การ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คือ การโอนย้ายเจ้าหนี้เพื่อให้จัดการกับก้อนหนี้ได้ง่ายขึ้น จากเดิมที่อาจมีหนี้หลายก้อน ดอกเบี้ยมากน้อยไม่เท่ากันอาจสร้างความสับสน การโอนย้ายหนี้ให้รวมกันเป็นก้อนเดียวแล้วกู้จากแหล่งเงินทุนใหม่ที่เสนออัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าแล้วนำเงินที่ได้ไปปิดหนี้ก้อนเก่า เพื่อลดความซ้ำซ้อนและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน ปัจจุบันมีธนาคารหรือสถาบันการเงินหลายเจ้าเปิดให้มีการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการรีไฟแนนซ์หนี้ ควรพิจารณาข้อดีข้อเสียให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ 5 ขั้นตอนรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ง่ายๆ มีดังนี้
อ่านเพิ่มเติม : รีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิต แคมเปญดี ๆ ปี 2559
1.แจกแจงรายละเอียดหนี้ที่มีทั้งหมด
คุณรู้หรือไม่ว่ายอดหนี้ทั้งหมดของคุณคือเท่าไหร่ คุณมีหนี้ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ผ่อนโทรศัพท์ หรือหนี้เพื่อการกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพิ่มเติมด้วยหรือไม่ ทำรายการแจกแจงหนี้ที่คุณมีทั้งหมดรวมถึงรายการผ่อนในบัตรเครดิตทุกใบด้วย การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมได้ดีขึ้นเมื่อหนี้ถูกยุบรวมเป็นก้อนเดียว ด้วยการกู้ยอดใหม่มาปิดยอดเดิม และค่อยๆ ผ่อนยอดใหม่จนกว่าจะหมด
2.พิจารณาความสามารถในการจ่ายหนี้ของตนเอง
การคำนวณและควบคุมแจกแจงรายรับรายจ่ายของตัวเองจะช่วยให้การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตประสบความสำเร็จในระยะยาว โดยใช้รายรับรายใจย้อนหลัง 6 เดือนมาคำนวณและพิจารณาว่า ยอดค่าใช้จ่ายส่วนใดฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นและสามารถตัดออกได้ ด้วยการประหยัดค่าใช้จ่ายทำให้เราเหลือเงินเยอะขึ้น เอาตัวเลขที่ได้ไปคำนวนว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการจัดการกับยอดหนี้ที่มีอยู่ได้โดยยังไม่ต้องรวมดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น หลังจากนั้นนำดอกเบี้ยมาคิดด้วยว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่เพื่อผ่อนหนี้ในอัตราดอกเบี้ยที่กำหนด เช่น ใช้อัตราดอกเบี้ย 6%, 10%, 12% ต่อ 3, 5 และ 10 ปี เป็นต้น เพื่อให้ได้ค่าผ่อนรายเดือนที่เราผ่อนไหว และจะช่วยให้คุณรู้คุณสามารถยอมรับอัตราดอกเบี้ยได้ที่เท่าไหร่
3.ปรึกษากับเจ้าหนี้ก่อนปิดยอดหนี้เก่า
การปิดหนี้ก้อนใหญ่กับเจ้าหนี้ก่อนกำหนดอาจมีค่าปรับ ซึ่งค่าปรับนี้จะถูกระบุไว้แล้วในสัญญาเงินกู้ แต่หากไม่ได้ระบุในสัญญาหรือพอจะต่อรองได้ ก็ควรจะลองดูก่อน แต่ถ้าหากมีค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมเกิดขึ้นจริงๆ ต้องแน่ใจว่าค่าปรับนั้นจะรวมอยู่ในยอดกู้ใหม่ด้วย
4.ติดต่อเจ้าหนี้รายใหม่ที่เสนอทางเลือกที่ดีกว่า
ใช้ตารางรายรับรายจ่ายในข้อ 2 บวกค่าปรับที่อาจเกิดขึ้นในข้อ 3 ในการคำนวนและมองหาเจ้าหนี้รายใหม่ที่มีข้อเสนอที่ดีกว่า อาจเริ่มจากหาผู้ให้กู้ผ่านข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ที่สามารถสอบถามข้อมูลปรึกษาพูดคุยแจ้งความต้องการได้ อย่างไรก็ตามก่อนจะเลือกจะต้องพิจารณาแหล่งเงินกู้ที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย มีหนังสือสัญญาชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง
5.พิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
ไม่ใช่แค่อัตราดอกเบี้ยเท่านั้นที่ต้องนำมาพิจารณาเมื่อตัดสินใจรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ค่าธรรมเนียมและค่าปรับหากจ่ายล่าช้าเกินกว่าเวลาที่กำหนด ก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะถ้าเป็นข้อกำหนดที่เอาเปรียบหรือแพงจนเกินไปก็จะเพิ่มภาระและความเครียดให้แก่ผู้กู้จนเกินไป นอกจากนี้ค่าปรับหากปิดยอดหนี้เร็วกว่ากำหนดต้องถูกนำมาพิจารณาด้วยเช่นกัน เราจึงควรเลือกสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ รวมถึงทำความเข้าใจและรู้รายละเอียดขั้นตอนต่างๆ จะช่วยคลายความกังวลและลดความเครียดในอนาคต