การรีไฟแนนซ์ หรือการขอสินเชื่อเพื่อปิดหนี้เก่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่เป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ทำให้เราไม่สามารถจ่ายรายเดือนได้ไหวอีกต่อไป การรีไฟแนนซ์เป็นการช่วยให้ลูกหนี้มีเงินก้อนเพื่อนำไปปิดหนี้เก่าแล้วค่อยมาจัดการบริหารกับหนี้ก้อนใหม่แบบที่เราสามารถผ่อนจ่ายได้สบายขึ้น เหมือนเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการจัดระบบหนี้ให้เหมาะกับรายได้ของเรา การรีไฟแนนซ์ยังช่วยให้ไม่ต้องเสียประวัติ หนี้ไม่ต้องกลายเป็นหนี้เสีย หรือว่าไม่ต้องถูกเจ้าหนี้ฟ้องศาล ต้องเสียทั้งเงินและเวลา
เรามาอัพเดทกันค่ะ ว่าตอนนี้แต่ละธนาคารมีสินเชื่ออะไรบ้างที่น่าสนใจที่เราขอกู้เพื่อปิดหนี้ได้
สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
สมัครออนไลน์ รับฟรี Central Gift Voucher มูลค่า 500 บาท สำหรับวงเงินอนุมัติตั้งแต่ 300,000 บาทขึ้นไป หมดเขต 31 ธันวาคม 2559 นี้
ดอกเบี้ยพิเศษ
สำหรับพนักงานที่มีรายได้ประจำตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป
- 9% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา สูงสุด 1 ปี
- 12% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา สูงสุด 24 เดือน
- 18% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา สูงสุด 60 เดือน
สำหรับพนักงานที่มีรายได้ประจำตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป
- 15% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา สูงสุด 36 เดือน
เอกสารประกอบการสมัคร
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เพื่อโอนเงินกู้
- เอกสารแสดงรายได้ สลิปเงินเดือนตัวจริงย้อนหลัง 2 เดือน ถ้าใช้สำเนาสลิปเงินเดือน สลิปเงินเดือนที่พิมพ์จากคอมพิวเตอร์หรือหนังสือรับรองเงินเดือน ต้องมีสำเนาบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือนมาแสดงด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0 2626 7777 หรือดูรายละเอียดได้ ที่นี่
วงเงินสแตนด์บายแคช วงเงินฉุกเฉินพร้อมใช้ ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด
เงื่อนไข ถ้าสมัครวันนี้ – 31 มกราคม 2560
- รับดอกเบี้ยพิเศษ 9.99% 12 เดือนแรก (ลูกค้าต้องไม่เคยมีวงเงินสแตนด์บายแคชมาก่อน หรือลูกค้ายกเลิกวงเงินสแตนด์บายแคชมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน) ลูกค้าต้องสมัครวงเงินทางออนไลน์ ผ่าน www.sc.com/th เท่านั้น
- กดเงินถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม หรือ โอนเงินเข้าบัญชี รับดอกเบี้ยพิเศษ 10.99% 4 เดือน
- ฟรีค่าธรรมเนียม กดเงินผ่านตู้เอทีเอ็มตลอด 24 ชั่วโมง
- วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท
- ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือ บุคคลค้ำประกัน
- ระยะเวลาการผ่อนชำระ 12-60 เดือน
หลังจากครบระยะเวลาโปรโมชั่นของดอกเบี้ยแล้ว ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยในอัตราปกติดังนี้
*อัตราดอกเบี้ย 28% ต่อปี คิดจาก MRR = 12.75% + 15.25%
คุณสมบัติของผู้สมัครสินเชื่อสแตนด์บายแคช
- สัญชาติไทย
- มีรายได้ประจำเป็นเงินเดือน 20,000 บาทขึ้นไป
- ต้องได้รับอนุมัติวงเงินขั้นต่ำเท่ากับเงินเดือน เช่น ถ้าเงินเดือน 20,000 บาท วงเงินที่ได้รับอนุมัติ ต้องเท่ากับ 20,000 บาท
- สิทธิ์ในการได้รับดอกเบี้ยพิเศษจะต้องเลือกโปรแกรมผ่อนชำระ 24 เดือน และหากจ่ายคืนหนี้หมดก่อน จะไม่ได้สิทธิ์รับดอกเบี้ยพิเศษนี้
ผู้ที่สนใจสมัครสินเชื่อสแตนด์บายแคชของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ติดต่อได้ที่ 1595 หรือ www.sc.com/th หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
สินเชื่อเงินสดพร้อมใช้ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์
- เลือกรับโปรแกรมชำระคืนเป็นรายเดือน หรือเลือกชำระคืนขั้นต่ำ 5%
- อนุมัติเงินรวดเร็วภายใน 30 นาทีที่สาขา หรือเคาน์เตอร์กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์
- เลือกช่องทางในการรับเงินสด กดผ่านเอทีเอ็ม รูดรับเงินสดที่เคาน์เตอร์หรือสาขา หรือให้โอนเข้าบัญชีธนาคาร
สมัครวันนี้ – 31 มกราคม 2560
ดอกเบี้ยชำระคืนเป็นรายเดือน
สินเชื่ออเนกประสงค์ 5Plus ของธนาคารกรุงไทยผู้ที่สนใจสมัครสินเชื่อเงินสดของกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ติดต่อได้ที่ 0 2345 6789 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
สินเชื่ออเนกประสงค์ 5Plus เป็นสินเชื่อบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน มีวัตถุประสงค์ในการให้กู้เพื่ออุปโภคบริโภคและเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ที่มีกับสถาบันการเงินอื่น แต่มีเงื่อนไขว่าต้องเป็นพนักงานประจำที่มีบัญชีเงินเดือนกับธนาคารกรุงไทย โดยที่ธนาคารกรุงไทยจะหักเงินค่างวดจากบัญชีเงินเดือนทุกเดือน
คุณสมบัติของผู้กู้
- เป็นพนักงานประจำ
- มีเงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท และมีเงินได้จ่ายผ่านบัญชีเงินเดือนกับธนาคารกรุงไทย
- อายุการทำงานไม่น้อยกว่า 1 ปี
- อายุไม่เกิน 60 ปี
เงื่อนไขในการชำหนี้ ธนาคารจะหักจากบัญชีเงินเดือน เป็น Auto Debit
อัตราดอกเบี้ย MRR + 7% ต่อปี (MRR ปัจจุบัน = 14.875% ต่อปี)
ระยะเวลาการผ่อนชำระ 60 เดือน
วงเงินกู้ สูงสุด 5 เท่าของเงินเดือน ไม่เกิน 1 ล้านบาท
เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อยื่นขอกู้
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน
- หนังสือรับรองรายได้ หรือสลิปเงินเดือน
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
- กรณีขอสินเชื่อเพื่อนำไปชำระหนี้ ให้แนบเอกสารใบแจ้งยอดหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อบุคคลของสถาบันการเงินอื่นด้วย
ผู้ที่มีบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงไทยและสนใจที่จะรีไฟแนนซ์หนี้กับธนาคาร ติดต่อได้ที่ 0 2111 1111 หรือ www.contactcenter.ktb.co.th
หลังจากรีไฟแนนซ์หนี้ได้สำเร็จแล้วก็อย่าลืมที่จะรักษาวินัยในการใช้เงิน โดยต้องเริ่มวางแผนการเงิน บันทึกรายรับรายจ่ายของเราอย่างจริงจัง ควบคุมเรื่องเงินให้เข้มงวดมากขึ้น และที่สำคัญคือไม่ควรก่อหนี้เพิ่ม หนี้ก้อนใหญ่ที่ทำให้เรามีปัญหาก่อนหน้านี้จนต้องมารีไฟแนนซ์ก็ต้องอย่าหวนกลับไปใช้มันอีก