จากบทความที่แล้วที่นำเสนอเรื่องกลยุทธ์การค้าขายออนไลน์ มันมีความเกี่ยวเนื่องกับการค้นหาข้อมูล และแน่นอนการรีวิวหรือแนะนำว่าสินค้านั้นดี ร้านค้านั้นดี บริการนั้นเลิศ มันคือการรีวิวจากคนใช้จริงๆหรือเปล่า ซึ่งตรงนี้บอกได้เลยว่า มีปะปนกันทั้งรีวิวจริงๆจากคนใช้จริงหรือมีประสบการณ์จริงในสิ่งที่เขียนรีวิว แต่ไม่ทั้งหมดเพราะบางส่วนก็เป็นการจ้างเขียนรีวิวหรือมีหน้าม้ามาเขียนเชียร์ให้ สงสัยใช่ไหมว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้ ?
อ่านเพิ่มเติม : รู้ให้ทัน กลยุทธ์การขายของออนไลน์ ที่หลอกลวง
เพราะมันเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดซึ่งมันเกิดมาพร้อมๆกับสังคมโลกโซเชี่ยล ในยุคแรกๆมันก็เป็นลักษณะการบอกต่อ การแนะนำ จากคนที่เคยใช้จริงๆไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการทั้งในโลกออนไลน์และโลกจริงมีเหล่าบล็อกเกอร์ต่างๆ สร้างชื่อเสียงจากผลงานการแนะนำ การรีวิวบางคนมีสปอนเซอร์คือสินค้าแบรนด์ต่างๆมาจ้างเขียนแนะนำแต่บล็อกเกอร์เหล่านี้จะเขียนในความเป็นจริงของสินค้าคือใช้สินค้านั้นจริงๆ หรือไปใช้บริการสถานที่นั้นจริงๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเป็นประเภทไหนเช่น แนวความงามก็จะมีการทดลองใช้ หรือสอนการใช้พร้อมๆกับแนะนำสินค้า หรือแนวท่องเที่ยว ก็จะได้ไปพักตามที่ต่างๆถ่ายรูปและมาเขียนแนะนำ แนวอาหารก็จะไปชิมอาหารมีการถ่ายรูปและมาเขียนแนะนำ นั้นคือการรีวิวในยุคแรกๆซึ่งเน้นที่เรื่องจริงผสมกับการโปรโมทสร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับเหล่าบล๊อกเกอร์ทั้งจากการเข้าชม และจากสปอนเซอร์สินค้าต่างๆ แต่พอสังคมออนไลน์มันเติบโตบล๊อกเกอร์มีเพิ่มมากขึ้นแนวทางที่รุ่นบุกเบิกทำไว้ก็จะถูกนำมาลอกเลียนแบบเพื่อสร้างรายได้ผ่านช่องทางต่างๆและที่สำคัญมันเป็นจุดเริ่มต้นของการมโนรีวิว
ทำไมต้องมีการมโนรีวิว
ต้นเหตุน่าจะมาจากการแข่งขันที่สูงขึ้นสำหรับการค้าขายในโลกออนไลน์และกระแสของโลกออนไลน์ที่นิยมบอกเล่าเรื่องราวต่างๆให้คนอื่นรับรู้ มีการแชร์บอกต่อๆกันจนกลายเป็นจุดสนใจ ดังนั้นการเขียนรีวิวจึงกลายเป็นกลยุทธ์หนึ่งของการสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้คนหันมาสนใจสินค้า ซึ่งการเขียรีวิวในยุคนี้ต่างจากยุคแรกๆคือเขียนจากประสบการณ์จริง ผสมการโปรโมท แต่สำหรับยุคนี้มโนรีวิวหรือการเขียนรีวิวเรียกความสนใจทั้งๆที่ไม่เคยใช้จริงมันมีมากขึ้น โดยจะมีการเขียนในหลากหลายลักษณะเช่น เขียนประมาณว่าใช้จริงผสมการโปรโมทให้ดูน่าเชื่อถือ หรือเขียนแต่ด้านดีของสินค้าหรือใช้แล้วดีผสมการโปรโมทหรือโฆษณาชวนเชื่อ นอกจากนี้ยังมีเขียนรีวิวแนวสร้างกระแสต่างๆ มีการถามตอบ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทำให้ผู้บริโภคหลงเชื่อ หรือบางคนอ่านแล้วแทบแยกไม่ออกว่า รีวิวสินค้า เรื่องจริง หรือเรื่องโกหก ?
หากถามว่าการทำแบบนี้ผิดไหม
ในแง่ของจรรยาบรรณของผู้ค้านั้นผิดแน่ๆในส่วนที่โฆษณาเกินจริง แต่หากไม่ทำแบบนี้มันก็แข่งกับคนอื่นๆไม่ได้เพราะการแข่งขันการค้ามันสูงขึ้นมาก หากสินค้าที่ไม่ใช่แบรนด์ที่นิยมจนติดตลาดกลยุทธ์การค้าแบบนี้ถือว่าทำให้เกิดกระแสได้ง่าย และผู้คนส่วนใหญ่หันมาค้นหาข้อมูลต่างๆทางอินเตอร์เน็ตผ่านสังคมออนไลน์ต่างๆ การโฆษณาชวนเชื่อและการสร้างเรื่องราวให้สินค้าหรือบริการต่างๆเป็นเรื่องที่ทำกันจนเป็นปรกติไปแล้ว เพียงแต่เราจับไม่ได้ว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ รวมถึงการสร้างจุดเด่นให้คนสนใจและหันมาโพสแชร์ก็กลายเป็นการทำการตลาดที่คนนิยมมากในยุคนี้ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเอื้อต่อการทำกาตลาดแนวนี้ คือ คนส่วนใหญ่ชอบแชร์เรื่องราวๆต่างผ่านสังคมออนไลน์นั่นเอง เจออะไรสวยๆก็ต้องถ่ายรูปโพสแชร์ ใช้อะไรแล้วสวยก็ถ่ายรูปแชร์ ทานอะไรอร่อยก็แชร์ ผู้ชายหล่อก็ยังถ่ายรูปแชร์กัน ซึ่งการโฆษณาแบบนี้จะโทษคนขายอย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะเขาเอาพฤติกรรมของผู้ใช้มาเป็นโจทย์ในการหาวิธีโปรโมทในแบบต่างๆนั่นเอง