เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่เราถูกสอนให้ทำงานหาเงิน แต่ไม่มีการสอนเกี่ยวกับจัดการและบริหารเงิน เมื่อหาเงินได้แล้ว จึงไม่รู้วิธีที่จะใช้เงินทำงาน หรือไม่รู้วิธีที่จะจัดการเงินที่หามาได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เรามีความรู้ด้านการเงินมาฝาก เป็นความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการเงินเบื้องต้น โดยปกติคนเราจะเกี่ยวข้องกับเงิน 4 ช่องทาง คือ การหาเงิน การใช้เงินที่หามาได้ การนำเงินไปต่อเงิน และการปกป้องเงินไม่ให้รั่วไหลออกไปฟรีๆ
ในแผนการเงินของเรา จะต้องมีเรื่องของการหาเงิน แหล่งที่มาของรายได้ อาจเป็นเงินเดือน เงินจากการค้าขาย เงินจากการรับจ้างทำงาน นอกจากรายได้ทางปกติแล้ว เราควรจะมีรายได้เสริมขึ้นมาอีกช่องทางหนึ่ง ถ้าทำงานประจำ ก็อาจจะไปขายของวันเสาร์อาทิตย์
เมื่อหาเงินมาได้แล้ว ก็ต้องนำเงินไปใช้จ่ายสำหรับการดำรงชีวิต เช่น ค่ากินค่าอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทางต่างๆ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ต้องจัดการอย่างรัดกุมและคุ้มค่า ค่าใช้จ่ายด้านบันเทิงและท่องเที่ยวต่างๆ ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าควรจะใช้เงินกับเรื่องเหล่านี้อย่างไร ปีละกี่ครั้ง ไม่ใช่เที่ยวพร่ำเพื่อจนไม่มีเงินเหลือเก็บ
หลังจากหักค่าใช้จ่ายไปแล้ว ต้องกันเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับออมในระยะยาว สะสมจนมากพอที่เงินเหล่านี้พอที่จะนำไปต่อยอดลงทุนในด้านต่างๆ เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุนทางเลือกอื่นที่ตัวเองสนใจหรือมีความถนัดเป็นพิเศษ
ส่วนสุดท้ายคือการปกป้องเงินไม่ให้ไหลออกไปอย่างเปล่าประโยชน์ หรือเสียเงินไปฟรีๆ เช่น การใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีต่างๆ การทำประกันชีวิตเป็นต้น ถ้าเราสามารถจัดการบริหารเงินทั้ง 4 ด้านนี้อย่างสมดุลและมีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้ฐานะการเงินของเราไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก
ในบทความนี้จะขยายความเรื่องการปกป้องเงินด้วยการทำประกันชีวิต
การทำประกันชีวิต คือการป้องกันความเสี่ยงในการสูญเสียเงินไปกับเรื่องของสุขภาพ ความเจ็บป่วย และอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เพราะเมื่อไหร่ที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ย่อมนำมาซึ่งการสูญเสียเงินทองไม่มากก็น้อย ในรายที่โชคร้าย อาจสูญเสียความสามารถในการทำงาน หารายได้ นั่นหมายความว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบเหตุนั้นจะต้องตกเป็นภาระของผู้อื่นทันที เงินทองที่เก็บสะสมเอาไว้ อาจต้องหมดไปกับค่ารักษาพยาบาล หากเราไม่ได้มีการวางแผนเรื่องนี้ไว้ ชีวิตต้องตกอยู่ในสภาพลำบากอย่างแน่นอน จริงอยู่ที่โอกาสเกิดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเกิดโชคร้ายขึ้นมาจะทำอย่างไร สิ่งที่พอจะช่วยบรรเทาได้ก็คือการทำประกันชีวิตประกันสุขภาพ
ซึ่งปัจจุบันมีหลายรูปแบบให้เลือก ให้ทั้งความคุ้มครองกรณีประสบภัยและเจ็บป่วยต่างๆ หรือหากไม่ประสบภัยใดๆ ก็จะมีเหลือเก็บออมเป็นเงินก้อนไว้ได้ แน่นอนว่าทุกอย่างไม่มีอะไรฟรี คงไม่มีคนใจดียอมจ่ายโดยไม่หวังผลตอบแทน การที่เราอยากได้ความคุ้มครอง เราก็ต้องจ่ายบางอย่างออกไป ที่นี้การจ่ายก็มีตัวเลือก โดยเฉพาะปัจจุบัน แบบของประกันชีวิตมีมาก ตอบโจทย์ได้ทุกลักษณะการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ จะมีรายได้มากหรือน้อย ก็จะมีแบบของประกันตอบโจทย์ได้ทั้งนั้น แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า คงไม่มีอะไรได้ดังใจและสมประโยชน์เราทุกอย่าง เช่น ชอบจ่ายน้อยๆ แต่อยากได้ความคุ้มครองมากๆ มากจนเกินพอดี มากจนคนรับประกันเขาดำเนินธุรกิจต่อไปไม่ได้ นั่นก็ออกจะเกินไป
เหตุผลง่ายๆ 3 ข้อที่บอกได้ว่าทำไมเราถึงควรซื้อประกัน
กล่าวโดยสรุป เราควรมีประกันชีวิตในพอร์ตการเงินของเรา หากมีเงินไม่มาก ลองเลือกหาตัวที่จ่ายเบี้ยน้อย แบบไม่เป็นภาระดูก่อน ในวันหน้าเมื่อมีรายได้มากขึ้นค่อยขยับขยายไปสู่แบบที่คุ้มครองมากขึ้นโดยจ่ายเบี้ยมากขึ้น ขอให้ได้ริเริ่มก่อน อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ เพราะทุกวันนี้ศัพท์แสงทางประกันชีวิตค่อนข้างซับซ้อน และมีการแบ่งซอยแบบประกันแยกย่อยมากมาย หากเราไม่รู้อะไรเสียเลย ก็อาจทำให้เราเลือกแบบประกันได้ไม่คุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่จ่ายไป หรือเลือกได้ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์และแผนการเงิน สรุปว่า ทำประกันเถอะครับ เพื่อคนที่คุณรักและตัวคุณเอง