เมื่อพูดถึงการลงทุนแล้ว คนจำนวนไม่น้อยก็คิดถึงธุรกิจ กิจการหรืองานอะไรสักอย่างที่จะได้ผลตอบแทนเป็นเงินหรือเป็นอย่างอื่น การลงทุนนี้คือการทำให้สินทรัพย์ที่มีได้เติบโตงอกเงย สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองได้แต่ถ้าเราลงทุนได้ไม่ดีพอ เราก็อาจจะล้มละลายทรัพย์สินที่ใช้สำหรับการลงทุนก็อาจจะสูญเปล่าไปอย่างง่ายดาย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก่อนที่เราจะลงทุน เราก็ต้องมีเงินลงทุนเสียก่อนแล้วเงินนั้นมาจากไหนล่ะ? ก็แน่นอนว่าต้องมาจากเงินเก็บ เงินต่างๆที่ได้มาเราคงไม่สามารถหมุนสำหรับการลงทุนได้เลย เราจำเป็นต้องเก็บเงินไว้ให้เป็นก้อนเสียก่อน
ออมเงินเพื่อการลงทุน นั้น แน่นอนว่าก็คล้ายๆกับการที่เราเก็บเงินซื้อของอะไรสักอย่างที่อยากได้ เพียงแต่การลงทุนใช้เงินที่เยอะถึงเยอะมาก แต่ถ้าใครที่มองเห็นโอกาสในการลงทุนหน่อยก็อาจจะสามารถใช้ทุนเพียงไม่เยอะ แต่อาจจะเหนื่อยในการลงมือทำสิ่งเหล่านั้นมากหน่อยเท่านั้นเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วเราจำเป็นต้องเก็บเงินเพื่อการลงทุน แน่นอนว่าบางคนอาจจะรู้สึกยากเพราะการลงทุนต้องใช้เงินที่เยอะ กว่าจะเก็บได้ก็คงเหนื่อยน่าดูหรือสำหรับบางคนอาจจะล้มเลิกการเก็บเงินระหว่างทางแล้วแอบไปใช้หมดก็เป็นได้ เรามีเทคนิคการ ออมเงินเพื่อการลงทุน มาแนะนำ
ตั้งเป้าหมายขั้นต่ำเอาไว้ในแต่ละวัน
การตั้งเป้าหมายขั้นต่ำให้ตัวเอง จะเป็นการกำหนดเงินที่เราจะสามารถออมได้ขั้นต่ำในแต่ละวันและแน่นอนว่ายิ่งกำหนดเงินขั้นต่ำสำหรับออมเงินไว้สูง เราก็จะยิ่งได้เงินที่จะใช้ลงทุนได้สูง ซึ่งการกำหนดเงินออมขั้นต่ำให้ตัวเองนั้นจะสามารถช่วยให้เราสามารถวางแผนในอนาคตได้ว่า เราต้องการเงินก้อนในจำนวนเท่าไหร่และจำนวนเงินในแต่ละครั้งที่เราเก็บจะสามารถทำให้เราบรรลุเป้าหมายของเงินที่ต้องการทั้งหมดภายในกี่วัน การเก็บเงินแบบนี้ยิ่งเราตั้งเป้าหมายไว้สูงและเก็บออมเงินในแต่ละครั้งในปริมาณที่น้อย รับรองได้ว่าเราอาจจะเก็บได้ไม่ถึงหนึ่งในสี่ของเงินที่ต้องการทั้งหมดก็เลิกแล้ว แต่สำหรับใครที่เป็นนักเรียนนักศึกษาอยู่ก็อย่าพึ่งท้อแท้ใจ การเก็บออมเงินในรูปแบบนี้เป็นอะไรที่ง่ายที่สุดและเป็นพื้นฐานมาก
เริ่มหาช่องทางให้เงินทุนได้มีโอกาสงอกเงย
การงอกเงยของเงินทุน อาจจะงอกเงยช้าๆหรืออาจจะงอกเงยอย่างรวดเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับโอกาสที่เราหาเจอว่าเราจะสามารถหาช่องทางในการทำให้เงินทุนของเรางอกเงยมากน้อยได้มากแค่ไหน การที่จะทำให้เงินทุนงอกเงยนั้นมีทั้งแบบที่เสี่ยงและแบบมั่นคง ในกรณีนี้เราจะพูดถึงแบบมั่นคงเพราะเราต้องยึดหลักไว้ว่าเงินที่เราออมจะไม่หายไปไหน ถ้าเราทำเงินให้งอกเงยแบบเสี่ยงนั้นเงินเราอาจจะหายไปหมดได้ ซึ่งการทำให้เงินทุนงอกเงยนั้นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สถาบันการเงินต่างๆที่ให้ดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง โดยเน้นการฝากประจำเป็นหลัก สำหรับใครที่ยังไม่รีบลงทุนนั้น หาเงินเพื่อการลงทุนกับตัวเองไปเรื่อยๆก่อนเช่นนักเรียน นักศึกษาหรือคนที่มีงานทำแล้วแต่ยังไม่รีบหางานใหม่ที่ยังคงทำงานเก็บเงินอยู่ ก็เหมาะอย่างมากกับการฝากเงินกับสถาบันการเงิน ถึงแม้ว่าดอกเบี้ยอาจจะไม่สามารถทำให้เงินทุนของเรางอกเงยอย่างรวดเร็วก็ตามแต่ก็ยังดีกว่าให้มันเงินทุนมันนอนเฉยๆนะ
ซื้อหุ้นที่มั่นคงสักตัว
การซื้อหุ้นเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับคนที่สนใจ เมื่อใดก็ตามที่เรามีหุ้นอยู่กับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ทุกๆปีเราก็จะได้ปันผลออกมาตามข้อตกลงที่บริษัทได้ระบุไว้และที่สำคัญเมื่อเราได้ปันผลแล้วไม่ว่าจะอยู่ในรูปจำนวนหุ้นหรือปันผลออกมาเป็นเงิน เราก็ไม่ควรรีบเอาเงินนั้นออกมาใช้นะ การออมเงินไว้ในรูปหุ้นนั้นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือความมั่นคงของบริษัทนั้น ไม่ว่าจะเกิดพิษเศรษฐกิจอะไร เกิดเงินเฟ้อ เงินฝืดมากแค่ไหน บริษัทที่เราซื้อหุ้นไว้ก็จะยังคงอยู่ไม่หายไปไหน ไม่ล้มละลายง่ายๆ เทคนิคการเลือกซื้อหุ้นที่มั่นคงนั้นให้เราดูสิ่งของรอบตัว อะไรบ้างล่ะที่คนรอบข้างใช้ตลอด อะไรบ้างที่มีการขายตลอดเมื่อของหมด แน่นอนมีทั้งอาหาร ไฟฟ้า น้ำ พลังงานต่างๆและอื่นๆอีกมากมาย สิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจะสามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีสิ่งของพวกนี้
แต่หุ้นที่มั่นคงส่วนใหญ่จะมีราคาที่แพงและใช้เวลานานกว่าหุ้นนั้นจะปันผลออกมาให้เท่ากับเงินทุนที่เราซื้อไป บางบริษัทใช้เวลานานถึงเจ็ด แปด ปีในการปันผลออกมาให้เท่ากับเงินทุนที่ได้ซื้อไป แน่นอนว่ามันอาจจะดูนานมากก็จริงอยู่แต่เมื่อใดก็ตามที่เราผ่านพ้นช่วงถอนทุนแล้วเราก็จะได้กำไรอย่างมากเลยล่ะ และที่สำคัญเราสามารถนำปันผลนั้นนำไปทบกับของเดิม ถ้าเราได้ปันผลเป็นเงินก็นำเงินนั้นไปซื้อหุ้นกับบริษัทเดิมหรือถ้าได้ปันผลเป็นจำนวนหุ้นเราก็ยังเก็บหุ้นไว้อยู่อย่างนั้น สร้างความเป็นทวีคูณขึ้นมาในแต่ละปี รับรองได้ว่าบางทีคุณอาจจะล้มเลิกความคิดที่จะลงทุนแล้วหันมาซื้อหุ้นเก็บไว้แทนก็ได้