รู้ทัน แชร์ลูกโซ่ การหลอกลวงที่มาพร้อมเศรษฐกิจที่ตกต่ำ

แชร์ลูกโซ่ คือรูปแบบของการดำเนินงานธุรกิจ ที่มุ่งเน้นการหารายได้เพื่อระดมทุนเป็นหลัก พร้อมทั้งแอบอ้างการดำเนินงานกับธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ธุรกิจขายตรงที่มักจะโดนแอบอ้าง หรือนำมาทำเป็นแนวทางในการหลอกลวงมากที่สุด และธุรกิจแฟรนไชส์ หรือแม้กระทั่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ เป็นต้น ก็เพื่อทำให้รู้สึกถึงความน่าเชื่อถือ และสามารถที่จะเข้าถึงผู้คนได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งในตัวสัญญามักจะมีการอ้างถึงผลลัพธ์ที่จะได้คืนกลับไปในจำนวนมหาศาล หรือทรัพย์สินต่าง ๆ ที่เป็นการนำมาล่อใจผู้ที่เข้าร่วมทั้งรถหรูราคาแพง และบ้านหรูหลักล้าน โดยจะมีการให้ลงเงิน หรือระดมเงินทุนเพื่อใช้ในการลงทุนรูปแบบต่าง ๆ เพื่อที่จะเอามาปันรายได้แจกจ่ายผู้ที่ทำธุรกิจนั้น ๆ ร่วมกันให้ทั่วถึง

ซึ่งในช่วงแรกก็จะมีการหมุนเวียนของเงินที่ดี สมาชิกจะได้เงินครบตามจำนวนจริง แต่เมื่อเกิดการหาสมาชิกเช้ามาเพิ่มมากขึ้นเมื่อไหร่ การหมุนเวียนของเงินนั้นก็จะเริ่มติดขัด และเงินก็จะไปไม่ถึงสมาชิกที่เข้ามาหลัง ๆ จากนั้นก็จะปิดตัวลงทันที ทำให้ผู้ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ต้องพากันสูญเสียเงินไปหลักหมื่นจนถึงหลักหลายล้านบาทเลยทีเดียว ถ้าใครได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่สม่ำเสมอ จะพบว่าในแต่ละปีจะมีขบวนการแชร์ลูกโซ่เหล่านี้อยู่ทุกปี และมีกลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันมาแจ้งความกันก็บ่อยครั้ง และเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องมานับ 20-30 ปี ที่ผ่านมา ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากตกเป็นเหยื่อ ขอให้อ่านบทความนี้เพื่อให้รู้เท่าทันขบวนการเหล่านี้

ในปัจจุบันนั้นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ได้มีการพัฒนามาเป็นธุรกิจแบบแฟรนไชส์ที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ

• แบบดั้งเดิม

คืออาศัยการชักชวนกันมาเป็นสมาชิก เพื่อทำการร่วมลงทุนกัน โดยมักจะใช้รูปแบบเดียวกับสหกรณ์ เป็นการร่วมกันระดมเงินทุนให้ได้เม็ดเงินในจำนวนที่มากเข้าสู่ระบบ พร้อมทั้งนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่มีการให้ค่าตอบแทนที่สูงมาก แล้วพัฒนาการจ่ายให้เป็นระบบเดียวกับธุรกิจขายตรง และพัฒนามาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นมาแบบแฟรนไชส์ ซึ่งวิธีทั้งหมดนี้ทำให้วงการแชร์ลูกโซ่มีเงินสะพัดอย่างมหาศาลเลยทีเดียว ทั้งนี้บริษัทที่เข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่จะมีการกระจายตัวไปตามที่ต่าง ๆ โดยมีการเปลี่ยนไปในหลาย ๆ ชื่อ และมีการแอบอ้างการดำเนินงานในหลาย ๆ รูปแบบ และจะเข้าชักจูงผู้คนให้มาเข้าร่วมลงทุน โดยแอบอ้างเรื่องของการขออนุญาตที่ทำปลอมขึ้นมา หรือการหาหน้าม้าที่แอบอ้างตนเป็นเจ้าพนักงานในยศที่ใหญ่โตเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และจะมีการตังวงแชร์สารพัดที่มีอยู่บนโลกทั้ง แชร์น้ำมัน, แชร์หุ้น, แชร์ยาบำรุง, แชร์ทอง, และแชร์ในด้านเครื่องอุปโภคและบริโภคต่าง ๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน

• แบบออนไลน์

เป็นแชร์ลูกโซ่แนวใหม่ที่เข้าถึงผู้คนในยุคออนไลน์โดยผ่านทางอินเตอร์ในรูปแบบของ ธุรกิจอีมันนี่ หรือมันนี่เกม เป็นลักษณะของการทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ด้วยการเปิดเว็บทั่ว ๆ ไปมาหนึ่งเว็บแล้วให้ผู้คนมาร่วมลงทุนกับทางเว็บไซต์ ที่จะเป็นเว็บประเภทรับฝากเงินจากสมาชิก ซึ่งจะมีข้ออ้างในการในการนำเงินนั้นไปดำเนินการลงทุนทำธุรกิจต่าง ๆ เช่น การลงทุนในตราสารหุ้น การลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ หรือธุรกิจการแลกเปลี่ยนเงินตรา เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันได้มีการทำเว็บเหล่านี้ขึ้นมามากมาย แต่ก็เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน คือหลอกให้คนเข้ามาเป็นสมาชิกแล้วร่วมกันระดมทุนพร้อมทั้งหาสมาชิกเพิ่ม และเมื่อสมาชิกเริ่มเยอะขึ้น และมีการโอนเงินที่สะพัดมากขึ้นก็จะทำการไล่ปิดตัวลงไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหายไปเลย

ธุรกิจ แชร์ลูกโซ่ มักจะระบาดอย่างหนักในช่วงของเศรษฐกิจที่ตกต่ำ เพราะในยามนี้ผู้คนมักที่จะหารายได้เพิ่ม หรือต้องการแหล่งเงินที่สามารถเข้าถึง หรือผลตอบแทนจากการค้าขายอะไรสักอย่างที่จะทำให้ได้เงินเพิ่มพูนขึ้น มิจฉาชีพเหล่านี้จึงจับเอาจุดอ่อนของผู้คนในเรื่องเงิน นำมาสู่การเป็นแชร์ลูกโซ่ที่หลอกลวงเงินผู้คน จนทำให้ต้องสูญเสียเงินไปอย่างมหาศาลแล้วก็หนีไปอย่างไร้ร่องรอย ดังที่จะเห็นตามข่าวในช่องทีวีต่าง ๆ หรือข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ที่มักจะมีการตามจับแชร์ลูกโซ่เหล่านี้เพิ่มเยอะขึ้นทุกวัน และทำความเสียหายในแต่ละครั้งถึงหลักพันล้านเลยทีเดียว โดยในบางกลุ่มที่โดนหลอกก็ยังมีการเข้าร้องเรียนตามรายการต่าง ๆ เพื่อให้ช่วยในการตามตัวผู้ที่กระทำความผิด

อย่างเช่น กรณีของรายการ สถานีประชาชนทางช่องไทยพีบีเอส ที่ได้มีการติดตามคดีแชร์ลูกโซ่น้ำมันหอมระเหย DCHL ที่ทางรายการได้มีการติดตามความคืบหน้าคดีจากทาง DSI ที่ลงสู่พื้นที่เกิดเหตุ และตามหาตัวผู้กระทำผิด ที่มีผู้เสียหายถึง 1 พันคนและทำมูลค่าเสียหายถึง 1 พันล้านบาท โดยแชร์น้ำมันหอระเหยนี้ได้มีการหลอกคนเพื่อระดมทุนแลกกับค่าตอบแทนสูง โดยมีเรื่องของน้ำมันหอมระเหยมาแอบอ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่มีการปันผลใด ๆ ซึ่งผู้เสียหายมีอยู่ในหลาย ๆ จังหวัด ล่าสุดคดีความได้มีการส่งสำนวนฟ้องศาลไปแล้วเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2558 ในขณะนี้ทางดีเอสไอ (DSI) ก็ได้มีการไล่สอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 1 หมื่นคนในชุดที่ 2 และสามารถติดตามรายละเอียดของเรื่องนี้ได้ทางรายการสถานีประชาชน ได้ที่ http://www.thaipbs.or.th/program2/watch/k3H41B   หรือดูผ่านทีวีที่บ้านเวลา 14.05-15.30 น. ทุกวัน ยกเว้นเสาร์-อาทิตย์

เพิ่มเติม : บัตรเครดิตซิตี้แบงก์ แคชแบ็ก คืนเงินทุกครั้งที่ใช้จ่าย