ระบบพร้อมเพย์เป็นระบบการโอนเงินที่เปลี่ยนจากการใช้เลขที่บัญชีของผู้รับเงินมาเป็นเลขที่บัตรประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือแทน ธนาคารแต่ละแห่งได้มีการเปิดให้ลูกค้ามาลงทะเบียนเพื่อผูกบัญชีธนาคารกับบัตรประชาชนหรือเบอร์มือถือไปตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อให้การโอนเงินให้กับผู้รับเงินมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยที่ใช้แค่เลขบัตรประชาชนหรือเบอร์มือถือแทนการใช้เลขที่บัญชีแบบเดิม คนโอนเงินไม่จำเป็นต้องรู้ว่าจะโอนไปที่ธนาคารไหนสาขาไหน แถมค่าธรรมเนียมในการโอนเงินก็ถูกลงมากด้วย หากโอนไม่ถึง 5,000 บาท ก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมผู้ที่จะต้องไปสมัครบริการพร้อมเพย์ ก็คือ ผู้รับเงินโอนและต่อไปทางรัฐบาลมีนโยบายที่จะใช้พร้อมเพย์นี้เป็นระบบที่ใช้ในการจ่ายคืนภาษีให้กับประชาชน รวมถึงสวัสดิการของรัฐต่าง ๆ ก็จะจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์นี้ด้วย
อ่านเพิ่มเติม : พร้อมเพย์ กับมุมมองเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน
การลงทะเบียนสมัครพร้อมเพย์เป็นการเลือกรับบริการแบบสมัครใจ ใครจะไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร ใครสมัครแล้วจะโอนด้วยวิธีใช้เลขที่บัญชีแบบเดิมก็ยังสามารถทำได้ หรือใครที่เคยสมัครไว้แล้วต้องการเปลี่ยนหรือยกเลิกก็สามารถทำได้ตลอดเวลา อย่างที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาบอกไว้ตั้งแต่ตอนแรกที่มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปลงทะเบียนใช้ระบบใหม่นี้กันว่า ให้ทุกธนาคารคำนึงถึงสิทธิ์ของประชาชนเป็นหลัก สามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการผูกบัญชีได้ง่ายและสามารถเลือกใช้บริการนี้ได้แบบสมัครใจด้วย
มีหลายคนสงสัยว่าหากสมัครพร้อมเพย์ไปแล้วจะยกเลิกได้หรือไม่ คำตอบก็คือ สามารถยกเลิกได้ตลอดเวลา แล้วเหตุผลในการยกเลิกล่ะ ทำไมสมัครแล้วต้องยกเลิกด้วย การยกเลิกพร้อมเพย์ก็น่าจะเป็นด้วยเหตุผลหนึ่งเหตุผลใดต่อไปนี้
- สมัครไปแบบไม่มั่นใจหรือบางคนอาจเผลอไปคลิกสมัครที่แอพพลิเคชั่นทางหน้าจอมือถือ เลยอยากยกเลิกไปก่อน ด้วยความที่เป็นระบบใหม่และยังไม่ได้ใช้งานจริง ทำให้ลูกค้าบางคนเมื่อลงทะเบียนไปแล้วเกิดความไม่มั่นใจ บางคนก็ลงทะเบียนไปเพราะเจ้าหน้าที่ธนาคารแนะนำ แต่เราเองก็ยังไม่ได้รู้จักระบบนี้ดีพอและยังไม่แน่ใจในเรื่องความปลอดภัยอย่างที่หลายคนกังวล จึงอยากยกเลิกไปก่อนก็สามารถทำได้
- ต้องการเปลี่ยนแปลงบัญชีธนาคารที่ผูกกับเบอร์มือถือ กรณีนี้ก็จำเป็นต้องยกเลิกการผูกบัญชีเดิมก่อน แล้วทำการสมัครพร้อมเพย์โดยผูกบัญชีใหม่ ในเรื่องของบัญชีธนาคารที่จะผูกในระบบพร้อมเพย์นี้ ต้องเลือกโดยขึ้นอยู่กับความสะดวกในการใช้งานเป็นอันดับแรก เรื่องนี้ถือว่าเจ้าของบัญชีต้องพิจารณาเองเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล
- หากเราไม่ได้ใช้งานเบอร์มือถือที่สมัครพร้อมเพย์ไว้แล้ว เช่น ยกเลิกการใช้หรือขายเบอร์ต่อให้คนอื่น ก็จำเป็นต้องแจ้งยกเลิกการผูกบัญชีพร้อมเพย์เช่นเดียวกัน หากเราไม่ทำการยกเลิกผู้ที่ใช้เบอร์มือถือต่อจากเราก็จะไม่สามารถนำเบอร์มือถือนี้ไปสมัครพร้อมเพย์ได้
ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดกรณีหนึ่งที่ทำให้ต้องแจ้งยกเลิกพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีไว้ ลูกค้าสามารถทำได้ สำหรับขั้นตอนการยกเลิกพร้อมเพย์ของแต่ละธนาคารก็ไม่แตกต่างกันมาก ขอนำมาสรุปไว้ดังนี้
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้แจ้งไว้ว่าสำหรับผู้ที่ต้องการยกเลิกพร้อมเพย์ ให้ติดต่อธนาคารที่ลูกค้าสมัครบริการเพื่อยกเลิกบริการได้เลย โดยเอกสารที่ต้องนำไปด้วยคือสมุดบัญชีและบัตรประชาชน ติดต่อได้ที่ธนาคารทุกสาขา
- ธนาคารทหารไทย ลูกค้าสามารถยกเลิกได้ผ่านช่องทาง internet banking, TMB touch ตู้เอทีเอ็มและสาขาของธนาคาร TMB
- ธนาคารกรุงไทย ได้กำหนดช่องทางในการขอยกเลิกการใช้บริการพร้อมเพย์ไว้ โดยให้ลูกค้าติดต่อแจ้งการยกเลิกผ่านที่ทำการของธนาคาร, เครื่องเอทีเอ็ม/ADM ของธนาคาร, เว็บไซด์ธนาคาร (ktbnetbank.com) หรือ Application KTB netbank ของธนาคาร
การแจ้งยกเลิกการใช้บริการพร้อมเพย์หรือการผูกบัญชีกับบัตรประชาชนหรือเบอร์มือถือนั้น สามารถทำได้ตลอดเวลา และไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น โดยการยกเลิกจะสามารถทำได้หลังทราบผลลงทะเบียนแล้ว
มีกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่ได้เป็นคนแจ้งยกเลิกบริการพร้อมเพย์ แต่พร้อมเพย์จะถูกยกเลิกไปแบบอัตโนมัติ นั่นก็คือกรณีที่บัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์อยู่นั้นถูกปิดหรือถูกยกเลิกไป บริการพร้อมเพย์ก็จะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติด้วย และหากต้องการใช้บริการใหม่ก็จะต้องทำการสมัครใหม่อีกครั้ง
มีบางกรณีเช่นกันที่ผู้ใช้บริการสงสัยว่าจำเป็นต้องแจ้งยกเลิกพร้อมเพย์หรือไม่ เช่น การย้ายค่ายมือถือ แต่ยังเป็นเบอร์เดิม กรณีนี้ไม่จำเป็นต้องแจ้งยกเลิก เพราะเบอร์เป็นเบอร์เดิมและยังใช้งานโดยเจ้าของคนเดิม จึงไม่มีผลกระทบอะไรกับระบบพร้อมเพย์ ส่วนอีกกรณีก็คือหากมือถือถูกระงับสัญญาณชั่วคราวจะเนื่องจากเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ อันนี้ก็ไม่มีผลกระทบกับพร้อมเพย์เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องแจ้งยกเลิกแต่อย่างใด ยังโอนเงินและรับเงินโอนโดยใช้เบอร์มือถือนั้นได้ตามปกติ