สินเชื่อ ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ถูกสร้างเพื่อตอบสนองความต้องการของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ หรือเพื่อสร้างอนาคต เป็นสาเหตุให้ธนาคาร หรือสถาบันทางการเงินต่าง ๆ ในปัจจุบันเล็งเห็นถึงความสำคัญนี้ จึงเปิดบริการสินเชื่อหลากหลายประเภท เพื่อให้ตรงกับความต้องการของแต่ละคน อย่างเช่น สินเชื่อเพื่อธุรกิจ, สินเชื่อบ้าน, สินเชื่อเพื่อการศึกษา, สินเชื่อส่วนบุคคล และอื่น ๆ โดยสินเชื่อแต่ละประเภทนั้น ก็จะมีแยกย่อยออกไปอีก เพื่อเพิ่มตัวเลือกของลูกค้า ให้สามารถเลือกสินเชื่อได้ตรงกับความต้องการของตนจริง ๆ
ซึ่งในวันนี้เราขอแนะนำสินเชื่อส่วนบุคคลให้คุณได้ลองพิจารณาดูว่า เหมาะสมและสามารถตอบโจทย์ของมนุษย์เงินเดือนทุกคนได้หรือไม่
สินเชื่อส่วนบุคคลคืออะไร
สินเชื่อส่วนบุคคล คือ เงินกู้รูปแบบหนึ่งที่ธนาคาร หรือสถาบันทางการเงิน (ผู้ให้กู้) อนุมัติให้กับบุคคลทั่วไป (ผู้ขอกู้) ซึ่งมีรายได้ที่มั่นคง อย่างเช่น พนักงานที่มีเงินเดือนประจำ หรือผู้ที่มีรายได้เข้ามาทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ ผู้ขอกู้เงินจะต้องใช้ชื่อของตนเองในการขอกู้ เพื่อนำเงินสดไปใช้จ่ายตามที่ต้องการ ทางธนาคารจะอนุมัติวงเงินให้สูงสุดประมาณ 5 เท่าของเงินเดือน โดยลักษณะการกู้แบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีบุคคล หรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน
สำหรับการขอรับวงเงินของสินเชื่อส่วนบุคคล สามารถแยกออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ กู้เป็นเงินก้อน และบัตรกดเงินสด
- กู้เป็นเงินก้อน การกู้เงินเป็นก้อน จะเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการเงินของคุณได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งคุณสามารถนำเงินก้อนนั้นไปเริ่มต้นธุรกิจใหม่ หรือนำไปขยายกิจการได้เลย มีอัตราการผ่อนหนี้เท่ากันทุกเดือน สามารถเลือกรับดอกเบี้ยได้ตามระยะเวลาที่ตนเองต้องการผ่อน
- บัตรกดเงินสด การกดเงินสดจากบัตร หรือที่เรียกว่า “บัตรกดเงินสด” คุณสามารถนำบัตรพกติดตัวได้ โดยไม่เสียอะไร เผื่อไว้สำรองสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เมื่อคำนวณออกมาแล้วอัตราดอกเบี้ย จะถูกกว่าการกดเงินจากบัตรเครดิต เพราะการกดเงินจากบัตรเครดิตจะคิดค่าธรรมเนียมในการกดเงิน 3% และ Vat อีก 7% คุณสามารถใช้บัตรกดเงินสดได้สำหรับการหมุนเงินในธุรกิจ หรือการสร้างอนาคต อย่างเช่น เงินเดือนคุณกำลังจะออกอีก 2 วัน แต่คุณจำเป็นต้องนำเงินไปจ่ายค่าเทอมลูก เมื่อคุณพกบัตรนี้ คุณก็สามารถกดถอนเงินสดออกมาจ่ายเงินค่าเทอมลูกได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้เงินเดือนออกก่อน
ตอบ 3 ข้อ ก่อนขอสมัครสินเชื่อบุคคล
ซึ่งในบางช่วงเวลาของการใช้ชีวิตของแต่ละคน จะมีเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ต่างกัน ซึ่งในบางครั้งก็บอกไม่ได้ว่าช่วงเวลาใดถึงเหมาะกับการขอสินเชื่อ หรือช่วงเวลาใดที่ไม่ควรขอสินเชื่อ ทั้งนี้เราขอบอกแนวทางให้คุณลองพิจารณากับตนเองดู ถ้าคุณตอบคำถามได้ 3 ข้อนี้ ก็ไปขอสินเชื่อกันได้เลย
- ต้องการเงินไปทำอะไร ใช้เงินจำนวนเท่าไร?
ก่อนอื่นเลยคุณต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า คุณมีความต้องการใช้เงินจำนวนเท่าไร และจะนำเงินที่ได้นั้นไปทำอะไรบ้าง อย่างเช่น คุณต้องการเงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อไปใช้หมุนเวียนในธุรกิจ หรือต้องการเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อใช้เป็นค่าเล่าเรียน เป็นต้น หากคุณได้คำตอบในใจแล้ว จากนั้นลองพิจารณาข้อต่อไป - ความจำเป็นในการใช้เงินมีมากหรือน้อยแค่ไหน? อย่างเช่น หากคุณต้องการเงินไปใช้หมุนเวียนในธุรกิจ หรือเรื่องเร่งด่วนต่าง ๆ ที่ต้องใช้เงิน เรื่องแบบนี้ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น แต่ถ้าคุณต้องการเงินไปเพื่อใช้จ่ายของแพงแต่ไร้ประโยชน์ อย่างเสื้อผ้า ซึ่งคุณมีอยู่แล้วมากมาย หรือกระเป๋า รองเท้า ที่มีราคาแพง และคุณก็มีอยู่มากมายเช่นกัน อย่างนี้ถือว่า ค่าใช้จ่ายไร้ประโยชน์
- มีความสามารถและความพร้อมในการชำระคืนหรือไม่ เมื่อคุณรู้แล้วว่า คุณมีความต้องการเงินจำนวนนี้ ไปเพื่อใช้จ่ายที่จำเป็นจริง ๆ แต่คุณควรพิจารณาเกี่ยวกับความสามารถและความพร้อมของคุณด้วยว่า คุณกู้เงินมาแล้ว จะสามารถชำระคืนได้ทันกำหนดหรือไม่ และในอนาคตคุณมีความพร้อมทางการเงินที่จะนำมาชำระคืนหรือไม่ หากคำตอบทั้งสองข้อคือ “ไม่” เราแนะนำให้คุณพักเรื่องการขอกู้สินเชื่อไว้ก่อน และเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ ๆ แต่หากคุณพิจารณาตนเองแล้วว่า มีความสามารถและความพร้อมทางด้านการเงินในอนาคต สามารถชำระคืนเงินให้กับผู้ให้กู้ได้ทันกำหนดเวลา คุณจึงควรเข้าไปศึกษาเกี่ยวกับเงื่อนไขต่าง ๆ ของสถาบันการเงินที่คุณต้องการกู้
ทำความเข้าใจสินเชื่อบุคคล
- วงเงินกู้
โดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับฐานรายได้และหนี้เดิมที่ผู้กู้มีอยู่ ถ้าเป็นสินเชื่อบัตรกดเงินสด คุณก็จะได้รับวงเงินประมาณ 2 – 3 เท่าของรายได้ หรือถ้าเป็นลูกค้าเดิมของสถาบันการเงินรวมทั้งมีประวัติการชำระดีมากกว่า 1 ปีมาแล้ว สถาบันการเงินอาจพิจารณาเพิ่มวงเงินให้แต่วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน (ตามกฎแบงก์ชาติ) ส่วนกรณีที่เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทเงินก้อน ก็จะได้รับวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน - ระยะเวลากู้
สินเชื่อแต่ละประเภทจะมีช่วงระยะเวลาในการคืนเงินที่แตกต่างกันไป ถ้าเป็นสินเชื่อบัตรกดเงินสด ผู้ขอสินเชื่อครั้งเดียวก็สามารถใช้วงเงินได้ตลอด เป็นลักษณะของการกู้หมุนเวียน (ชำระคืนแล้วสามารถเบิกได้ต่อเนื่อง) สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทเงินก้อน ผู้ขอสินเชื่อจะต้องชำระตามกำหนดระยะเวลาการชำระคืนไว้อย่างชัดเจน แล้วแต่วงเงินกู้และดอกเบี้ยที่ต้องชำระ ถ้าคุณต้องการใช้วงเงินนี้ใหม่ก็ต้องทำเรื่องกู้ใหม่เมื่อการกู้ครั้งแรก ระยะเวลาชำระคืนสูงสุด 60 เดือน สำหรับสินเชื่อแบบไม่มีหลักทรัพย์ ค้ำประกัน และไม่เกิน 30 ปี สำหรับสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถาบันการเงิน - ดอกเบี้ย การคิดคำนวณและค่าธรรมเนียมสินเชื่อ
ในการคิดดอกเบี้ยของสินเชื่อประเภทเงินก้อน อาจคิดได้ 2 แบบขึ้นอยู่กับประเภทและเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) และอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) สำหรับค่าธรรมเนียม ในการขอสินเชื่อแต่ละประเภท จะมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน โดยผู้ให้บริการสินเชื่ออาจยกเว้นค่าธรรมเนียมบางตัวให้กับลูกค้าได้ แต่ค่าธรรมเนียมเบื้องต้นที่มักพบในการขอสินเชื่อ หรือหลังจากมีการใช้สินเชื่อไปแล้ว อย่างเช่น ค่าอากร ร้อยละ 05 ของวงเงิน แต่ไม่เกิน 10,000 บาท เป็นต้น
แนะนำสินเชื่อส่วนบุคคลที่ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
สินเชื่อบุคคล ไม่ต้องมีหลักประกัน สามารถกู้เงินได้เลยเมื่อผ่านเงื่อนไขของทางธนาคาร ซึ่งคุณสามารถเลือกขอสินเชื่อได้ 2 แบบ นั่นคือ กู้เงินเป็นก้อน และบัตรกดเงินสด
- กู้เงินก้อน จุดประสงค์ของธนาคารก็เพื่อ ให้คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจใหม่ มีอัตราการผ่อนหนี้เท่ากันทุกเดือน และสามารถรับดอกเบี้ยได้ตามระยะเวลาที่ต้องการผ่อน
- บัตรกดเงินสด จุดประสงค์เพื่อให้คนใช้เงินยามฉุกเฉิน ไม่มีค่าธรรมเนียม 3% และ VAT 7% ในการกดเงินเหมือนบัตรเครดิต
เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการกดเงินสดจาก บัตรเครดิต และ บัตรกดเงินสด
จากข้อมูลเปรียบเทียบในตาราง จะเห็นได้ว่า หากคุณเลือกใช้บัตรกดเงินสดมาใช้ในยามฉุกเฉิน คุณจะเสียค่าใช้จ่ายรวมน้อยกว่าการกดเงินจากบัตรเครดิต เพราะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% และ Vat 7%
สรุปคือ สินเชื่อส่วนบุคคล ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีความต้องการเงินหมุนเวียน และต้องการเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วนที่ต้องใช้เงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าคุณจะเลือกรับสินเชื่อส่วนบุคคลแบบใด คุณต้องศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไข และข้อตกลงต่าง ๆ อย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องอัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาในการชำระหนี้ นอกจากนี้ ไม่ว่าคุณจะพบกับเรื่องเร่งด่วนที่ต้องใช้จ่ายเงินอย่างไร คุณจะต้องรู้จักคำนวณค่าใช้จ่ายที่คุณไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ท้ายที่สุดเราก็หวังว่าคุณจะนำตัวอย่างในตารางเปรียบเทียบของเราไปประยุกต์ใช้ในการคำนวณของคุณได้
สำหรับสินเชื่อบุคคล ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีทั้งสินเชื่อเพอร์ซันนัลแคช ที่เป็นสินเชื่อเงินก้อนสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป มีดอกเบี้ยหลากหลายและระยะเวลาผ่อนชำระคืนให้เลือกได้ตามความต้องการของคุณ โดยเริ่มตั้งแต่
- ดอกเบี้ย 9% ต่อปี ผ่อนได้นาน 12 เดือน
- ดอกเบี้ย 12% ต่อปี ผ่อนได้นานสูงสุด 24 เดือน
- ดอกเบี้ย 15% ต่อปี ผ่อนได้นานสูงสุด 36 เดือน
- ดอกเบี้ย 18% ต่อปี ผ่อนได้นานสูงสุด 60 เดือน
นอกจากนี้ยังมีบัตรกดเงินสดเอ็กซ์ตร้าแคช สำหรับใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย แถมช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษดอกเบี้ย 9% ต่อปี นาน 9 รอบบัญชีแรกสำหรับผู้สมัครใช้บริการพร้อมเพย์กับธนาคาร หรือจะเลือกโปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษ 10% ต่อปี นาน 5 รอบบัญชีแรก
สนใจสมัครได้เลยที่นี่