เชื่อได้ว่าหลายคนคงผ่านประสบการณ์การเก็บเงินเพื่อหยอดกระปุกออมสินในวัยเด็กมาแล้ว และทางโรงเรียนหรือผู้ปกครองหลายคนคงได้สอนวิธีการออมเงินแบบง่าย ๆ ให้กับคุณ แต่หลายคนก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการออมเงิน เช่น การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย, การมีภาระหนี้สิน, การไม่มีระเบียบวินัยหรือความตั้งใจที่มากพอ เป็นต้น ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุไหนหากคุณลองมองหาหนังสือหรือค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการออมเงินตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ก็สามารถนำมาปรับใช้ได้ แต่หลายคนก็มักจะพบปัญหาคือไม่ทราบว่าการ ออมเงินแบบไหน ที่เหมาะกับตนเองและการ ออมเงินแบบไหน ที่ได้มาตรฐาน ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงใด ๆ
สำหรับผู้ที่ออมเงินโดยการฝากเงินไว้กับธนาคาร โดยการนำเงินเก็บที่ได้ไปฝากเป็นประจำ อาจต้องเรียนรู้การฝากเงินกับทางธนาคารแบบต่าง ๆ ดังเช่นในบทความต่อไปนี้ที่จะเปรียบเทียบให้ผู้ที่ต้องการออมเงินทราบถึงความแตกต่างของการออมเงินแบบบัญชีเงินฝากประจำ บัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษีและบัญชีฝากออมทรัพย์ดังต่อไปนี้
การออมเงินแบบบัญชีเงินฝากประจำ
เรียกได้ว่าเป็นการฝากเงินที่สามารถสร้างวินัยให้กับผู้ฝากได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีเงื่อนไขการถอนเงินที่แน่นอน โดยมีระยะเวลาให้เลือกถอนเงินที่หลากหลาย เช่น การถอนเงินเมื่อครบ 3 เดือน, การถอนเงินเมื่อครบ 6 เดือน, การถอนเงินเมื่อครบ 1 ปี หรือ 2 ปี หากคุณเลือกระยะเวลาในการถอนเงินที่นานจะทำให้ดอกเบี้ยที่คุณได้รับสูงขึ้นอีกด้วย โดยเงื่อนไขอีกข้อหนึ่งคือ คุณต้องไม่ถอนเงินก่อนระยะเวลาที่กำหนดไว้ หากคุณถอนเงินก่อนระยะเวลาที่กำหนด คุณอาจจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลงหรือไม่ได้รับดอกเบี้ยตามเงื่อนไขดังกล่าว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคารแต่ละแห่ง ซึ่งคุณควรศึกษาเงื่อนไขที่แต่ละธนาคารกำหนดไว้ให้ดีเพื่อผลประโยชน์ของตัวคุณเอง โดยทั่วไปทางธนาคารจะหักภาษีประมาณ 15% จากดอกเบี้ย และ ในทางตรงกันข้ามหากคุณกำหนดการถอนเงินเมื่อถึงระยะเวลา 3 เดือน แต่คุณยังไม่ถอนเงินตามกำหนด ธนาคารจะฝากเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้คุณในทุก ๆ 3 เดือน หลังจากนั้น
จะเห็นได้ว่าการฝากเงินแบบบัญชีเงินฝากประจำ คุณมีอิสระในการฝากเงินแต่มีข้อจำกัดในการถอนเงิน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือมักจะอดใจไม่ได้เมื่อเจอสิ่งของที่อยากได้ หรือสถานที่ที่อยากไป จนใช้เงินเกินตัวและไม่มีเงินเก็บ โดยคุณสามารถเลือกธนาคารที่วางใจได้และศึกษาเงื่อนไขต่าง ๆ พร้อมทั้งสอบถามสิ่งที่สงสัยและเลือกทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารนั้นๆ ได้
หากคุณไม่ต้องการเสียภาษีคุณสามารถเลือก การออมเงินแบบบัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี ได้
ข้อดีของการออมเงินแบบบัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษีคือมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงและไม่ต้องเสียภาษี เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถออมเงินได้ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยแต่ละธนาคารจะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวและแบบคงที่แตกต่างกัน คุณสามารถศึกษาการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยได้ หากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น คุณควรเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว หากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลง คุณควรเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่
โดยทั่วไปภาครัฐจะกำหนดยอดเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี ซึ่งเงินฝากประจำไม่ควรเกิน 600,000 บาท หากคุณเลือกการฝากเงินแบบบัญชีอายุ 2 ปี คุณจะไม่สามารถฝากเงินได้เกินกว่า 25,000 บาท และสำหรับบัญชีอายุ 3 ปี คุณจะไม่สามารถฝากเงินได้เกินกว่า 16,500 บาท และทางธนาคารอาจกำหนดยอดเงินฝากขั้นต่ำในแต่ละเดือนอีกด้วย เช่น ข้อกำหนดการฝากเงินขั้นต่ำในแต่ละเดือนประมาณ 500-1,000 บาท เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม : จัดอันดับ เงินฝากประจําดอกเบี้ยสูง ไม่เสียภาษี 2559
การออมเงินแบบบัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษีถึงแม้จะมีข้อจำกัดในการถอนเงินและฝากเงิน แต่ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้แน่นอน สามารถฝากเงินแต่ละเดือนได้ตามจำนวนเงินที่ทางธนาคารกำหนด เรียกได้ว่าเป็นการออมเงินประเภทหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่แพ้การออมเงินแบบบัญชีเงินฝากประจำเลยทีเดียว
การออมเงินแบบบัญชีเงินฝากออมทรัพย์
เป็นการฝากเงินที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดีเพราะมีขั้นตอนการฝากถอนที่ง่าย และมีความปลอดภัยในการฝากเงินไว้กับธนาคารมากกว่าการเก็บเงินไว้กับตนเอง โดยการฝากเงินแบบบัญชีเงินฝากออมทรัพย์นั้น คุณสามารถฝากถอนเงินได้ตามความต้องการโดยไม่มีการกำหนดเวลาในการถอนเงินอย่างแน่นอน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจับจ่ายใช้สอยอยู่ตลอดเวลา โดยดอกเบี้ยนั้นจะไม่สูงมากหากเทียบกับการฝากเงินแบบบัญชีเงินฝากประจำ หากคุณต้องการฝากเงินแบบบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ คุณควรมีกฎและข้อกำหนดว่าในแต่ละเดือนคุณจะฝากเงินเท่าไหร่และถอนเงินมาใช้ได้ไม่เกินเท่าไหร่เพื่อสร้างวินัยในการออมเงินของคุณเอง โดยทั่วไปการฝากเงินกับบัญชีเงินฝากแบบออมทรัพย์ ไม่ควรมีเงินฝากเกิน 3 เท่าของรายจ่ายประจำเดือน การออมเงินแบบบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอนหรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นออมเงินแบบง่าย ๆ และนำไปสู่การออมเงินที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น