ข้อควรคิด เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากหารายได้เสริม

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะมีเงินอยู่ในกระเป๋าแบบอยากใช้เมื่อไหร่ก็ได้ใช้แล้วละก็  การวางแผนเพียงการเก็บเงินอย่างเดียวคงจะไม่พอ  สิ่งที่เราควรจะทำควบคู่กันไปด้วยก็ คือ  หารายได้เสริม

หมดยุคสำหรับคนทำงานรับเงินเดือนอย่างเดียวแล้ว   กับการที่ต้องคอยประหยัดเงินเจียดเงินใช้หนี้สิน  พอๆ กับเจียดเงินสำหรับค่ากินอยู่ในแต่ละวันซึ่งถูกจำกัดด้วยยอดของเงินเดือนที่ได้รับ  ซึ่งอาจจะทำให้เงินที่เราจะเก็บไม่ค่อยจะพอให้เก็บเลย  ด้วยเหตุนี้ เราจึงนำเสนอให้หันมามองใช้วิธีวางแผนการเงินด้วยการหารายได้เสริมเข้าอีกหลายๆ กระเป๋าค่ะ

รายได้เสริมที่อยากจะแนะนำ  คุณควรจะเลือกจากงานที่เราชอบเป็นหลัก และที่พิจารณาลองลงมาคือ  งานที่เอื้อต่อการทำงานประจำของเรา  เช่น คุณต้องทำงานประจำในวันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.  เพราะฉะนั้น งานเสริมที่คุณควรจะทำได้  ก็คืองานเสริมที่ไม่ต้องกับในช่วงเวลาดังกล่าว  ซึ่งเราไม่แนะนำให้ทำงานเสริมซ้ำซ้อนกับงานประจำ  เพราะอาจทำให้คุณถูกเพ่งเล็งจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานได้ค่ะ

อ่านเพิ่มเติม : อาชีพเสริมสำหรับมนุษย์เงินเดือน ไม่กระทบงานประจำ

เมื่อเราเลือกงานที่ชอบและไม่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกับงานประจำแล้ว   สิ่งที่ควรคำนึงต่อมาก็คือ  งานเสริมที่จะทำนั้นสะดวกต่อการไปทำงานหรือไม่  เช่น  ถ้าคุณเลิกงานประจำ 17.00 น. แต่งานเสริมของคุณรับทำตั้งแต่ เวลา 18.00-22.00 แล้วการเดินทางไปทำงานของคุณ  1 ชั่วโมงไม่พอเพราะไกลและรถติด  ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ต้องตัดทิ้งไป   คุณควรจะเลือกการไปทำงานที่สะดวกอาจจะอยู่ใกล้บ้าน หรือ ใกล้ที่ทำงานประจำ  ซึ่งจะทำให้คุณประหยัดเวลาการเดินทางไปทำงาน

อีกประการถ้าคุณสามารถเลือกได้ คืองานที่สอดคล้องกับงานประจำที่ทำอยู่ หรือ เป็นงานที่เราถนัดสามารถหาเงินมาได้ง่าย โดยไม่ต้องไปฟื้นความรู้ใหม่  เช่น งานประจำของคุณ คือ อาชีพครู  เมื่อคุณเลิกสอนหนังสือเสร็จ  คุณก็สามารถรับงานสอนพิเศษหลังเวลาเลิกงาน หรือ ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็ได้  การเลือกทำงานในลักษณะเช่นนี้  จะสามารถทำให้คุณสามารถทำงานเสริมได้อย่างสบาย ไม่เครียด และยังเป็นการพัฒนาศักยภาพในการทำงานของคุณอีกด้วย  

ลำดับต่อมาสิ่งที่ควรพิจารณา  หากคุณสนใจอาชีพค้าขายหรือทำธุรกิจส่วนตัวกับครอบครัว  ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่ารายได้เสริม  เพราะฉะนั้นคุณควรจะมองในส่วนของการลงทุน ว่าธุรกิจที่คุณอยากจะทำเสริมนั้นต้องใช้เม็ดเงินในการลงทุนสูงหรือไม่  ในกรณีนี้  ก็ต้องพิจารณาจากเม็ดเงินในกระเป๋าของท่านเองว่ามากน้อยแค่ไหนถึงจะเหมาะสม  แต่ข้อแนะนำคือ  คุณไม่ควรลงทุนทำในธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงมาก  เพราะอย่าลืมว่า เป็นแค่งานเสริม คุณอาจจะไม่มีเวลาให้กับสิ่งที่คุณทำได้เต็มที่เท่ากับงานประจำที่กินเวลาของคุณไปประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวัน  รวมแล้วในหนึ่งสัปดาห์คุณให้เวลากับงานประจำรวมเป็น 40 ชั่วโมง  ในขณะที่วันหนึ่งๆ คุณอาจจะทำงานเสริมได้ 4 ชั่วโมงในวันทำงาน  และวันละ 8 ชั่วโมงในวันเสาร์-อาทิตย์   นั่นแสดงว่า ในสัปดาห์หนึ่งคุณสามารถทำงานเสริมได้รวมทั้งหมดประมาณ 52 ชั่วโมง แต่มีข้อแม้ที่ว่า  คุณจะต้องมีวินัยในการทำงาน  และทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ขี้เกียจ  

สิ่งที่ควรสังเกตอย่างหนึ่ง คือ  คนที่คิดอยากจะทำงานเสริม  ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นต่อชีวิตในอนาคตของตัวเอง  หมายถึง ไม่ได้คิดอยากจะทำงานไปวันๆ เพียงแค่นั้น แต่ยังมองล่วงหน้าไปถึงขนาดว่า  ถ้าเราทำงานนี้ไปแล้วนั้น ชีวิตเราในอนาคตข้างหน้าจะสามารถเก็บเงิน  และบริหารการเงินได้อย่างลงตัว ไม่ฝืดเคือง  

ทั้งนี้  การมีรายได้เสริมเป็นสิ่งที่ดีที่เราควรจะมีเพื่อเหมาะกับการวางแผนการเงิน  แต่การทำงานทั้งหมดของเราก็ไม่ควรหักโหมจนเกินไปทั้งงานประจำและงานเสริม  เพราะการทำงานหนักเกินไป ร่างกายอาจจะรับภาระไม่ไหว  ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วย หรือเหนื่อยล้า อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานประจำที่ไม่สามารถทำได้เต็มที่  และงานเสริมก็ทำไม่ไหว  ดังนั้น จะทำสิ่งใด  ก็ควรจะยืนอยู่บนพื้นฐานของความพอดีที่ร่างกายเราสามารถรับได้  และเรามีความสุขที่จะอยู่กับมันไปได้นานๆ ค่ะ