การที่พนักงานประจำหรือมนุษย์เงินเดือนสักคนอย่างเราอย่างจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมีเนียม สร้างอพาร์ทเมนต์หรือบ้านให้คนอื่นมาเช่า เพื่อที่ใช้เป็นรายได้แหล่งที่สองนอกจากเงินเดือนประจำ แต่การที่จะได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไร เพราะราคาแต่อย่างก็หลักล้านขึ้นไปแล้ว มนุษย์เงินเดือนอย่างเราจะหาเงินล้านที่ไหนมาลงทุนได้ เพราะฉะนั้นการลงทุนในกองทุนรวมที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์น่าจะเป็นคำตอบสำหรับเราได้ แต่ก็มีให้เลือกอีกว่าจะลงทุนใน กองทุนรวมกลุ่มอสังหาฯ กับ กองทุนรวมอสังหาฯ กันดี
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกองทุนรวมทั้งสองแบบนี้กันก่อนที่จะเลือกลงทุนกัน มาเริ่มที่กองทุนรวมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งจะเป็นกองทุนรวมตราสารทุน ที่มีนโยบายการลงทุนในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีไม่น้อยกว่า 50 หุ้น เช่น หุ้น CPN เป็นของบมจ. เซ็นทรัลพัฒนา หุ้น LH ที่เป็นของ บมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ หรือจะเป็นหุ้น PS ที่เป็นของ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เป็นต้น โดยผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้ที่วิเคราะห์ข้อมูลของหุ้นแต่ละตัว เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนทั่วไป หรือบางครั้งก็กองทุนเองก็จะไปลงทุนในกองทนุอสังหาริมทรัพย์อีกทีก็ได้
ยกตัวอย่างกองทุนรวมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดให้ทำการซื้อขายได้ ก็เช่น กองทุนเปิด วรรณ พร๊อพเพอร์ตี้ พลัส ฟันด์ (ONE PROP) ซึ่งเป็นกองทุนเปิดที่มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อีกที ไม่ได้ไปลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดซะทีเดียว แต่ก็เลือกลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หลายๆ กอง ทีนี้ถ้าเราต้องการลงทุนในกองทุนเปิดกองนี้แล้วล่ะ เราก็แค่ไปเปิดบัญชีซื้อขายหน่วยลงทุนกับตัวแทนขายของ บลจ.วรรณ และแจ้งความประสงค์ว่าจะซื้อกองทุนเปิด ONE PROP เราก็จะได้เป็นเจ้าของกองทุนนี้โดยทันที พอถึงเวลาที่ต้องการขายเราก็เพียงแต่แจ้งความประสงค์กับตัวแทนขายของ บลจ.วรรณเหมือนเดิมว่าเราอยากขายหน่วยลงทุน แค่นี้เราก็สามารถขายหน่วยลงทุนได้เรียบร้อย ส่วนราคาซื้อขายก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าหน่วยลงทุนหรือ NAV ที่ บลจ.จะประกาศมาในแต่ละวันนั่นเอง
ทีนี้เรามาดูทางฝั่งของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กัน
โดยการบริหารกองทุนนี้จะเป็นในลักษณะที่ บลจ.จะไปสำรวจอสังหาริมทรัพย์จริงๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงงาน ฯลฯ เพื่อดูว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพในสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ จากนั้นก็จะตั้งเป็นกองทุนเพื่อระดมเงินทุนจากนักลงทุนทั่วไป เพื่อนำเงินมาซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ พอกองทุนได้มีสิทธิในอสังหาริมทรัพย์นั้นแล้ว ผู้จัดการกองทุนก็จะทำการบริหารให้มีผลตอบแทนตามที่ได้แจ้งไว้ในหนังสือชี้ชวน โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์นี้ส่วนใหญ่จะจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนเกือบจะทุกไตรมาส ยกตัวอย่างกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เช่น กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท หรือจะเป็นกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบนสมุย เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อยู่มากกว่า 50 กองทุนที่เปิดดำเนินงานอยู่ ซึ่งเราสามารถเข้าไปศึกษาได้ตามเว็บไซต์ของ บลจ.ต่างๆ หรือจะเข้าไปที่เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ก็ได้
ส่วนการที่ลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์นั้น เราจะต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์หรือหุ้นก่อน เพราะกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์นั้นจะจดทะเบียนเป็นหุ้นตัวหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ โดยการจะได้หน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์นั้นมีสองแบบ คือ ถ้าซื้อในช่วงที่เปิดขายครั้งแรกหรือที่เรียกว่าช่วง IPO นั้น เราก็เพียงแต่ทำเรื่องของจองซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กับตัวแทนที่เราเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น แต่ถ้าต้องการซื้อขายหลังจากนั้น เราก็จะต้องเข้าไปส่งคำสั่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่ากองทุนรวมนี้จะจดทะเบียนเป็นหุ้นหนึ่งตัวในตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคาซื้อขายก็ขึ้นอยู่กับราคาปิดของตลาดในแต่ละวัน
ซึ่งพอจะสรุปความแตกต่างระหว่างกองทุนเปิดอสังหาริมทรัพย์กับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ตามตารางนี้เลย
ทีนี้ถ้าเราสนใจแบบไหนก็ลองไปศึกษาข้อมูลต่างๆ ในเว็บไซต็ของ บลจ. กัน ก็จะทำให้เราเข้านโยบายการลงทุนของแต่ละกองกัน หลังจากนั้นค่อยเลือกลงทุนในกองทุนที่ตรงกับความสนใจของเรา เพื่อที่เราจะได้ลงทุนในสิ่งที่ต้องการและศึกษามาเป็นอย่างดีแล้วจริงๆ และก็อย่าลืมกันนะว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาในเข้าใจก่อนการลงทุน”