ฤดูกาลของการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้เริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งมีบางคนก็ต้องจ่ายเงินภาษีเพิ่ม และหลายคนที่ได้รับภาษีคืน ในขณะที่เมื่อปลายปีที่แล้วกรมสรรพากรได้ออกมาชี้แจงนโยบายการคืนเงินภาษีให้แก่ประชาชนอย่างรวดเร็วด้วยการโอนผ่านระบบบัญชีพร้อมเพย์ ทำเอาคนเสียภาษีจำนวนมากต่างพากันกังวลใจ เพราะยังไม่พร้อมที่จะไปเปิดบัญชีพร้อมเพย์สักเท่าไหร่ จึงเกิดคำถามต่อมาว่า แล้วอย่างนี้คนที่ไม่มีบัญชีพร้อมเพย์จะได้รับเงินภาษีคืนหรือไม่อย่างไร และถ้าได้รับจะช้ากว่ามากจริงหรือเปล่า…ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไรนั้น มาติดตามกันค่ะ
ถึงไม่มีพร้อมเพย์ ก็ได้รับเงินภาษีคืนแน่
กรมสรรพากรได้ออกมายืนยันให้ประชาชนคนเสียภาษีได้อุ่นใจว่า ทางกรมฯ ไม่ได้บังคับให้ประชาชนต้องไปสมัครบัญชีพร้อมเพย์แต่อย่างใด เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งที่ช่วยทำให้เกิดความสะดวกเท่านั้น ใครที่มีบัญชีพร้อมเพย์จะได้รับเงินภาษีคืนเร็วขึ้น ส่วนคนที่ไม่มีบัญชีพร้อมเพย์ ก็ยังคงได้รับเงินภาษีคืนเป็นรูปแบบเช็คเหมือนเช่นทุกๆ ปี เพียงแต่อาจต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการสักหน่อย
ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นนี้ทีมข่าวพีพีทีวี ได้โทร.ติดต่อเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรผ่านระบบคอลเซ็นเตอร์ หมายเลข 1161 เพื่อสอบถามข้อมูลและขั้นตอนการคืนภาษี ซึ่งได้รับคำอธิบายว่า หลังจากที่ได้รับการอนุมัติคืนเงินภาษีแล้ว ระบบจะส่งข้อมูลเข้าไปที่ฐานข้อมูลกลางเพื่อตรวจสอบว่าเลขประจำตัวประชาชนนั้นๆ ได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้กับธนาคารใดหรือไม่ หากประชาชนที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้จะได้เงินคืนหลังจากอนุมัติคืนเงินประมาณ 3 วันทำการ โดยโอนเข้าบัญชีที่ได้ลงทะเบียนไว้
ส่วนคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ ระบบจะส่งข้อมูลกลับมาที่กรมสรรพากรอีกครั้ง เมื่อส่วนกลางตรวจสอบและยืนยันว่าไม่ได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์อย่างแน่นอนแล้ว จึงจะจัดส่งเช็คไปให้ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ตอนยื่นแบบ ซึ่งขั้นตอนตรวจสอบตั้งแต่ต้นจนจบนี้จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 45 วันเป็นอย่างช้า
ทั้งนี้ กรมสรรพากรขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า จะได้รับเงินภาษีคืนครบทุกคนไม่มีตกหล่นแน่นอน และยืนยันถึงความปลอดภัยของระบบพร้อมเพย์ว่ามีมาตรฐาน เชื่อถือได้ ซึ่งธนาคารกรุงไทยได้เริ่มโอนเงินภาษีคืนให้แก่ประชาชนตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 60 แล้ว แต่หากใครไม่สะดวกที่จะรับเงินภาษีคืนจากทางเลือกนี้ ก็สามารถรอรับเป็นเช็คจากกรมสรรพากรได้เช่นเดิม
เพื่อความสะดวกในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปี 2559 กรมสรรพากรแนะนำให้ยื่นแบบฯ ทาง www.rd.go.th หรือยื่นทางโทรศัพท์มือถือผ่าน Rd smart tax application ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 60
ไม่ว่าจะได้รับเงินภาษีคืนจากทางใดหรือรูปแบบใด ขอให้ประชาชนคนเสียภาษีมั่นใจว่าจะได้รับเงินคืนอย่างแน่นอน และร่วมมือร่วมใจยื่นแบบฯ กันอย่างพร้อมเพรียง เพื่อให้เงินภาษีของเราเป็นเงินที่สร้างประโยชน์แก่ส่วนรวม และนำมาพัฒนาประเทศชาติให้มีความมั่นคงรุ่งเรืองต่อไป
ที่มา