ต่อให้แม่จะบอกเราอยู่เสมอว่าแม่ไม่ได้ต้องการอะไรก็ตาม แต่คนเป็นลูกเมื่อถึงวัยที่ทำงานมีรายได้ หาเงินเองได้แล้ว ก็อยากใช้เงินจากน้ำพักน้ำแรงของเราทำอะไรตอบแทนแม่บ้าง เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้แม่รู้ว่าเรารักแม่แค่ไหน และเราอยากทำอะไรเพื่อแม่บ้าง
โอกาสวันแม่ถือเป็นโอกาสที่ดีของทุกปี ที่ลูก ๆ ต่างเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมจะมอบของขวัญในรูปแบบต่าง ๆ ให้แม่ เพื่อให้แม่ดีใจและมีความสุข บางคนก็เตรียมออมเงินมาเป็นปีเพื่อจะได้ซื้อของขวัญชิ้นโปรดที่มั่นใจว่าถูกใจแม่แน่นอน เพราะแอบถามไว้ก่อนแล้ว หรือลูกบางคนก็ตั้งใจเตรียมเก็บเงินเพื่อพาแม่ไปเที่ยวในที่ที่แม่อยากไป หรือลูกบางคนก็ให้เงินที่เก็บมาเป็นก้อนกับแม่เอาไว้ใช้ซื้อของที่แม่ชอบเอง ถึงปากแม่จะบอกว่าไม่ต้องการอะไร แต่เชื่อสิคะ ว่าถ้าแม่คนไหนเจอแบบนี้ก็ต้องยิ้มแก้มปริแน่นอน
วันนี้เรามีเทคนิคในการออมเงินเพื่อบอกรักแม่มาฝากกันค่ะ ปีนี้อาจจะไม่ทัน แต่อ่านเพื่อเริ่มต้นออมสำหรับปีต่อ ๆ ไปก็ไม่สายค่ะ
- เปิดบัญชีฝากประจำ ถ้าเราตั้งใจอยากเก็บออมเงินเพื่อบอกรักแม่จริง ๆ เราต้องตั้งให้เป็นเป้าหมายการออมเงินที่เราต้องทำให้ได้ค่ะ กะประมาณคร่าว ๆ ว่าสิ่งที่ต้องการให้แม่นั้นมีงบประมาณเท่าไหร่ เช่น ถ้าเป็นทริปท่องเที่ยวก็ลองลิสต์ค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ออกมา ถ้าเป็นของขวัญ อย่าง กระเป๋าแบรนด์เนม ก็สืบหาราคามาก่อน เราจะได้รู้ว่าเราต้องเก็บเงินจำนวนเท่าไหร่ ด้วยเวลาที่เหลืออยู่ก่อนถึงวันแม่ เราจะต้องเก็บเงินเดือนละกี่บาท ต้องวางแผนให้ดี เพราะเวลาผ่านไปเร็วนะคะ เผลอแป๊บเดียวไม่นานก็ถึงวันแม่อีกรอบแล้ว ลองไปดูตัวอย่างการฝากเงินประจำกับธนาคารเพื่อบอกรักแม่กันค่ะ
เห็นไหมคะ ว่าถ้าเราวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า จำนวนเงินที่เก็บรายเดือนดูจะไม่เป็นปัญหาเลย แต่ถ้าปล่อยเวลาให้ผ่านไป จนถึงใกล้ ๆ วันแม่แล้วค่อยคิดจะเก็บ บางทีก็อาจไม่ทัน ไม่ได้ทำในสิ่งที่เราตั้งใจไว้ค่ะ
- ซื้อประกันสุขภาพให้แม่ การซื้อประกันสุขภาพให้แม่ก็เหมือนเป็นการออมเงินเพื่อบอกรักแม่ในรูปแบบหนึ่งค่ะ คนสูงอายุเป็นธรรมดาที่จะมีโรคหรือเจ็บป่วย การที่แม่มีประกันสุขภาพทำให้คลายกังวลกับค่าใช้จ่ายในเรื่องค่ารักษาพยาบาลของตัวเองไปได้มากเชียวค่ะ นี่เป็นวิธีบอกรักแม่และแสดงความกตัญญูกับแม่ได้ดีวิธีหนึ่งเลย ทีเดียว สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพที่จะซื้อให้แม่นั้นถ้าเราไม่สะดวกจ่ายเป็นรายปีที่จะเป็นเงินก้อนใหญ่ เราก็เลือกจ่ายเป็นรายเดือนก็ได้ ให้หักบัญชีบัตรเครดิตทุกเดือนก็สะดวกดีค่ะ ในอีกมุมมองเป็นการออมเงินเพื่อซื้อการรักษาพยาบาลให้กับแม่ และเป็นการวางแผนการเงินของเราเองไปด้วย ลองไปดูตัวอย่างของค่าเบี้ยประกันสุขภาพรายเดือนของคุณแม่วัย 65 ปีกันหน่อยค่ะ
*ค่าเบี้ยประกัน AIA All in One แบบคุ้มครองชีวิต 200,000 บาท สุขภาพ ค่าห้อง 2,200 บาท ผ่าตัดสูงสุด 60,000 บาท อุบัติเหตุ 600,000 บาท โรคร้าย 200,000 บาท และชดเชยรายได้วันละ 1,000 บาทเมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทุกกรณี นี่เป็นตัวอย่างของค่าเบี้ยประกันเท่านั้น รายละเอียดอาจแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขในกรมธรรม์
ค่าเบี้ยประกันเมื่อดูรายปีแล้วอาจดูแพงจนทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นภาระ แต่เมื่อแบ่งจ่ายเป็นรายเดือนก็จะดูลดลง ไม่เป็นภาระมาก มองเหมือนเป็นเงินเก็บออมเพื่อซื้อความมั่นคงในชีวิตและด้านสุขภาพให้กับแม่ของเราได้จริง ๆ ค่ะ เรื่องความคุ้มค่าของความคุ้มครองก็ไม่ต้องพูดถึง แถมยังมีประโยชน์ตรงส่วนของค่าเบี้ยประกันชีวิตนำมาลดหย่อนภาษีของลูกได้ด้วย
- ตั้งกระปุกเก็บเงินเพื่อแม่ สำหรับลูกคนไหนที่ไม่ได้อยากให้วาระการเก็บเงินเพื่อแม่ดูเป็นเรื่องซีเรียสกับชีวิตเกินไปนัก อยากเก็บแบบชิล ๆ ไป ก็ให้ลองหากระปุกหรือขวดใส ๆ มา เขียนแปะไว้ตัวโต ๆ ว่า “เก็บเงินเพื่อแม่” แล้วทุกวันมีแบงค์ 20 แบงค์ 50 หรือเศษเหรียญเหลือกลับมาในกระเป๋าเท่าไหร่ก็แยกมาเก็บไว้ในกระปุกนี้ ทำแบบนี้ทุกวัน ครบเดือนก็มีเงินเป็นพันได้เหมือนกัน และพอครบปีบางทีก็มีเป็นหมื่นหรือมากกว่านั้น เอาไปทำอะไรดี ๆ ให้แม่ได้หลายอย่างเลยค่ะ ทั้งพาเที่ยว ซื้อของขวัญให้ หรือจะมอบเงินก้อนนี้ให้แม่เอาไว้ใช้ก็ยังได้ เป็นอีกเทคนิคในการเก็บเงินที่หลายคนใช้กัน แค่เปลี่ยนเป้าหมายของกระปุกใบนี้ให้เป็นการออมเงินเพื่อแม่เท่านั้นเอง ไม่ยากเลยจริงไหมคะ แต่ครบเดือนหรือครบ 3 เดือนก็ลองเปิดมานับดู ถ้าเยอะหน่อยก็เอาไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ยเพิ่มอีกนิดหน่อยก็ได้ แล้วก็เก็บต่อ รับรองแบบนี้ถึงวันแม่เก็บเงินทันแน่นอนค่ะ
ลองดูนะคะว่าเทคนิคที่เหมาะกับที่เราจะเก็บเงินเพื่อบอกรักแม่ได้ ไม่ว่าเงินออมที่เก็บได้จะน้อยหรือมาก แต่ถ้าเราตั้งใจทำเพื่อแม่จริง ๆ แล้ว ถ้าแม่รู้แม่ต้องดีใจและภูมิใจแน่นอนค่ะ ถ้าเราตั้งเป้าหมายการออมเงินเพื่อแม่เป็นเป้าหมายระยะสั้นที่ต้องทำให้สำเร็จตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็มีโอกาสที่จะเก็บเงินได้สำเร็จ และได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจว่าอยากทำให้แม่กันทุกคนแน่ ๆ ค่ะ