สวัสดีท่านผู้อ่านและผู้ที่ติดตามบทความของเราทุกๆท่านค่ะ ใครที่กำลังเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หรือเครียดจากการทำงาน เครียดจากการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ ลองพักสายตาและพักผ่อนอิริยาบถสักครู่ค่ะ แล้วมาอ่านสิ่งดีดีที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่าบทความนี้เหมาะกับชีวิตของกลุ่มคนมนุษย์เงินเดือน จริงๆค่ะ เราอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนท่านผู้อ่านจะพยายามสรรหาสารพัดวิธีมาบอกเล่า แชร์ความรู้และประสบการณ์กันให้มากที่สุดค่ะ
ใครที่เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่นั้น เชื่อว่าช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดก็เห็นจะเป็นช่วงเวลาใกล้เลิกงาน พอนาฬิกาบอกเวลาใกล้ 4โมงเย็นเมื่อไหร่ หลายคนต่างกระตือรือร้นอยากจะเก็บของกลับบ้านกันแล้ว บางทีก็อดสงสัยไม่ได้ว่า นี่เป็นการมาทำงานหรือโดนเรียกตัวเข้าคุกกันแน่ แต่สิ่งนี้ก็ถือว่าเป็นอันรู้กันในสังคมคนทำงาน เพราะงานบางอย่างเราอาจจะไม่ชอบ หรือบริบท สภาพแวดล้อมในการทำงานไม่เอื้ออำนวย เช่น เจ้านายจู้จี้ขี้บ่น เพื่อนร่วมงานขี้นินทา จิกกัด เห็นแก่ตัว ไม่ช่วยงาน จะลาออกก็ไม่ได้ ก็เลยต้องทนอยู่เพราะไม่ทำงานก็ไม่มีรายได้ นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนหลายๆท่านเกิดอาการเครียด พอเครียดมากๆก็ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจการเงินของตนเองและครอบครัว ยิ่งเครียดยิ่งจิตตก หมุนเงินไม่ทัน ค่าใช้จ่ายรุมเร้า แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ค่ะ ไม่ว่าท่านกำลังประสบปัญหาอะไรอยู่ตอนนี้ เป็นหนี้ ค้างชำระค่าบริการ/สินค้า บัตรเครดิต บริหารเงินไม่ลงตัว อะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวข้องกับเงินกระเป๋าของคุณ เรามี วิธีประหยัด ฉบับมนุษย์เงินเดือน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินมาฝากกันค่ะ
หลักการที่ง่ายแสนง่าย แต่ทำไม่ได้สักที นั่นก็คือ ความพอเพียงในจิตใจของเราค่ะ ทุกคนรู้ว่าต้องประหยัด ทุกคนรู้ว่าต้องไม่โลภมาก ทุกคนรู้ดีว่าไม่ควรใช้จ่ายเกินตัว และหลายคนส่วนใหญ่ก็รู้อีกสารพัดวิธีการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก ทั้งจากการอ่านจากหนังสือ อ่านแนวความคิดจากกูรูคนดัง มหาเศรษฐีคนนั้นคนนี้เล่า ให้ทำแบบนั้นแบบนี้ ออมกี่ส่วนใช้กี่ส่วน ใช้เงินอย่างไรให้รวย มากมายเต็มไปหมด แต่ทว่าทำไมเราถึงกลับมาทดลองใช้แล้วไม่เห็นผลสักที ?
ที่เป็นแบบนี้ เพราะเราไม่ยอมปฏิบัติกันอย่างเป็นจริงเป็นจังนั่นเอง ที่จริงวิธีประหยัดนั้นมันทำไม่ยากหรอกค่ะ แต่สิ่งที่ยากที่สุด ก็เห็นจะเป็นจิตใจของเราเองนั่นแหละ ที่ไม่รู้จักคำว่า พอ ยิ่งเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้ว สิ่งยั่วยุต่างๆก็มีมากเหลือเกิน ทั้งความหรูหราทุกรูปแบบประดังเข้ามา พอมีเงินเข้ามา มีรายได้ที่หาได้ด้วยตนเอง ยิ่งภูมิใจ ยิ้มย่องตัวเองในใจว่า ในที่สุดฉันก็สามารถเลี้ยงตัวเองได้ คราวนี้ล่ะ ฉันจะต้องได้ในสิ่งที่ฉันไม่เคยได้หรือสิ่งที่ฉันอยากได้ อยากทำ อยากซื้อทั้งหลายถูกทำเป็นรายการยาวเป็นหางว่าว เกิดการใช้เงินในแบบที่ตามใจตนเอง โดยไม่มีการควบคุมใดๆ ยิ่งถ้าคนไหนยังโสดยังไม่มีภาระให้ต้องดูแล ยิ่งง่ายต่อการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โดยให้เหตุผลว่าเป็นการให้รางวัลตนเองทุกครั้งไป
อ่านเพิ่มเติม : ให้รางวัลกับตัวเอง ยังไง ไม่ให้สิ้นเปลือง
เพราะฉะนั้น การที่จะลดรายจ่ายได้ ก็ต้องเริ่มจากตนเองก่อน ควรที่จะมีสติ คิดพิจารณาถึงสิ่งต่างๆทั้งในปัจจุบันและอนาคต อย่างเช่น การเลือกซื้อของต่างๆ เราควรมีเหตุผลว่า เราซื้อสิ่งนั้นไปทำไม มันมีความจำเป็นที่ต้องซื้อหรือไม่ คุ้มค่าใช้ได้นานหรือไม่ หรือแค่อยากได้เฉยๆแต่ไม่เกิดประโยชน์อะไร
วิธีประหยัดตามแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน เมื่อเราได้รับเงินเดือนหรือโบนัสต่างๆ อันดับแรกอย่าเพิ่งคิดหาทางจ่ายเงิน สาวๆอย่าเพิ่งนำเงินไปเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง ซื้อของตามใจ แต่ควรวางแผนการเงินของตนเองก่อน ยิ่งการทำงานประจำนั้น เราพอที่จะประมาณการรายได้ของตนเองได้และความสามารถจัดสรรค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆก็จะง่ายยิ่งขึ้น เมื่อได้มาก็ต้องเก็บออมทุกครั้งไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน ยึดหลัก “คิดก่อนใช้” ในทุกๆครั้ง ต้องเป้าหมายว่า รายได้เท่านี้ ใช้แค่นี้พอ ส่วนที่เหลือก็อาจจะแบ่งไปลงทุนเพิ่มเงินหรือฝากประจำไว้ก็ยังดี
วิธีประหยัด ฉบับมนุษย์เงินเดือน ที่สำคัญอีกอย่างคือ อย่าพยายามสร้างหนี้สิน เพราะคนทำงานส่วนใหญ่ชอบความสะดวกสบาย หรูหราฟุ่มเฟือย ให้สำคัญที่ภาพลักษณ์ภายนอกที่ต้องดีงามไว้ก่อน ไม่มีกิน เป็นหนี้ไม่เป็นไร ค่านิยมแบบนี้นำมาซึ่งความล้มเหลวมานักต่อนัก สุดท้ายจากที่จนอยู่แล้ว แต่พยายามทำตัวรวย อัพเกรดตัวเอง ยิ่งจะจนลงไปอีก เพราะฉะนั้น อย่าพยายามก่อหนี้สิน หรือเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการกู้เงินมีหนี้ติดตัวเลย บางคนอยากอวด ได้งานไม่ทันไร ดาวน์รถออกมาขับซะแล้ว คนที่มีเงินเหลือใช้จ่ายก็ไม่ว่ากันค่ะ แต่คนที่ไม่มีแล้วยังจะเดือดร้อนต้องมีให้ได้นี่สิ น่าห่วงค่ะ เพราะนอกจากจะแบกภาระการใช้จ่ายในเรื่องอื่นๆแล้ว ยังจะต้องมาตามใช้ค่างวดรถหรือค่าบำรุง ซ่อมแซม อื่นๆ อีก เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้ายังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบในส่วนนี้ ก็อย่าพยายามสร้างภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มจะดีที่สุดค่ะ