหรับ การนำเงินที่ได้ไปใช้จ่าย ซึ่งสินเชื่อทุกประเภทจะมีเงื่อนไขของดอกเบี้ย รวมถึงระยะเวลาในการผ่อนชำระคืน โดยเงื่อนไข ขอใช้สินเชื่อส่วนบุคคล หรือแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับทางสถาบันการเงินจะกำหนด
เงื่อนไขของการขอสินเชื่อส่วนบุคคล
เงื่อนไขของการขอสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อประเภทต่างๆ เป็นสิ่งที่ผู้ขอสินเชื่อจะต้องทำความเข้าใจและศึกษาให้ดีก่อนที่จะทำการขอสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อเพื่อธุรกิจก็ตามแต่ ซึ่งการรู้ถึงเงื่อนไขของสินเชื่อ จะช่วยให้ผู้ขอ เข้าใจว่าสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อแต่ละประเภทมีองค์ประกอบใดบ้าง มีเงื่อนไขอะไรพิเศษบ้าง ซึ่งการขอสินเชื่อส่วนบุคคล ที่เป็นประเภทของสินเชื่อที่สถาบันการเงิน มีการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการเงินของกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้เงิน หรือเป็นการขอสินเชื่อเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับตนเองในด้านของการชำระค่าสินค้าหรือบริการต่างๆ
ประเภทของสินเชื่อส่วนบุคคล
ประเภทของสินเชื่อส่วนบุคคล ที่เป็นประเภทบัตร ถือเป็นสินเชื่อที่สถาบันการเงินได้อนุมัติให้กับผู้ขอสินเชื่อประเภทบัตร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงิน ซึ่งหลายครั้งที่ผู้สมัคร มักจะมีความเข้าใจผิดว่าบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดนั้นเป็นบัตรประเภทเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น บัตรเครดิตหมายถึงบัตรที่ผู้ใช้สามารถนำไปชำระค่าสินค้าหรือบริการได้ตามร้านค้า โดยไม่ต้องพกเงินสด โดยในตัวบัตรจะมีวงเงินอยู่ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินว่าจะอนุมัติวงเงิน เท่าใด และเมื่อใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าหรือบริการแล้ว ทางผู้ใช้ก็จะต้องนำเงินสดไปชำระค่าบัตร ซึ่งจะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยประมาณ วัน ในลักษณะจ่ายเต็มจำนวนเงิน แต่หากเลยกำหนดหรือชำระแบบขั้นต่ำ ก็จะต้องเสียค่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี โดยดอกเบี้ยก็จะถูกคำนวณรายวันหลังจากวันที่เลยกำหนดชำระ
ส่วนบัตรกดเงินสดไม่สามารถนำไปใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการได้ แต่จะสามารถกดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนของวงเงินก็ขึ้นอยู่กับทางสถาบันการเงิน โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ 2 ถึง 5 เท่าของรายได้ แต่การใช้บัตรกดเงินสดก็ต้องมีความระมัดระวังกว่าการใช้บัตรเครดิต เพราะอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดจะสูงกว่ามาก ในกรณีที่ชำระไม่ตรงตามระยะเวลารอบบิล หรือตามที่สถาบันการเงินได้กำหนดไว้
อ่านเพิ่มเติม >> ความจำเป็นที่ทำให้คุณต้อง ขอสินเชื่อส่วนบุคคล <<
ความแตกต่างของการขอสินเชื่อประเภทบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด
ความเข้าใจผิดของผู้สมัครสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งเป็นประเภทบัตร คือการนำบัตรเครดิตไปกดเงินสดออกมาใช้ นั่นเป็นการใช้บัตรผิดวัตถุประสงค์ แม้ว่าบัตรเครดิตจะสามารถทำการกดเงินสดออกมาได้ แต่ดอกเบี้ยจะสูงมาก เพราะเมื่อทำการกดเงินออกมาแล้วจะมีค่าธรรมเนียมทันที มีอัตราดอกเบี้ย 28 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และมีการคำนวณทุกวัน จนกว่าจะนำเงินไปชำระค่าบัตร เป็นความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนระหว่างบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด
สินเชื่อเงินสดถือได้ว่าเป็นอีกประเภทของสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งใครที่ต้องการกู้เงินสด และเป็นการขอกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งทางสถาบันการเงินจะทำการอนุมัติสินเชื่อให้เป็นเงินก้อน สำหรับผู้ขอสินเชื่อ โดยการโอนผ่านบัญชี ซึ่งการขอสินเชื่อเงินสด นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินแบบฉุกเฉิน อย่างการจ่ายค่ารักษาพยาบาล หรือซ่อมแซมบ้านเรือน อัตราดอกเบี้ยก็จะขึ้นอยู่กับทางสถาบันการเงินจะทำการกำหนด ยิ่งจำนวนเงินกู้มาก ดอกเบี้ยก็จะน้อยลงเช่นกัน ระยะเวลาในการผ่อนชำระก็สูง หากผู้ที่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อน และมีอัตราดอกเบี้ยน้อย และระยะเวลาในการผ่อนชำระที่ยาว ก็อาจจะเลือกสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทเงินสดที่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด