ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่ค่อนข้างผันผวนอย่างมาก การทำธุรกิจต่าง ๆ ก็ได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน เช่น เมื่อราคาน้ำมันลง ในบางอุตสาหกรรมก็จะได้ประโยชน์ บางอุตสาหกรรมก็เสียรายได้ รายได้ลดลงหรือมีการก่อการร้าย สภาพเศรษฐกิจโดยรวมก็จะตกต่ำลง โดยส่งผลกระทบเป็นทอด ๆ ซึ่งเศรษฐกิจของทุกประเทศบนโลกนี้ก็เชื่อมโยงกันอยู่นั่นเอง ดังนั้นหลาย ๆ ธุรกิจก็อาจจะต้องปิดตัวลงและอีกแง่หนึ่งก็มีหลาย ๆ คนที่อยากจะสร้างธุรกิจขึ้นมา เพราะคิดว่านี่คือโอกาสและธุรกิจที่หลาย ๆ คนชอบ และเห็นว่าเป็นธุรกิจที่ดีนั้นก็มีหลายประเภท และหนึ่งในนั้นก็คือ ธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างดี ไม่มีทางหายไปจากโลกของเรา เพราะเป็น 1 ใน 4 ปัจจัยหลักของมนุษย์ แต่การที่บอกว่าจะไม่มีทางหายไปจากโลกของเรานั้น คือ ธุรกิจอาหารแต่อาจจะไม่ใช่ร้านของเราหรือร้านของใคร หากดำเนินธุรกิจได้ไม่ดีพอ
อยากเปิดร้านอาหาร ลงทุนเท่าไรดี ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น เราอยากเปิดร้านอาหารแบบไหน เปิดร้านอาหารเล็ก ๆ หรือเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ เปิดเป็นร้านอะไรดี ขายกาแฟ ขายขนม หรือขายอาหารไทย เป็นต้น เมื่อเราวิเคราะห์ได้แล้ว ว่าเราอยากเปิดร้านอาหารแบบไหน เราก็มาดูงบในกระเป๋าเรา
เช่น หากเราอยากเปิดร้านกาแฟ ที่มีขายขนมด้วย เป็นการเช่าตึกแถวขนาดไม่ใหญ่มาก สิ่งที่เราจะต้องคิดซึ่งเป็นต้นทุนก็คือ ค่าเช่า ค่าสัญญาเช่า ค่าตกแต่ง อุปกรณ์เครื่องครัว ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้จะแยกเป็นต้นทุนคงที่กับต้นทุนผันแปร ซึ่งต้นทุนที่เราจะต้องเผื่อไว้ล่วงหน้าโดยส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ 3 เดือน คือ ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน ค่าซื้อของเข้าร้าน เพราะในระยะแรกเราอาจจะยังไม่มีกำไร เราจึงต้องมีเงินสำรองในกรณีที่ไม่มีกำไรมาหมุนนั่นเอง
เปิดร้านอาหารต้องทำอย่างไร เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนต้องการคำตอบ ซึ่งจริง ๆ แล้ว การเปิดร้านอาหารนั้นไม่ยากมากนัก แต่การบริหารจัดการให้ร้านอาหารของเรานั้น มีลูกค้าและดำเนินกิจการไปได้อย่างราบรื่นนั้นค่อนข้างยาก เพราะธุรกิจร้านอาหารเป็นอะไรที่ค่อนข้างเหนื่อย และมีโอกาสขาดทุนได้ค่อนข้างสูง หากมีการคำนวนได้ไม่ดีพอ เช่น หากเราขายกาแฟได้เดือนละ 1,000 แก้ว แต่เราสต็อคเมล็ดกาแฟสดไว้สำหรับชงขายที่ 1,300 แก้ว เมล็ดกาแฟสำหรับ 300 แก้ว ที่เหลือเราก็อาจจะจำเป็นต้องทิ้ง เพราะระยะเวลาของเมล็ดกาแฟสดที่ดีนั้น ควรจะใช้ชงหลักจากคั่วใหม่ 5 วัน และไม่ควรใช้หลังจาก 2-3 อาทิตย์ เพราะกลิ่นและรสชาติจะเปลี่ยนไป เป็นต้น
ดังนั้น หลักในการเปิดร้านอาหารที่ดีก็คือ การที่เราผู้เป็นเจ้าของ จะต้องทำเป็นทุก ๆ อย่าง โดยเฉพาะการควบคุม สูตรอาหาร เพราะปัญหาใหญ่ ๆ ของธุรกิจร้านอาหารก็คือ เรื่องของคน ซึ่งก็คือ เชฟสำหรับร้านอาหารหรือบาริสต้า หากเป็นร้านกาแฟ เพราะคนเหล่านี้จะเปรียบเสมือนเสาหลักในการดำเนินงานให้ร้านสามารถขายอาหารให้เป็นไปได้อย่างราบรื่น แต่หากคนเหล่านี้มีปัญหาขึ้นมา ธุรกิจของเราก็จะแย่เอาได้ เช่น หากเราจ้างบาริสต้ามา โดยให้บาริสต้าชงตามใจ โดยที่เราไม่รู้ว่าสูตรกาแฟควรจะเป็นยังไง การดูแลรักษาเครื่องทำอย่างไร โดยคิดว่าแค่จ้างมา แล้วก็ให้บาริสต้าเป็นคนจัดการทั้งหมด แต่หากวันหนึ่ง บาริสต้าเกิดป่วยหรือหนักกว่านั้นบาริสต้าได้ลาออกไป เราก็ต้องหาคนมาแทนให้เร็วที่สุด เพราะเราชงกาแฟไม่เป็นและหากบาริสต้าที่เราหามาได้ ชงกาแฟได้ไม่ดีเท่าคนเก่า รสชาติไม่อร่อยถูกปากลูกค้าเหมือนบาริสต้าคนเก่าก็จะทำให้ร้านเรามีปัญหา ลูกค้าอาจจะหนีหาย เลิกเข้าร้านของเราไปในที่สุด เป็นต้น
สำหรับใครที่มีความฝันจะเปิดร้านอาหาร เปิดร้านกาแฟ ร้านขนมก็ถือว่ามีความฝันที่ดี เพราะธุรกิจเหล่านี้ล้วนเติบโตได้ทั้งสิ้น เพราะอย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าเหล่านี้เป็นหนึ่งในสี่ปัจจัยหลักของคนเราที่ขาดไม่ได้ แต่สำหรับใครที่ไม่มีประสบการณ์นั้น ก็อยากจะแนะนำว่า หากชื่นชอบอะไรเป็นพิเศษก็ให้ศึกษาหาความรู้ในสิ่งนั้นให้มาก ๆ เช่น หากชอบทำอาหารไทย ก็ไปสมัครเรียนอาหารไทยหรือสมัครงานเข้าไปทำในร้านอาหารไทย เพื่อที่จะได้ประสบการณ์ออกมา หรือหากเป็นร้านกาแฟ ก็มีการเปิด Work Shop มากมาย บางที่เรียนเพียงแค่ 2 วัน ก็สามารถที่จะชงกาแฟอร่อย ๆ ได้แล้ว เพียงแต่เราต้องนำมาฝึกต่อเพื่อให้เกิดความชำนาญมากขึ้นเวลาทำงานจริงจะได้ไม่ติดขัด หรือหากไปสมัครเป็นบาริสต้าฝึกหัดตามร้านกาแฟต่าง ๆ ได้ก็จะดี เพื่อที่จะได้เรียนรู้ประสบการณ์ในการทำงานจริงก่อนที่จะลุยร้านตัวเอง
และที่สำคัญไม่เพียงแค่เราควรจะต้องทำอาหารเป็นเพียงเท่านั้น หากแต่เรายังจะต้องบริหารเป็นอีกด้วย เพราะร้านอาหารเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างมีการแข่งขันสูง หากเราบริหารได้ไม่ดี ลูกค้าเข้าร้านน้อย เราสต็อกของเสียเยอะ จัดรูปแบบ การทำงานของพนักงานได้ไม่ดี ในที่สุดร้านของเราก็อาจจะต้องปิดตัวลง แต่หากเราสามารถที่จะบริหารได้ดี มีความพยายามในการหาความรู้เพิ่มเติมมาพัฒนาร้านของเราอย่างสม่ำเสมอ จัดการสต็อกวัตถุดิบได้ดี จัดการเรื่องคนได้ดีและมีการคำนวนเรื่องการเงินที่ดี ว่าเราควรจะตั้งราคาเท่าไรที่ร้านของเราจะสามารถมีกำไร สามารถทำให้ลูกค้ารับได้ในราคาที่เราตั้ง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ในที่สุด