การทำนา เป็นอาชีพเกษตรกรที่ปัจจุบันค่อนข้างจะมีปัญหาในเรื่องของน้ำ เรื่องของการได้ผลผลิตและปัจจุบันแนวคิดแบบเศรษฐกิจพอเพียงนั้นหลายๆคนให้ความสนใจด้วยการลงมือทำจริงๆ เพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัวตัวอย่างเช่นมีที่ 1 ไร่แบ่งปลูกข้าวพอเลี้ยงครอบครัว ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ ทำบ่อปลา เลี้ยงไก่ และอื่นๆอย่างที่คงเคยเห็นกันบ้างตามรายการโทรทัศน์ซึ่งตอนนี้เรื่องของน้ำเป็นเรื่องสำคัญเพราะปัญหาเรื่องแล้งน้ำทำให้กลุ่มเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาประสบปัญหามากเลยทีเดียว นอกจากนี้ทางออกที่จะนำเสนอนี้มีความน่าสนใจตรงที่คนเมืองก็สามารถปลูกข้าวเองได้ หรือใครที่มีที่ทางสนใจทำการเกษตรก็สามารถทดลองได้เช่นกันกับการ ทำนาข้าวในบ่อซีเมนต์
การ ทำนาข้าวในบ่อซีเมนต์ ที่มีการทดลองมีการเผยแพร่มาสักระยะหนึ่งแล้วแต่ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรหรือมีการเผยแพร่ความรู้ออกไปในวงกว้าง ซึ่งจริงๆแล้วเป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะด้วยสภาพแวดล้อมเรื่องน้ำที่นับวันจะลดลงและการทำนาข้าวต้องใช้น้ำในปริมาณมากๆแต่หากมีวิธีที่สามารถทำนาได้โดยใช้น้ำในปริมาณที่จำกัดการดูแลที่ง่าย สะดวก และเผยแพร่ให้สามารถทำนาข้าวเล็กๆกันเองได้ปัญหาเรื่องนี้น่าจะลดลงได้บ้างและเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ด้วยหากครอบครัวไหนสามารถปลูกข้าวไว้ทานเองได้ ที่สำคัญเป็นข้าวปลอดสารเคมีอีกด้วย ซึ่งวิธีการทำนาข้าวในบ่อวงซีเมนต์ ได้รับการเผยแพร่จากคุณ ธนาวัฒน์ โชคกำทอง หมอดินอาสาเกษตรกร จ.นครราชสีมาที่สามารถทดลองปลูกและได้ผลดีจึงนำมาเผยแพร่ให้เรียนรู้กัน
การเตรียมเมล็ดพันธุ์
นำเมล็ดพันธุ์มาเพาะต้นกล้าในถาด แช่เมล็ดข้าวไว้ 2 คืน แล้วทำการดูดน้ำออก ให้สังเกตต้นข้าวจะแตกหน่อออกราก พอเพาะได้ 7 วัน ต้นกล้าข้าวจะสูง 2 นิ้ว ให้ใส่น้ำลงไปให้เห็นเฉพาะปลายข้าวที่โผล่ขึ้นมา พร้อมที่จะปลูก
วิธีทำนาวงบ่อซีเมนต์
- นำวงบ่อซีเมนต์ที่มีขนาด 80 เซนติเมตรมาเทปิดก้นบ่อด้วยปูนซีเมนต์ผสมทรายหยาบ แล้วตั้งทิ้งไว้ให้แห้ง (ตามร้านวัสดุก่อสร้างมีขาย)
- เมื่อแห้งแล้วใช้ปูนผสมกับน้ำยากันซึมเททับลงไปแล้วเกลี่ยให้เรียบ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งให้ทำอย่างเดียวกันนี้อย่างน้อย 2 ครั้ง จึงทดลองใส่น้ำเพื่อทดสอบว่ามีรอยรั่วหรือไม่ ถ้ามีให้ทำซ้ำจนกว่าจะไม่มีรอยรั่ว
- เมื่อทดสอบแล้วบ่อซีเมนต์ไม่รั่ว ก็นำดินมาใส่ลงไป ให้ได้ความสูงประมาณ 30 ถึง 35 เซนติเมตร แล้วใส่น้ำลงไปให้ท่วมดิน ทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน จากนั้นย่ำดินให้นิ่ม จึงนำกล้าที่เพาะอายุประมาณ 15 ถึง 20 วันมาดำ
การดำกล้าในวงบ่อซีเมนต์ การดำกล้าควรดำห่างกันประมาณ 1 ฝ่ามือหรือ 2 ฝ่ามือก็ได้ แล้วแต่ความพอใจหรือขึ้นอยู่กับพันธุ์ข้าว ซึ่งถ้าเป็นพันธุ์ข้าว 120 วัน ควรจะดำห่าง ๆแต่ถ้าเป็นข้าว 90 วัน หรือ 75 วันควรดำถี่ๆ ซึ่งใน 1 บ่อซีเมนต์นั้นควรดำกล้าประมาณ 10 ก่อ และใน 1 ก่อ ต้องใช้ต้อนกล้า 3 ถึง 4 ต้นในการดำ
การให้น้ำ
หลังจากดำกล้าไปแล้ว 2 ถึง 3 วันยังไม่ต้องให้น้ำเพราะในบ่อมีน้ำเพียงพออยู่แล้ว เมื่อต้นข้าวตั้งต้นได้แล้วให้ใส่น้ำลงไปโดยให้ระดับน้ำสูงประมาณ 2 นิ้วและรักษาระดับนี้ไว้ตลอด ควรที่จะงดน้ำ 7 วันในช่วงข้าวเริ่มตั้งท้อง และก่อนเกี่ยว 7 วัน และใส่น้ำลงไปในวันเกี่ยว เพื่อให้ดินนิ่มพร้อมที่จะดำกล้าชุดต่อไป
การใส่ปุ๋ย
ใส่ปุ๋ยคอกเมื่อดำกล้าได้ประมาณ 7 วัน และเมื่อกล้ามีอายุ 20 วัน การใส่ปุ๋ยคอกให้ใส่ครึ่งกิโลกรัมต่อ 1 บ่อ
การเก็บเกี่ยว
เมื่อข้าวได้อายุการเก็บเกี่ยวแนะนำให้เกี่ยวให้เหลือซังประมาณ 1 คืบจากโคนต้นเพื่อใช้เป็นปุ๋ยในการทำนารอบต่อไปและหนึ่งบ่อจะได้ข้าวประมาณ 1.5-1.8 กิโลกรัม
วิธีการที่นำเสนอไม่ยากเกินไปใช่ไหม แต่ปัญหาที่หลายคนสงสัยคือกล้าขาวจะไปหาจากไหน ปลูกได้แล้วจะรับประทานอย่างไร คำตอบนี้ไม่ยาก ปัจจุบันมีการจำหน่ายกล้าข้าวหลายสายพันธุ์และเมล็ดพร้อมสำหรับเพาะต้นกล้า และมีคำแนะนำต่างๆ จากภาคเอกชนที่ขึ้นตรงกับการกรมการข้าวซึ่งสามารถเข้าไปดูได้ >> ที่นี่ << หรือโทรสอบถามข้อมูลต่างๆจากผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวซึ่งทางกรมการข้าวมีการรับรองและแจ้งไว้ในหน้าเวปไซค์ ส่วนอุปกรณ์ถาดเพาะเมล็ดนั้นหาไม่ยากมีจำหน่ายตามร้านต้นไม้แหล่งใหญ่อย่างจตุจักรและในอินเตอร์เน็ต ส่วนเรื่องของการสีข้าวหากใครพอมีทุนทรัพย์เครื่องสีข้าวขนาดเล็กๆราคาประมาณหลักหมื่นต้นๆ ซึ่งหากสนใจลองค้นหาข้อมูลกันได้
แนะนำว่าหากใครพอมีที่ปลูกได้อยากให้ทดลองปลูกกันดูเพราะเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงในครัวเรือนเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากและเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจในบ้านเราตอนนี้ด้วยประกอบกับในอนาคต สังคมไทยจะเข้าสู่สังคมคนสูงอายุคนเกษียณจากงานมีมากขึ้น การปลูกข้าวทานเองในครอบครัวถือเป็นการลดรายจ่ายและเป็นกิจกรรมหลังเกษียณที่สามารถต่อยอดเป็นรายรับได้หากมีพื้นที่มากพอปลูกได้หลายๆบ่อ ปลูกเอง สีเอง ทานเอง ขายได้อีกด้วยเป็นข้าวปลอดสารพิษ สีเป็นข้าวกล้องขายในชุมชนกลุ่มเพื่อนๆคนรู้จักหรือขายออนไลน์สร้างรายได้หลังเกษียณ และยังได้ข้าวที่ปลอดภัยใช้ปุ๋ยธรรมชาติการดูแลง่ายไม่ต้องพ่นยาอันตราย
ซึ่งทางคุณธนาวัฒน์ โชคกำทอง ได้ให้สูตรยาฆ่าแมลงแบบธรรมชาติ และวิธีการทำปุ๋ยแบบธรรมชาติไว้ด้วยสามารถดูข้อมูลอย่างละเอียดได้ที่ http://www.scitu.net/rt/?p=1089 ทางเลือกใหม่ของการทำนาแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจและควรเผยแพร่นอกจากนี้ยังสามารถปลูกข้าวได้ในภาชนะอื่นๆด้วยโดยวิธีการเดียวกัน ซึ่งมีข้อมูลอยู่พอสมควรลองค้นหากกันดูเช่น การปลูกข้าวในล้อยาง หรือ การปลูกข้าวในบ่อปูน ซึ่งวิธีการคล้ายกันและสามารถทำได้จริง