เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ในสมัยนี้เมื่อพูดแล้วก็เป็นสิ่งที่ช้ำใจ เพราะเงินเดือนและค่าครองชีพที่ไปด้วยกันไม่ได้ ทำให้เหล่ามนุษย์ที่เรียกตัวเองว่า มนุษย์เงินเดือน นั้นต่างออกมาสรรหาวิธีต่าง ๆ เพื่อทำให้ชีวิตของตัวเองนั้นอยู่รอดปลอดภัยจนกว่าเดือนใหม่จะมาถึง ซึ่งเมื่อดูกับสภาพภาระของแต่ละคนแล้วนั้นถือว่าไม่ธรรมดา ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่ารถประจำทาง ต้องส่งที่บ้าน ค่าท่องเที่ยวประจำปี
โถ! ยิ่งคิดยิ่งเครียดเสียเหลือเกิน ดังนั้นวันนี้เราจึงมีไอเดียดี ๆ ในการบริหารเงินของคุณให้อยู่รอดปลอดภัยไปจนถึงสิ้นเดือน แถมมีเงินเก็บอีกต่างหาก
- การเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการจดทุกสิ่งอย่างลงไปในกระดาษ ว่าเรานั้นมีค่าอะไรบ้างที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเช่าบ้าน มีเท่าไรก็ใส่ไป รวมไปถึงพวกค่าใช้จ่ายของใช้ในบ้านด้วย
- เมื่อเรารู้แล้วว่าชีวิตเรานั้นมีค่าขนาดไหน ไหนจะค่าโน่น ไหนจะค่านี่ จากนั้นก็เขียนเงินเดือนที่แสนน่าภูมิใจของเราไปเลย เมื่อเขียนไปแล้ว ทีนี้ถึงขั้นสำคัญให้เราลองดูสิว่า เมื่อเราหักค่าใช้จ่ายเหล่านี้ออกแล้ว เราจะเหลือเท่าไรกัน
- เมื่อเรารู้แล้วว่าหลังจากหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นออก เราจะมีเงินในกำมือเหลือเท่าไร จากนั้นให้หักจากที่เหลือนั้นครึ่งหนึ่งเพื่อนำไปเก็บ ซึ่งการเก็บเงินในรูปแบบไหนอันนี้ต้องแล้วแต่ความชอบ ไม่ว่าจะเก็บในรูปแบบกองทุน สลากออมทรัพย์ หรือจะเป็นพวกบัญชีเงินฝากก็แล้วแต่ จากนั้นเราก็จะเห็นเงินที่เหลือจากการถูกหักออกไปและนั่นก็จะกลายเป็นเงินที่เราสามารถใช้จ่ายได้ในเดือนนี้
- จากการแบ่งเงิน หักเงินออกเป็นส่วน ๆ นั้น หลายคนอาจจะกังวลใจได้ว่า แล้วถ้าในกรณีที่มีเหตุด่วนเหตุร้ายที่เราไม่คาดคิดล่ะ เช่น ต้องไปต่างจังหวัดด่วน ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน หรือต้องออกงานด่วน แล้วเราจะใช้เงินที่ไหนในครั้งนั้น อันนี้ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ จากเงินที่เราหักลบในข้อสามนั้นแหละ ให้เราแบ่งออกไปอีก 20-30% เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน แต่หากไม่มีอะไรในเดือนนั้น ก็อาจจะกลายเป็นเงินออมของเราได้อีกในตอนสิ้นเดือนได้ด้วย
นี่เป็นหลักในการบริหารเงินง่าย ๆ อย่างหนึ่งที่คุณทำได้ แต่ก็อาจจะมีหลายคนค้านว่า โถ! แล้วฉันจะทำได้ไหม เพราะแต่ละวันค่าใช้จ่ายมันแพงเหลือเกิน ไหนจะค่ารถ ค่ากิน แต่ละวันก็ปาไปหลายบาทแล้วให้มาแบ่งอย่างนี้ไม่น่าจะไหว งั้นเราลองมาคำนวณเล่น ๆ กันดูนะคะ
ในกรณีที่คุณเป็น มนุษย์เงินเดือน ที่มีเงินเดือนตามฐานที่รัฐบาลวางไว้คือ 15,000 บาท มาดูกันสิว่า จะบริหารอย่างไร ค่าเช่าบ้านโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3,000-3,500บาท ค่าน้ำค่าไฟอยู่ที่ 400 บาท ค่าโทรศัพท์ อยู่ที่ 300-400 บาท ค่าของให้ส่วนตัว 800 บาท ค่ารถโดยสาร 1,000 บาท เบ็ดเสร็จแล้วคุณจะมีค่าใช้จ่ายพวกนี้ที่ประมาณ 6,100 บาทต่อเดือน จากนั้นเอาไปหักลบกับเงินเดือนของเรา 15,000-6,100 = 8,900 บาท จากนั้นนำเงินนี้ไปหารสองจะได้ 4,450 บาท ส่วนหนึ่งเก็บ อีกส่วนหนึ่งจ่าย อาจจะแบ่งไว้สำรองอีกนิดหน่อย เท่านี้ในแต่ละเดือนคุณก็สามารถที่จะมีชีวิตรอดได้แล้ว
จากการคำนวณโดยคร่าว ๆ ซึ่งแต่ละคนนั้นค่าใช้จ่ายที่รับผิดชอบอยู่อาจจะมากน้อยก็แล้วแต่ เราอาจจะปรับเปลี่ยนได้บ้าง เช่นบางคนต้องส่งเงินให้ที่บ้านก็ว่ากันไป แต่เชื่อเถอะค่ะว่าต้องลองดูก่อน เพราะเงินที่เราเห็นนั้นอาจจะดูน้อยมาก แต่นี่เป็นแค่เฉพาะค่าอาหารการกินในการดำรงชีวิตคุณแต่ละวัน ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกมื้อจะมีราคาแพงไปเสียงหมด และเราก็แยกส่วนที่จำเป็นออกไปแล้ว ลองบริหารกันดูดี ๆ รับรองว่าชีวิตในหนึ่งเดือนของคุณนั้นจะไม่ต้องมานั่งคอยวันสิ้นเดือนอีกเลย
อ่านเพิ่มเติม >> เทคนิค จัดการเงิน ฉบับมนุษย์เงินเดือน <<<
และนอกจากการบริหารเงินให้อยู่รอดปลอดภัยกับเราไปจนถึงสิ้นเดือนแล้วนั้น ในบางคนที่มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างจะเยอะ เช่น ต้องรับผิดชอบส่งเสียที่บ้าน ค่าเล่าเรียนของน้อง ซึ่งแต่ละเดือนก็พอสมควร และจะให้เรามาประหยัดกันทุกกระเบียดนิ้วก็ดูจะเป็นการใช้ชีวิตที่โหดร้ายเกินไป ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดในเรื่องนี้คือการหาอาชีพเสริม ซึ่งอาชีพเสริมของเหล่ามนุษย์เงินเดือนนั้นก็มีให้เลือกมากมาย และเลือกได้อีกว่าจะทำหลังเลิกงานหรือช่วงวันหยุดขึ้นอยู่กับเราเอง เช่น การขายประกันชีวิต สำหรับคนที่มีอัธยาศัยที่ดีรับรองได้เลยว่ารุ่ง หรือการขายของตามตลาดนัด อันนี้หลายคนทำและประสบความสำเร็จมาแล้ว หรือว่าพวกที่ไม่มีเวลาเลย ก็ยังสามารถที่จะขายของออนไลน์ได้ ซึ่งทุกวันนี้คุณสามารถที่จะทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่มีมือถือ และอีกมากมาย
และนี่ก็เป็นไอเดียดี ๆ ที่มีคนทำมาแล้วได้ผลที่ดีเกินคาด แถมยังมีเงินเก็บเอาไว้เป็นทุนให้กับชีวิตตัวเองอีกด้วย ลองเอาไปใช้ดูนะคะ แล้วเราจะได้เป็นมนุษย์เงินเดือนที่แตกต่างจากคนทั่วไปที่ไม่ต้องมีเงินใช้แค่ต้นเดือนและต้องนับวันรอจนกว่าจะถึงเดือนใหม่ ถ้าคุณบริหารเงินของคุณได้รับรองว่าเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตก็ง่ายขึ้นเช่นกัน