หากคุณคงเป็นคนหนึ่งที่มี การออมเงิน เป็นประจำ แปลว่าคุณมีเป้าหมายในการเก็บออมเงิน ซึ่งแต่ละคนมีเป้าหมายจากการออมแตกต่างกัน เช่น ออมเงินเพื่อซื้อทรัพย์สินเพิ่ม ออมเงินเพื่อเก็บไว้ในใช้ในยามเกษียณหรือออมเพื่อการลงทุน แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่มีเงินเก็บเลย ในบทความนี้จะช่วยให้คุณเล็งเห็นประโยชน์ของการออมเงินมากขึ้นเพื่อชีวิตที่มั่นคงในอนาคต
การออมเงิน ทำให้เป็นคนมีวินัย
คุณต้องเริ่มจากการทำลายข้ออ้างต่าง ๆ ให้หมดไป เช่น การอ้างภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การมีหนี้สินที่ต้องรอชำระหรือต้องใช้หมุนเวียนในธุรกิจ ทุกคนสามารถมีเงินออมได้ทั้งนั้น แม้จะเป็นเพียงเศษเหรียญก็ตาม อันดับแรกคุณต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อตรวจสอบว่าคุณมีภาระการใช้จ่ายอย่างไรบ้าง จากนั้นพยายามลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เมื่อได้เงินมาให้แบ่งในส่วนออมเก็บไว้อันดับแรก นอกนั้นเป็นเงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ถ้าคุณมีรายรับมากพอ ควรแบ่งไว้อีกส่วนเพื่อเป็นเงินลงทุน ซึ่งในอนาคตสามารถนำเงินส่วนของการลงทุนไปต่อยอดทำธุรกิจที่คุณชอบเพื่อให้ได้ผลกำไรเพิ่มพูนจากเดิมได้ โดยที่ไม่เกี่ยวกับเงินออมซึ่งเป็นเงินเก็บไว้ใช้ในยามเกษียณ
ตัวอย่างเช่น คุณมีรายได้ต่อเดือน 30,000 บาท
- แบ่งเก็บเป็นเงินออม 20% ของรายได้ = 6,000 บาท
- แบ่งอีกส่วนเป็นเงินลงทุน 10% ของรายได้ = 3,000 บาท
- มีเงินเหลือใช้จ่ายอื่น ๆ 21,000 บาท โดยที่ในส่วนของเงินออมและเงินลงทุนจะต้องแยกกันอย่างชัดเจนไม่ยุ่งเกี่ยวกันโดยเด็ดขาด
เมื่อมีเงินในส่วนของการลงทุนเพิ่มมากขึ้น คุณก็สามารถนำไปเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างสบายใจเพราะยังมีเงินออมสำรองไว้แล้ว
การออมเงินทำให้มีอิสรภาพ
ถ้าคุณมีเงิน ทุกอย่างรอบตัวดูจะเป็นไปดังสมประสงค์เสียหมด อยากทำอะไรก็ได้ทำ อยากเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ อยากซื้อรองเท้าคอลเลคชั่นใหม่ การใช้เงินซื้อความสุขดูจะเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็อยากมีด้วยกันทั้งนั้น คำว่า “อิสรภาพ” ในที่นี้ หมายถึงการมีอิสรภาพทางการเงินหรือมีสภาพคล่องทางการเงินนั่นเอง เชื่อว่าทุกคนย่อมต้องการจะครอบครองชีวิตที่ได้รับอิสระเช่นนี้แน่นอน แต่คุณจะมีมันได้อย่างไรถ้าวันนี้ยังนั่งฝันลม ๆ แล้ง ๆ เปิดดูนิตยสาร อ่านข่าวดารา นำเงินที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายไปซื้อของแบรนด์เนมใช้ตามดนดังหรือออกท่องราตรีทุกค่ำคืนเพื่อเสียเงินลงไปกับขวดเหล้า หน้าใหญ่ แม้จะมีเงินอยู่น้อยนิด นิสัยเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คุณเข้าใกล้คำว่าอิสรภาพแม้แต่น้อย
มีเงินออม อยากลงทุนก็เริ่มได้
ถ้าวันหนึ่งคุณคิดเริ่มลงทุนทำอะไรสักอย่าง สิ่งแรกที่ต้องถามตัวเองคือ เรามีเงินทุนมากพอหรือเปล่า? ถ้าคุณไม่มีเงินสำรองไว้เพื่อการลงทุนก็จำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสิน วิ่งขอสินเชื่อให้วุ่นวายเป็นแน่ การมีเงินออมช่วยให้การเริ่มทำอะไรเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น เนื่องจากมีทุนกองอยู่แล้ว ไม่ต้องกู้เงินมาเริ่มต้นธุรกิจ ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งกว่าจะคืนทุนจนได้กำไรก็ต้องนำเงินไปใช้คืนเจ้าของทุนพร้อมดอกเบี้ยอีกบานตะไท เช่น คุณเห็นเพื่อนเปิดพอร์ทหุ้น ผ่านไป 3 ปี เพื่อนคุณมีกำไรจากการเล่นหุ้นหลักแสน คุณจึงคิดอยากเปิดพอร์ทหุ้นบ้างเพื่อเพิ่มช่องทางการรับเงินนอกจากเงินเดือนปกติ แต่คุณไม่มีเงินเก็บเลย! สุดท้ายก็ต้องฝันสลายและกลับมาใช้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนต่อไปเนื่องจากไม่เคยออมเงินเพื่อการลงทุน หรือต้องไปกู้ยืมเงินเพื่อทำการลงทุนซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงมาก อีกทั้งเมื่อเริ่มต้นลงทุนกับหุ้น ยังไม่ได้มีกำไรเป็นกอบเป็นกำ เนื่องจากประสบการณ์วิเคราะห์หุ้นยังน้อย ทำให้ต้องรับผิดชอบคืนทั้งเงินต้นและเงินดอกที่มีค่างวดสูง การไม่เก็บออมเงินจึงเป็นนิสัยที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างมากหากคุณต้องการมีอนาคตการลงทุนที่ดี
กล่าวคือ หากคุณอยากทำให้เงินเติบโตด้วยการลงทุน ต้องเริ่มจาก “การออมเงิน” แล้วจึงจะนำเงินไปต่อยอดได้ หากไม่เริ่มออม มักผัดวันประกันพรุ่งการออมไปเรื่อย ขั้นตอนของการลงทุนไม่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน หรือสำหรับบางคนอาจยังไม่มีเป้าหมายอะไรที่ชัดเจนนักเพียงแค่เก็บเงินอยู่สม่ำเสมอ มีการวางแผนการใช้เงินอย่างรัดกุม ยามที่หยิบสมุดบัญชีมาดูแล้วเห็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แค่นี้ก็รู้สึกอุ่นใจมากแล้วเพราะไม่ต้องกังวลหากมีเรื่องฉุกเฉินต้องใช้เงิน
มีเงินออม มั่นใจได้ทุกจังหวะชีวิต
ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน ประโยคนี้คงเตือนใจใครหลายคนให้ระวังเกี่ยวกับทุก ๆ เรื่องในชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการออม หากวันหนึ่งตัวคุณประสบอุบัติเหตุร้ายแรง มีความจำเป็นต้องใช้เงินรักษาเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ทำประกันชีวิตในกรมธรรม์อุบัติเหตุก็ตาม แต่ประกันชีวิตส่วนใหญ่มักให้สำรองเงินออกก่อน จะหยิบยืมเงินใครก็ทำได้ยากลำบาก แต่ถ้าคุณมีเงินออมเก็บไว้สำหรับส่วนนี้ ชีวิตคุณคงง่ายขึ้น เรียกได้ว่าเงินเป็นพระเจ้าอย่างแท้จริงสำหรับการรักษาพยาบาลเพราะการมีเงินนั่นอาจหมายถึงโอกาสได้มีชีวิตต่อไป หรือแม้แต่รถยนต์ที่คุณใช้ในทุกวัน วันหนึ่งอาจโดนลูกหลงจากอุบัติเหตุจนรถพังไม่สามารถใช้งานได้ กว่าจะรอประกันรถยนต์เคลมซ่อมให้ก็ต้องใช้เวลาหลายเดือน คุณจะดำเนินชีวิตต่อได้อย่างไรโดยที่ไม่ให้ตัวเองลำบากมากเกินไปนัก
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้คุณคงเล็งเห็นความสำคัญของการออมเงินขึ้นมาแล้วใช่ไหม จงอดทนไม่ซื้อของฟุ่มเฟือย ไม่ประมาทกับชีวิตและคิดถึงอนาคตให้มากขึ้น เริ่มต้นเก็บออมกันดีกว่าเพื่อที่คุณจะได้มั่นใจกับทุกจังหวะชีวิต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น “เงินออม” ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้เสมอ การใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท ไม่เพียงทุ่มเทกับการทำงานหนักในวันนี้ แต่คุณต้องมองการณ์ไกลได้แล้ว เริ่มวางแผนว่าคุณจะเกษียณตัวเองตอนไหน คุณจะสบายเร็วกว่าคนอื่นได้หรือเปล่า หรือคุณอยากทำงานไปจนถึงอายุ 60 แบบคนทั้งโลก คุณสามารถเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตแบบเดิมให้ดีขึ้นได้ด้วยการเริ่มออมเงินในวันนี้เพื่ออิสรภาพในวันข้างหน้า