หลังจากมีโครงการจากรัฐบาลออกมามากมายก่อนหน้าเพื่อที่จะช่วยให้ประชาชนมีเงินนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ ชิม ช้อป ใช้ เราเที่ยวด้วยกัน เราไม่ทิ้งกัน และตอนนี้มีโครงการใหม่จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563 โดยจะแจกเงิน 3000 บาทให้กับผู้ที่ลงทะเบียนทัน 10 ล้านคน ดังนั้นขอให้เตรียม Smart Phone ของท่านให้พร้อม ชาร์จแบ็ตให้เต็ม มี wifi หรือ เน็ตมือถือ และลุย !
เปิด 3 ขั้นตอน วิธีลงทะเบียน “www.คนละครึ่ง.com” จากรัฐบาล ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว รับ 3000 บาท
ขั้นตอนการลงทะเบียน www.คนละครึ่ง.com
- เปิดเว็บไซต์ คนละครึ่ง.com
- ลงทะเบียนให้เรียบร้อย และรอ SMS ยืนยันผ่านโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียน
- นำโทรศัพท์มือถือของท่านขึ้นมา ติดตั้ง Application “เป๋าตัง” เพื่อจะได้รับสิทธิ์โครงการ “คนละครึ่ง”
ก่อนที่ทุกคนจะลงทะเบียนนั้น ขอให้ทราบเงื่อนไขว่าผู้ใดบ้าง ? ที่มีสิทธิ์ลงทะเบียนรับเงิน
- คนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนทั้งสิ้น 10 ล้านคนเท่านั้น
ผู้ที่ลงทะเบียนเริ่มลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้เมื่อใด ?
- ท่านสามารถลงทะเบียนได้ในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป ที่เว็บไซต์ คนละครึ่ง.com โดยเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่เวลา 06.00 – 23.00 น.
โดยในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ท่านสามารถเริ่มใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งได้
ข้อควรรู้สำหรับโครงการคนละครึ่ง คือ
- ท่านที่ลงทะเบียนสำเร็จ และติดตั้ง Application “เป๋าตัง” จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2563
- ต้องใช้สิทธิ์นี้ภายใน 14 วัน มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ และทางการจัดเปิดรับให้ประชาชนได้ลงทะเบียนเพิ่ม
- โครงการคนละครึ่งนี้ รัฐบาลจะช่วยจ่ายเงิน 50% แต่ไม่เกิน 100 บาท ต่อวัน ต่อคน หรือไม่เกิน 3000 บาทต่อคนตลอดระยะเวลาของโครงการคนละครึ่ง
- วิธีการใช้สิทธิ์ นั้นมีหลักการง่าย ๆ ดังนี้
- รัฐบาลจ่ายเงิน 50% ของมูลค่าสินต้า แต่ไม่เกิน 100 บาท ต่อคนต่อวัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการซื้อสินค้ามูลค่า 200 บาท รัฐบาลจะช่วยออกให้ 100 บาท และเราจ่ายเงินเพิ่มเองอีก 100 บาท
โดยร้านค้าใหม่ที่อยากร่วมเข้าโครงการคนละครึ่ง จะต้องเป็นร้านค้าย่อยเท่านั้น ไม่ใช่ร้านเฟรนไชส์ เช่น 7-11 ยกตัวอย่างร้านที่สามารถจะใช้สิทธิ์ได้มีดังนี้
-
ร้านอาหาร
-
เครื่องดื่มทั่วไป
-
ร้านแผงลอย
-
ร้านขายของชำโชห่วย
โดยร้านค้าใหม่นั้นรัฐบาลจะเปิดให้สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 กรณีร้านค้านั้นได้เคยร่วมโครงการอื่น ๆ กับภาครัฐไปแล้วอาทิเช่น ชิมช้อปใช้ หรือ เราเที่ยวด้วยกัน ท่านก็ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่
ส่วนร้านที่ไม่รวมในโครงการ คือร้านค้าที่จดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อ ไม่ใช่ร้านเฟรนไชส์ และไม่รวมร้านขายล็อตเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และการบริการ
ดังนั้นเมื่อทุกคนได้รับเงินสนับสนุนครึ่งหนึ่งจากรัฐบาลให้ใช้สอย ก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ร้านค้าที่เงียบเหงาในช่วงที่ทุกคนกลัวไม่กล้าเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งร้านอาหาร ร้านค้าต่าง ๆ ของประเทศไทยอยู่ได้เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนไทยอย่างเราจึงต้องช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการที่รัฐบาลช่วยจ่ายครึ่งนึงก็ถือว่าช่วยได้พอสมควร และมีข้อดีอีกอย่างที่รัฐบาลไม่ได้ต้องการสนับสนุนร้านค้าสะดวกซื้อเฟรนไชส์ แต่อยากให้ทุกคนได้ซื้อผู้เป็นเจ้าของกิจการรายย่อย กระตุ้นให้เกิดการซื้อในช่วงไตรมาสสุดท้าย ตุลาคมของปีพ.ศ. 2563
อย่างไรก็ตามขอให้ระมัดระวังการใช้จ่าย อย่าเผลอซื้อเพลิน เกินโควตาที่เขากับหนด โดยรัฐบาลให้ได้ไม่เกินวันละ 100 บาท บางทีเราสั่งอาหารอาจจะสั่งเกินไปจนเกินพอดี ขอให้ซื้อได้พอประมาณจะได้ไม่ต้องจ่ายส่วนต่างจนมากเกินไป เพียงเท่านี้เราก็จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ แทนการที่ต้องซื้อของมากเงินความจำเป็น
ข้อมูลอ้างอิง https://www.prachachat.net/breaking-news/news-525661