มนุษย์เงินเดือนหลาย ๆ คนตั้งเป้าหมายสำหรับการออมเงินในเหตุผลของตนเองซึ่งแตกต่างกันออกไป แต่ละคนทำการออมได้บ้างไม่ได้บ้าง สำหรับคนมีเป้าหมายการออมที่ชัดเจนรวมถึงวางแผนการออมที่ดี จะช่วยให้การออมบรรลุเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย แต่ก็มีอีกหลายคนที่ได้แต่วางเป้าหมายการออม แต่ยังมีแรงจูงใจ แรงบันดาลใจเพื่อให้เก็บเงินได้ตามเป้าหมายได้ไม่มากพอ ซึ่งแรงจูงใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การออมของคุณประสบผลสำเร็จได้ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่คุณจะสามารถสร้างแรงจูงใจหรือแรงบันดาลใจเพื่อให้การออมเงินนั้นประสบผลสำเร็จ
เคล็ดลับง่าย ๆ เริ่มจากเป้าหมายเล็ก ๆ ก่อน
ยกตัวอย่างเช่น เริ่มเก็บเงินปีแรกตั้งเป้าไว้ที่เดือนละ1,000บาท ภายในหนึ่งปีจะมีเงินออมรวม 12,000 บาท เริ่มจากแบบนี้จะทำให้มองเห็นภาพและจินตนาการถึงเป้าหมายในการเก็บเงินได้ง่ายขึ้นเพราะเมื่อมองเห็นตัวเลขที่ตั้งเป้าไว้จะทำให้มีกำลังใจและแรงจูงใจมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ควรตั้งเป้าหมายให้สูงเกินไปจากความสามารถของตัวเองเพราะมันจะกลายเป็นภาระและไม่มีแรงจูงใจในการออมเงินและจะรู้สึกเหนื่อยจนท้อและเลิกไปในที่สุด
หาแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบข้าง
บางครั้งการมองคนอื่นที่มีพฤติกรรมการออมและมองเห็นสิ่งดี ๆ จากการออมของคนรอบข้างก็กลายเป็นแรงบันดาลใจ เพราะมันสามารถสร้างแรงจูงใจให้คุณอยากมีแบบนั้นอยากทำได้แบบนั้นคล้ายกับให้บุคคลคน ๆ นั้นเป็นไอดอลในด้านการออม เลือกสิ่งที่เราสามารถทำตามเข้าได้ เช่น เซเลป หรือดาราบางคนมีวิธีการออมเงินแบบง่าย ๆ บ้าน ๆ เช่น เปิ้ล นาคร ศิลาชัย ที่นิยมการหยอดกระปุกแบบบ้าน ๆ แต่ขอบอกว่ามีกระปุกมากกว่า 30 ใบในบ้านและเงินเต็มทุกใบด้วย โดยเขาให้เหตุผลว่าการออมโดยการหยอดกระปุกนั้นทำได้ง่ายและสะดวกซื้อกระปุกมาตั้งไว้หยอดมันทุกวันเหรียญบ้าง ธนบัตรบ้าง อันไหนเต็มก็หาอันใหม่มาหยอดมาเป็นปี ๆ จนกลายเป็นนิสัยซึ่งเขาบอกว่าบางครั้งทุบมานับเงินไปเข้าธนาคารยังตกใจว่าเก็บเงินได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ นอกจากนี้ยังมี ลูกเกด เมทินี นางแบบชื่อดังที่ใช้วิธีหยอดกระปุกสอนลูกชายให้แบ่งเงินหยอดกระปุก โดยจะมีกระปุกอยู่ 3 ใบแบ่งเป็นเงินออม เงินฉุกเฉินและเงินซื้อของเล่น โดยไม่บังคับว่าต้องหยอดเท่าไหร่ให้ลูกหยอดเองจากค่าขนมที่ให้ประจำวันตามความต้องการและหยอดในกระปุกที่คิดว่าสำคัญ นี่ก็เป็นตัวอย่างการออมเงินที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจหรือแรงจูงใจให้กับคุณได้ เพราะ แม้แต่คนดังระดับซุป’ตาร์ยังรู้จักการออมเงินแบบง่ายเช่นกัน
แรงจูงใจจากตัวเองสิ่งนี้สำคัญที่สุด
ทำให้ออมเงินได้สำเร็จ การสร้างแรงจูงใจจากตัวเอง เช่น ลองวางแผนดูว่า เมื่อคุณแก่ตัวไป คุณจะมีเงินส่วนไหนเพื่อนำมาใช้จ่าย มองอนาคตว่าอยากสบายมีเงินใช้ มีเงินเที่ยว มีเงินจ่ายได้อย่างไม่ลำบาก ไม่เป็นภาระใคร เมื่อรู้ปลายทางก็ต้องเริ่มทำต้นทางคือการออมเงินไว้เพื่อใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยามชรา โดยออมเท่าที่ออมได้และประหยัดอยู่อย่างพอเพียงแต่มีความสุขได้โดยไม่งกจนเกินเหตุหรือฟุ่มเฟือยจนเกินตัว แบ่งเก็บ แบ่งใช้ แบ่งสร้างความสุขให้ตัวเอง สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นแรงจูงใจให้คุณรู้จักเก็บเงินได้เพราะเมื่อเห็นอนาคตแล้วว่าคุณจะสบายในยามเกษียณแน่นอนหากมีเงินเก็บไว้พอเลี้ยงชีพและใช้จ่ายในอนาคตได้อย่างไม่เดือดร้อน คุณก็จะมีแรงสร้างรายได้เพื่อให้มีเงิน และรู้จักใช้เงินเพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับการออม นอกจากนี้แรงจูงใจในการออมเงินยังหมายถึงการเลือกวิธีการออม การออมเงินมีทั้งทางตรงและทางอ้อม การออมทางตรง เช่น การหยอดกระปุก การฝากธนาคาร การออมทางอ้อม เช่น การซื้อสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในอนาคตเก็บไว้ ที่ดิน ทอง บ้าน รวมถึงการลงทุนที่มีผลตอบแทน เช่น ซื้อพันธบัตร ซื้อกองทุน ซื้อหุ้น ซึ่งทั้งสามอย่างถือเป็นการออมส่วนหนึ่งและลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนส่วนหนึ่ง แต่ทั้งสามอย่างมีความเสี่ยงจึงต้องศึกษากันให้ละเอียด
นอกจากการหาแรงจูงใจในการเก็บเงินแล้ว สิ่งสำคัญสำหรับมนุษย์เงินเดือนเพื่อให้มีเงินเหลือออมได้ในทุกเดือน คือ การบริหารเงินเดือนให้เป็น การจัดการแบ่งเงินรายได้ให้พอใช้ในแต่ละเดือนโดยไม่สร้างภาระหนี้สินจนเกินตัว จะทำให้มีเงินใช้จ่ายได้อย่างสะดวก มีความพอเพียงในการใช้จ่าย การประหยัดเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีเงินพอใช้ แม้จะเหลือเก็บน้อยนิด การใช้เงินอย่างประหยัดจะช่วยให้คุณมีเงินใช้ตลอดทั้งเดือนโดยไม่ต้องยืมเงิน สร้างหนี้ เป็นสิ่งที่สมควรทำมากที่สุด การออมเงินไม่ใช้ภาระแต่เป็นสิ่งที่ควรทำ การออมไม่มีกำหนดตายตัว ไม่มีสูตรสำเร็จ มีแต่ความพอดีของแต่ละคนเท่านั้นเป็นตัวกำหนดว่าจะออมเงินได้มากน้อยแค่ไหน แรงจูงใจที่สำคัญคือจากตัวเอง และสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงคำแนะนำที่น่าสนใจสำหรับการสร้างแรงจูงใจในการออมเงิน เป็นเพียงตัวอย่างที่สามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองได้ เลือกทำในแบบที่สะดวกเหมาะสม ไม่เดือดร้อนตนเอง จึงจะเป็นการออมที่ดีที่สุด
อ่านเพิ่มเติม >> หา แรงจูงในการออมเงิน ช่วยเพิ่มเงินออม <<
การออมเงินมากหรือน้อยไม่ใช่เรื่องถูกหรือผิด วิธีการหาแรงจูงใจของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนก็ขอให้ประสบความสำเร็จในการออมเงินเพื่ออนาคตในวันข้างหน้า อย่างคำโบราณที่มักบอกเสมอว่า ลำบากวันนี้สบายวันหน้า ประโยคนี้คงสร้าง แรงจูงใจในการออมเงิน ตั้งแต่ขณะนี้ได้แล้วใช่ไหม