เงินสมทบประกันสังคม 2567 จ่อปรับขึ้น ผู้ประกันตน ม33 เตรียมจ่ายมากกว่า 750 บาท
การเป็นมนุษย์เงินเดือน รวมถึงผู้ประกันตรมาตรา 33 ที่อยู่ในระบบประกันสังคม จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาล ค่าชดเชยต่าง ๆ ไปจนถึงการเกษียณ จากทางรัฐบาลคล้ายการซื้อประกันจากรัฐ ด้วยการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมในทุกเดือนเป็นจำนวนสูงสุดที่ 750 บาท/เดือน และล่าสุดก็มีข้อมูลว่า เงินสมทบประกันสังคม 2567 จ่อปรับขึ้น ผู้ประกันตน ม33 เตรียมจ่ายมากกว่า 750 บาท ในปีหน้าเป็นต้นไป เราได้สรุปประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาให้แล้ว
เงินสมทบประกันสังคม 2567 เริ่มเมื่อไหร่
ล่าสุดนี้ทางกระทรวงแรงงาน ประกาศเตรียมเสนอร่างกฎหมายขยายเพดานในการจ่ายเงินสมทบประกันสังคมแบบขั้นบันได โดยจะเริ่มมีผลในปี 2567 นี้เลย จากสูงสุดไม่เกิน 750 บาท เป็น 875 บาท และจะสูงสุดที่ 1,150 บาทในปี 2573 ซึ่งจะมีการปรับทั้งหมด 3 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1: ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567-31 ธ.ค. 2569 เพดานอยู่ที่ 875 บาท/เดือน (รายได้ 1,650 – 17,500 บาท/เดือน)
- ระยะที่ 2: ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2570-31 ธ.ค. 2572 เพดานอยู่ที่ 1,000 บาท/เดือน (รายได้ 1,650 – 20,000 บาท/เดือน)
- ระยะที่ 3: ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2573 เป็นต้นไป เพดานอยู่ที่ 1,150 บาท/เดือน (รายได้ 1,650 – 23,000 บาท/เดือน)
โดยการขยายเพดานการจ่ายเงินสมทบประกันสังคมในครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ. ประกันสังคม (ฉบับที่4) ปี 2565 ที่มีการประกาศให้ปรับเพดานเงินสมทบทุก 3 ปี เพื่อให้สอดคบ้องกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
วิธีคำนวณเงินสมทบ ประกันสังคม ม33
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ในปัจจุบันจะต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมทุกเดือนเป็นจำนวน 5% ของเงินเดือนที่ได้รับ สูงสุดไม่เกิน 750 บาท/เดือน โดยจะคำนวณตั้งแต่ค่าจ้างต่ำสุดที่ 1,650 บาท และสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (แม้ว่าฐานเงินเดือนจริงจะได้รับมากกว่านั้นก็ตาม) ที่สำคัญเงินที่หักเข้าประกันสังคมจะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีในแต่ละปีได้ด้วย ตามยอดที่โดนหักจริง ก็คือสูงสุดไม่เกิน 9,000 บาท ซึ่งเป็นตาม พ.ร.บ ประกันสังคมที่ประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2538 จึงสมควรปรับปรุงให้เหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเป็นไปตามมาตรฐานเพดานค่าจ้างขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ไม่ได้เกิดจาดการขาดเสถียรภาพทางการเงินของกองทุนแต่อย่างใด
จ่ายเงินเพิ่ม ได้สิทธิประโยชน์เพิ่ม
กฎหมายขยายเพดานในการจ่ายเงินสมทบประกันสังคม 2567 ที่เตรียมเพิ่มขึ้นนั้น จะมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ที่ได้รับมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน เช่น เงินทดแทนกรณีว่างงาน, เงินทดแทนกรณีขาดรายได้จากการทุพลภาพ, เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อคลอดบุตร และขยายอายุขั้นสูงของผู้ประกันตนที่เป็นลูกจ้าง จากเดิมอายุ 60 ปีบริบูรณ์ เป็น 65 ปีบริบูรณ์
ตัวอย่างสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน ม33 ปี 2567
- เงินทดแทนกรณีว่างงาน เพิ่มเป็นสูงสุดเดือนละ 8,750 บาท จาก 7,500 บาท
- เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย เพิ่มเป็นสูงสุดวันละ 292 บาท จาก 250 บาท
- เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ เพิ่มเป็นสูงสุดเดือนละ 8,750 บาท จาก 7,500 บาท
- เงินสงเคราะห์กรณีลาคลอด เพิ่มเป็นสูงสุดเดือนละ 26,250 บาท จาก 22,500 บาท
- เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต เพิ่มเป็นสูงสุดเดือนละ 35,000 บาท จาก 30,000 บาท
- เงินบำนาญ โดยผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบ 15 ปี ได้รับเพิ่มเป็นสูงสุดเดือนละ 3,500 บาท จาก 3,000 บาท ส่วนผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบมากกว่า 15 ปี ได้รับเพิ่มเป็นสูงสุดเดือนละ 6,125 บาท จาก 5,250 บาท
ทั้งนี้ก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่ากฎหมายเสนอขยายเพดานเงินสมทบประกันสังคม 2567 จะได้รับการอนุมัติ และประกาศใช้จริงช่วงใด ทั้งนี้เหล่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ก็ต้องเตรียมตัวล่วงหน้าสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้