ขาหุ้นทั้งหลายมักออกอาการตื่นเต้นเสมอ โดยเฉพาะช่วงปลายปีต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ชนิดที่เรียกว่าออนไลน์ข่าวหุ้นกันเลยว่าหุ้นตัวไหนปันผลเท่าไหร่ วันนี้บริษัทไหนออกมาประกาศตัวเลขบ้าง หุ้นที่ตัวเองถือปันผลเป็นอย่างไร จะเข้าข่าย หุ้นปันผลสูงสุด บ้างมั้ย ยิ่งถ้าคอหุ้นได้ร่วมวงสนทนา ช่วงกินข้าวกลางวันกันทุกเที่ยงแล้ว ก็มักสนุกสนานออกรสออกชาติ เหมือนลุ้นผลสอบปลายภาคว่าจะออกหัวหรือก้อย ออกเกรด A หรือ D กันแน่
การเล่นหุ้นปันผลนั้น มีเทคนิคเฉพาะตัวที่เรียกว่าต้องเล่นให้เป็นอยู่ไม่มาก แต่จำเป็นต้องยึดมั่นในหลักการ ห้ามเผลอ หลักการง่าย ๆ ของการเล่นหุ้นปันผลคือต้องไวมาก ๆ และจะต้องไม่โลภมากด้วย นักเล่นหุ้นหลายคนมีปัญหา ติดดอยข้ามปีก็เพราะเล่นหุ้นปันผลด้วยความโลภนี้เอง บางคนอาจเรียกความโลภของตัวเองให้ดูน่าขันขึ้น เช่น ไม่อยากขายหมู แต่ถ้าคนที่เล่นหุ้นอย่างมีหลักการและวิเคราะห์ตัวเลขเป็นแล้ว มักไม่เกิดเหตุการณ์ขายหมู แต่เกิดอาการโลภ จนเสียกระบวนเสียมากกว่า
ยกตัวอย่างการเล่นหุ้นปันผล ตัวอย่างเช่น หุ้น A1 ปกติราคาอยู่ที่ 5 บาท และมีปันผลปีละครั้ง เฉลี่ย 0.25 บาท แต่ เนื่องจากปีที่ผ่านมาบริษัทมีผลประกอบการดี ประกาศปันผลตอนเที่ยงตรงว่าจะปันผล 1.25 บาทต่อหุ้น ถือว่าเป็น 25%ของราคาหุ้นปัจจุบัน เมื่อตลาดภาคบ่ายเปิด ราคาหุ้น A1 พุ่งขึ้นไปแตะ 7 บาท แทบจะทันทีหรือราคาหุ้นขึ้นไปเกินกว่า 30% และยังมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอด เมื่อใกล้ถึงเวลา XD ซึ่งอาจจะ 2 หรือ 3 สัปดาห์ต่อมา หุ้น A1 ได้พุ่งไปถึง 10 บาท หรือราคาหุ้นสูงกว่าปกติถึงร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อผ่านวันปันผล หุ้นจะถูกเทขายอย่างหนัก ราคาจะลดลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง หากขายไม่ทันมักติดดอยสูง ไม่รู้ตัว ตัวอย่างที่ยกมานี้อาจดูเกินจริง และเห็นได้ชัดว่าบริษัทเองหวังผลอะไรไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ยากเกินจะคาดเดา ตัวอย่างหุ้นที่มีพฤติกรรมใกล้เคียงนี้มีอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็เกิดขึ้นจริง (JAS ปี 57) แต่สิ่งที่อาจเกินที่สายตาแมลงเม่าจะคาดการณ์ได้คือราคาที่ขึ้นลงเร็วจนไม่สามารถปล่อยขายได้ทัน เพราะทันทีที่ตลาดเปิดหลังหุ้นจ่ายปันผลแล้ว ราคาลงไปแตะหลุด 4 บาท ต่อหุ้นเลยด้วยซ้ำไป
หุ้นใน Q458 ที่เข้าข่ายปันผลดี ผลประกอบการปี 59 สดใส
จากการวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (17 ก.พ. 59) ได้ระบุถึงหุ้นเด่นไว้ คือ
- ADVANC ปันผล 5.51 บาท XD 31 มี.ค. นี้ หากรวมปันผลงวดจ่าย 1H58 อีก 6.49 บาท รวมแล้วจ่ายหันผลสูงถึง 12.99 บาทต่อหุ้น Yield 7.8% เลยทีเดียว
- INTUCH มีแผนประกาศงบ 4Q58 และ XD ต้น เม.ย. 59 นี้ โดยคาดว่าจะจ่าย 2.60 บาทในงวด 2H58 ซึ่งคิดเป็น Yield สูงถึง 4.663%
การเลือกหุ้นที่เน้นตัวที่มีแนวโน้มกำไรสุทธิในงวด 4Q58 และยังไม่การเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 59 นั้น นับเป็น กลยุทธ์ที่ถือว่าปลอดภัย ทั้งนี้ อาจต้องดูลักษณะการดำเนินธุรกิจในช่วงห้าปีที่ผ่านมาด้วย เพื่อพิจารณาความสามารถ ในการจ่ายเงินปันผลสูง เช่น PS SC และ MCS ซึ่งมี FV ที่ 38 4.56 และ 15.75 บาทตามลำดับ ทั้งนี้อาจพิจารณาหุ้น ที่มีกระแสเงินสดมั่นคงอีกด้วย เช่น ADVANC และ INTUCH ที่มี FV 187 และ 75 บาท ตามลำดับ ซึ่งบ่งบอกได้ว่าหุ้นนั้น มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลได้ (ถ้าในเหตุการณ์ปกติ) และมีแนวโน้มจะจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยอาจสูงกว่าปีที่ผ่าน ๆ มาเป็นต้น
โดยทั่วไปนักเล่นหุ้นมักให้ความสนใจหุ้นปันผลดี และลงทุนในระยะสั้นเพื่อหวังผลตอบแทนจาก Dividend Yield และ Capital Gain เหมือนได้เงินตอบแทน 2 ต่อจากการวิเคราะห์สถิติย้อนหลัง 5 ปี หุ้นที่จ่ายปันผลปีละครั้ง มักจะมีราคาปรับตัวขึ้นสูงกว่าหุ้นที่จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้งเสมอ และหุ้นที่ปันผล 1 ครั้งต่อปี มักจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าด้วย โดยหุ้นนั้น ๆ หากอยู่ในภาวะพื้นฐานปกติ และมีผลประกอบการเติบโตมั่นคงอย่างต่อเนื่อง นักเล่นหุ้นจะทยอยซื้อเก็บไว้ตั้งแต่ 2 เดือน ก่อนประกาศปันผลก่อนเสมอ และจะปล่อยขายอย่างรวดเร็วในวัน XD ซึ่งคิดแล้วเฉลี่ยให้ผลตอบแทนสูงถึง 13.9% ด้วย ความน่าจะเป็น 79% หากนับการถือครองหุ้นในระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว ถือว่าให้ผลตอบแทนที่มากเลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติม : จับตา หุ้นเด่น ปี 2559
ส่วนหุ้นที่จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง เมื่อคิดเฉลี่ยแล้วให้ผลตอบแทนเพียง 9.0% ด้วยความน่าจะเป็น 77% ซึ่งนับว่าต่างกันมากเกือบ 5 จุด เหตุผลนั้นไม่แน่ชัด เพราะพฤติกรรมการเข้าซื้อหุ้นปันผลค่อนข้างเอียงเทกระดาน คือเทไปที่หุ้นใด หุ้นหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง ในขณะที่นักลงทุนสถาบัน และกองทุนต่างชาติ มักให้ความสนใจที่ผลประกอบการจาก Capital Gain เป็นหลัก รวมถึงการเล่นแร่แปรธาตุเพื่อหวังผลจากความผันผวนของตลาดเสมอ