วันหยุดยาวช่วงปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงอาจทำให้ใครหลายคนวางแผนท่องเที่ยวไว้ในใจ บางคนก็อาจจะอยากเที่ยวต่างจังหวัดแต่ถ้าบวกลบค่าที่พักที่เป็นช่วง High season กับค่าเดินทางต่าง ๆ แล้วหลายคนอาจจะต้องพับแผนการท่องเที่ยวในฝันเอาไว้ก่อน
แต่ถ้าเราเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เราอาจจะเห็นว่าแม้แต่ในกรุงเทพฯที่เป็นทั้งที่พัก ที่กิน ที่ทำงานให้เรามาตลอดหลายปี เราก็อาจจะไม่เคยเห็นมุมอื่นๆ ที่น่ารื่นรมย์ของกรุงเทพฯเลยก็ได้ แล้วจะไม่ดีหรือ? ถ้าอาศัยโอกาสในช่วงปีใหม่มาสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ในเมืองกรุงแห่งนี้ที่เราเองอาจจะยังไม่เคยไปเลยสักครั้ง มาดูกันว่าแหล่ง ท่องเที่ยวแบบประหยัด ในกรุงเทพฯ มีที่ไหนบ้าง
- ชมกรุงเก่าที่ไม่แก่กับนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ และ Museum Siam : สำหรับขาเที่ยวที่อยากได้ทั้งความรู้และแอร์เย็นๆ ถ้าได้ไปนิทรรศน์รัตนโกสินทร์แล้วไม่รู้สึกเสียดายเวลาเลยกับกว่า 4 ชั่วโมงของการเข้าชมประวัติศาสตร์ของกรุงรัตนโกสินทร์ วิถีชีวิตของคนไทยในสมัยก่อน การจัดแสงสีเสียงและหุ่นจำลองต่าง ๆ ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค จัดได้ว่านิทรรศน์รัตนโกสินทร์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้ความรู้และความสนุกสนานได้กับทุกเพศทุกวัย
สำหรับหลายคนที่มาเที่ยวและอยากให้พ่อแม่ที่สูงวัยมีจุดนั่งพัก ภายในนิทรรศการก็ยังมีมุมกาแฟเย็น ๆ และเก้าอี้นิ่ม ๆ ให้นั่งพักผ่อน และสำหรับหลายคนที่อยากจะ Outdoor กับบรรยากาศสบาย ๆ ของย่านราชดำเนินก็ยังออกมานั่งดื่มกาแฟใต้ต้นไม้ได้อย่างสบายอารมณ์ด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเข้าชมเพียงท่านละ 100 บาทเท่านั้น ยิ่งกว่านั้น สำหรับใครที่มีเพื่อนชาวต่างชาติก็ไม่ต้องห่วงเรื่องภาษาเลยเพราะที่นี่มีเครื่องแปลภาษาให้เช่าด้วย ทำให้ชาวต่างชาติสามารถสนุกสนานไปกับเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างเต็มอิ่มทีเดียว แต่สำหรับเด็กเล็กทั้งคนไทยและต่างชาติ นักเรียน ภิกษุสามเณร และผู้สูงอายุที่เกิน 60 ปี บอกเลยว่าฟรีตลอดรายการ ไม่ต้องจ่ายสักบาทเดียว แบบนี้จะไม่เรียกว่าประหยัดได้อย่างไร โดยส่วนนิทรรศการเปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันจันทร์ตั้งแต่ 10.00-19.00 น.
- ปั่น ๆ จักรยานกับธรรมชาติและธรรมะกลางกรุง : สำหรับคนที่ชอบชื่นชมกับธรรมชาติและการออกกำลังกาย กรุงเทพมหานครยังมีสวนสาธารณะที่จัดว่าเป็นปอดใหญ่ ๆ ของเมืองอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสวนลุมพินี สวนรถไฟ สวนเบญจสิริ สวนจตุจักร ซึ่งสำหรับขาออกกำลังกายบางคนอาจจะนัดแก็งค์ปั่นจักรยานเที่ยวรอบเมืองโดยพาจักรยานคู่ใจขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีหัวลำโพงลงสวนลุมพินี หรืออาจจะวิ่งยาวไปลงสถานีจตุจักรเลยก็ได้ และได้ชื่นชมกับธรรมชาติ ดอกไม้ที่สวยงาม
และสำหรับหลายคนที่ปั่นจักรยานเหนื่อยแล้วอาจจะอยากเข้าไปหาความสงบเงียบของธรรมะก็ไปกันต่อที่สวนโมกข์กรุงเทพฯ ที่อยู่ติด ๆ กันกับสวนรถไฟ ซึ่งหลายคนที่รู้จักและชอบแนวปฏิบัติของท่านพุทธทาส อินทปัญโญ คงจะดื่มด่ำไปกับห้องสมุดธรรมะ ภาพปริศนาธรรม ไม้มงคลในสวนโมกข์ และยังมี “นิพพานชิมลอง” ให้หลายคนได้ลองสัมผัสกับความสงบเย็นที่มีอยู่ภายใน และทั้งหมดนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม เรียกว่าปั่นจักรยานคราวนี้ได้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจที่แข็งแรงกลับมาแน่นอน
- ชิม-แชะ และเรื่องราวของชาวจีน : สำหรับหลายคนที่ให้ความหมายของการท่องเที่ยวหมายถึงการชิมอาหารอร่อย ๆ และเก็บภาพต่าง ๆ ไว้ในความทรงจำ ต้องดูที่นี่เลยสำหรับบริเวณย่านเยาวราช ซึ่งหลายคนอาจไม่เชื่อว่าในมุมเยาวราชจะมีอะไรที่ดี ๆ นอกจากของกิน มาเริ่มต้นกันที่วัดไตรมิตรวิทยาราม ที่มีพิพิธภัณฑ์ที่เรื่องราวการเดินทางของชาวจีนเข้ามาสู่เมืองไทย โดยเริ่มตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ หลายคนที่ไม่เคยได้สัมผัสว่าการเดินอยู่ใต้เก๋งเรือเดินสมุทรของชาวจีนโพ้นทะเลเป็นอย่างไรก็คงได้สัมผัสกันที่นี่ อาหารและวิถีชีวิตของชาวจีนในสมัยแรก ๆ ที่มาถึงเมืองไทย การเป็นแรงงานขนข้าวสาร และพัฒนาการมาจนถึงการก่อสร้างตึกอาคารย่านเยาวราช ในสมัยรัชกาลที่ 5 เรื่องราวสนุก ๆ เหล่านี้อยู่ในพิพิธภัณฑ์วัดไตรมิตร และส่วนจัดแสดงสุดท้ายของพิพิธภัณฑ์
ถ้าหลายคนเริ่มเหนื่อยกับการเดินชมแล้วอยากหาของกินเยาวราชที่อร่อย ๆ ที่นี่ก็ยังมี Directory แนะนำร้านอาหารดี ๆ ให้ได้เลือกกันด้วย และสำหรับหลายคนที่นิยมไหว้พระไม่อยากให้พลาดเลย เพราะที่นี่มีพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรซึ่งเป็นพระทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลกประดิษฐานอยู่ให้เคารพสักการะเพื่อสิริมงคลสำหรับทั้งปีที่กำลังจะมาถึง ทั้งหมดนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดเลย
- ล่องเรือชมเมืองกรุง : หลายคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศความเป็นเวนิสตะวันออกของกรุงเทพ แนะนำว่าต้องลองล่องเรือดูสักครั้ง ซึ่งตลอดเส้นทางของแม่น้ำเจ้าพระยามีจุดให้เที่ยวชมมากมายตั้งแต่ท่าน้ำนนท์มาถึงท่าราษฏร์บูรณะเลยทีเดียว และเหมาะมากสำหรับคนที่มีเวลาและชอบเดินถ่ายรูป อาจเริ่มต้นจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ลงมาที่ท่าเรือสาธร ซื้อตั๋วโดยสารเพียง 150 บาท ก็ใช้ขึ้นเรือได้ตลอดทั้งวันไม่จำกัดเที่ยวตั้งแต่ 9.30-19.30 น. อยากจะแวะชมจุดต่าง ๆ ที่น่าสนใจตรงไหนก็ลงได้เลย ไม่ว่าจะแวะถ่ายรูปแสงสวย ๆ ยามเช้ากับโบสถ์คริสต์ของวัดกาลหว่าร์ที่งดงามที่ท่าเรือสี่พระยา แวะชมตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ติดอันดับโลกอย่างปากคลองตลาดที่ท่าเรือราชวงศ์ ชมตึกอาคารเก่าริมน้ำที่บูรณะสวยงามและทักทายเหล่ายักษ์ตัวใหญ่ที่ท่าเตียน
เลยมาอีกนิดสำหรับขาช้อปปิ้ง และพักดื่มกาแฟสักแก้วที่ท่ามหาราชที่เพิ่งตกแต่งใหม่ พอใกล้จะเย็นแล้วก็ลองแวะหาของกินรองท้องหรือฝากคนที่บ้านอย่างขนมปังที่ท่าวังหลัง เย็นย่ำก็รอชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวนสันติชัยปราการใกล้ท่าพระอาทิตย์ จากนั้นค่อยกลับมาขึ้นเรือรอบสุดท้ายกลับมายังสถานีรถไฟฟ้า BTS เพื่อจบทริปการเดินทางอย่างมีความสุข
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ ราคาประหยัด ทั้งชิม ช้อป แชะ และยังได้ความรู้มากมาย สถานที่เหล่านี้ซ่อนอยู่ในกรุงเทพมหานครอยู่แล้ว ลองไปสัมผัสดูสักครั้งแล้วคุณจะรู้ว่านี่เป็นอีกมุมดี ๆ ที่รอให้คุณทำความรู้จัก
เที่ยวกรุงเทพฯ หรือเที่ยวที่ไหนๆ ก็ประหยัดกว่า ถ้าไปกับ Expedia จองด่วน!