ความร่ำรวยนับว่าเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งในชีวิต ใคร ๆ ต่างก็อยากร่ำรวย แต่ความร่ำรวยนั้นกลับไม่ใช่สิ่งได้มาโดยง่าย และคงจะไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวอย่างที่ใครต่อใครมักกล่าวถึง หากจะมีบ้างที่นับว่าพอจะเป็นแนวทางในการเรียนรู้เคล็ดลับแห่งความร่ำรวยได้ ก็คงจะต้องเริ่มจากการเรียนรู้ วิถีชีวิตของคนร่ำรวย เขามีทัศนคติอย่างไร และใช้ชีวิตอย่างไร จึงสามารถก้าวเดินมาถึงจุดนี้ได้ หากพร้อมแล้วมาดูไปพร้อมกันทีละข้อดังนี้
- ไม่คิดบวก แต่คิดอย่างสร้างสรรค์
การคิดบวกคือการพยายามมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนดีงาม เป็นที่น่าชื่นชม โดยมองข้ามปัญหาหรือสภาพอันไม่พึงปรารถนาที่มีอยู่ ฟังดูแล้วอาจเหมือนเป็นเรื่องดีช่วยให้คุณมีความสุข แต่หากลองมองอีกแง่ วิธีคิดเช่นนี้อาจเป็นหลุมพรางหลุมใหญ่ฉุดคุณอยู่กับที่โดยไม่พัฒนาและก้าวเดินต่อไป ทั้งยังต้องจมจ่อมอยู่กับสภาพความเป็นอยู่ในแบบเดิมและคอยแต่จะคิดหลอกตัวเองว่าสิ่งที่มีสิ่งที่เป็นนั้นล้วนดีงามอยู่แล้ว หลอกตัวเองว่าคุณมีความสุขกับมันอยู่แล้ว
แต่กลับกัน หากคุณริเริ่มคิดอย่างสร้างสรรค์ด้วยการยอมรับในสิ่งที่เป็น ยอมรับต่อปัญหาและข้อจำกัดที่มีอยู่ ไม่หลอกตัวเองว่าสิ่งที่มีหรือสิ่งที่เป็นนั้นดีอยู่แล้วแต่พยายามคิดอย่างพลิกแพลงว่า ต่อปัญหาที่มีอยู่นั้น คุณจะอยู่กับมันอย่างไร คุณจะได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง และคุณจะใช้มันให้เกิดประโยชน์ต่ออนาคตอย่างไร การใช้วิธีคิดเช่นนี้นอกจากจะช่วยผลักตัวของคุณออกมาจากสภาพอันไม่พึงปรารถนาได้แล้ว ยังช่วยให้คุณได้พัฒนาตัวเองไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด
- ไม่มองลบ แต่มองอย่างวิพากษ์
ทำนองเดียวกัน สิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับการคิดบวกคือการมองโลกในแง่ลบ การมองโลกในแง่ลบเป็นสิ่งที่ทำให้คุณมีความทุกข์ มองว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวล้วนไม่ดีไม่งาม ล้วนแต่เป็นปัญหา เป็นภาระต้องแบกรับ หากคุณรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนึ่งในกลุ่มคนประเภทนั้น ขอให้ลองปรับเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ด้วยการมองอย่างวิพากษ์ รู้จักใช้เหตุผลมากยิ่งขึ้น การมีมุมมองเช่นนี้นอกจากจะทำให้คุณไม่ตกอยู่ในอารมณ์เศร้าหมองแล้ว ยังช่วยให้คุณพิจารณาเห็นข้อได้เปรียบ และข้อจำกัดที่แฝงอยู่ในสิ่งต่าง ๆ อย่างถ่องแท้ ทั้งยังนำมาสู่การเรียนรู้และปรับประยุกต์เพื่อพัฒนาตนเองได้
- ลงมือทำ
การลงมือทำคือภาคปฏิบัติของความคิด การลงมือทำจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่เริ่มจากความคิด และการใช้ความคิดจะไม่ก่อให้เกิดผลหากไม่นำมาสู่การลงมือทำ นั่นคือเหตุผลที่อธิบายได้ว่าทั้งสองสิ่งนั้นต่างก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน มหาเศรษฐีหรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในทุกแวดวงต่างก็ล้วนชิงเอาความสำเร็จมาได้จากการลงมือทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการลงมือทำในสิ่งที่ไตร่ตรองมาแล้วอย่างถี่ถ้วน การลงมือทำนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องที่ใหญ่โต แต่อาจเริ่มจากสิ่งละอันพันละน้อยที่เป็นความสนใจ เป็นความชื่นชอบ ก็สามารถพัฒนาไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในอนาคตได้
- ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค
ทุกวันนี้เราอาจเห็นภาพความสำเร็จของเหล่าบุคคลผู้ถูกยกย่องเป็นแบบฉบับอยู่มากมาย ภาพเหล่านั้นล้วนเป็นภาพที่สวยงามจนบางครั้งอาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่า ทำไมชีวิตของพวกเขาช่างราบรื่นและมีความสุขเสียเหลือเกิน แต่จะมีสักกี่คนที่มองเห็นว่า เบื้องหลังของทุกชัยชนะนั้นไม่ได้ราบรื่นสวยงามอย่างที่ใครต่อใครคิด แต่ล้วนยากลำบากไม่น้อยไปกว่าเส้นทางที่เราทั้งหลายต่างต้องเผชิญ จะมีสักกี่คนที่เห็นว่าบรรดามหาเศรษฐีทั่วทั้งโลกจะต้องผ่านความล้มเหลวมากี่ครั้ง ต้องเผชิญกับอุปสรรคอันยากลำบากมากี่หน กว่าจะก้าวมาสู่ความสำเร็จได้ และสิ่งสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นทุกปัญหามาได้ก็คือการมีจิตใจที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ทั้งยังรู้จักเรียนรู้และใช้มันเป็นบันใดส่งตัวเขาให้ก้าวไปสู่เส้นชัยที่วาดหวัง
- แสวงหาโอกาสและประสบการณ์อยู่เสมอ
เชื่อว่าหลายท่านคงเคยได้พบเห็นอยู่เป็นประจำ สำหรับข้อความที่กล่าวอ้างถึงแบบฉบับของบุคคลผู้ประสบความสำเร็จทั้งหลาย ซึ่งต่างร่ำรวย มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับได้แม้พวกเขาจะเรียนไม่จบ สตีฟ จ็อบส์ บิล เกตส์ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และอีกหลากหลายชื่อมักจะถูกยกมาเป็นตัวอย่างอยู่เสมอ ข้อเท็จจริงเหล่านั้นสามารถยืนยันได้ว่าความสำเร็จของชีวิตไม่จำเป็นต้องได้มาจากการศึกษาผ่านรั้วมหาวิทยาลัย แต่มันจะไม่มีประโยชน์เลยหากจะถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพียงเพื่อจะปฏิเสธโอกาสในการเรียนรู้ เพราะหลายท่านอาจยังไม่ทราบว่า ถึงแม้บุคคลมีชื่อเหล่านั้นจะเรียนไม่จบ แต่พวกเขาไม่เคยปิดกั้นโอกาสในการเรียนรู้ ทั้งยังหมั่นแสวงหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ