โรคช็อปอะโฮลิก หรือเสพติดการช้อปปิ้ง หลายคนเป็นโรคนี้ซึ่งจะว่าเป็นโรคก็ไม่ได้เพราะไม่ทำให้ถึงตายแต่มันจะทำให้จน เอาเป็นว่าช็อปอะโฮลิก เป็นอาการแบบหนึ่งของคนที่ชอบซื้อของ เรามาลองสำรวจตัวเองกันบ้างว่าเข้าข่ายอาการช็อปอะโฮลิก หรือ เสพติดการช้อปปิ้งหรือเปล่า
อาการช้อปอะโฮลิกนั้นว่าง่ายแบบบ้านๆคือซื้อมันทุกอย่างที่อยากได้ แม้จะมีแล้วก็ต้องซื้อโดยจะมีเหตุผลในการซื้อให้กับตัวเองไปเรื่อยๆ บางคนก็ซื้อจนเกินพอดีทั้งๆที่รู้ว่ามันเปลืองแต่มันอดซื้อไม่ได้หยุดซื้อไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่น เสื้อผ้าคนที่มีอาการช้อปอะโฮลิกนั้นมักจะซื้อแบบชนิดที่ว่าใส่ทั้งเดือนยังไม่ซ้ำ แบบเดียวกันต่างสีก็มี ยิ่งหากเสพติดแฟชั่นด้วยแล้วรับรองว่าซื้อแบบไร้สติ คือซื้อทุกแบบที่ขวางหน้า ถ้ารวยก็แบรนด์เนมถ้าไม่รวยแบกับดินก็ขอให้ได้ซื้อ บางคนซื้อเครื่องสำอางขนซื้อซะจนไม่มีที่จะเก็บบางชิ้นซื้อมาไม่ได้ใช้เก็บจนหมดอายุก็มีเพียงแค่ขอให้ได้ซื้อ สีใหม่ ตลับใหม่ อะไรใครว่าดีซื้อมันหมดทุกอย่าง นี่คือตัวอย่างของการเป็น ช้อปปิ้งลิสซึ่ม บางคนหนักกว่านี้คือขอให้ได้ออกไปเดินห้างไปซื้อของไม่มีจุดหมายไม่ได้เล็งอะไรไว้เป็นพิเศษแต่อยู่บ้านไม่ได้ต้องไปเดินหาซื้ออะไรสักอย่าง ใครเป็นแบบนี้บ้าง
บอกเลยว่าอาการแบบนี้ทำให้หมดตัวกันมาแล้ว แม้ไม่ถึงกับหมดตัวจริงๆแต่มีบางคนเงินหมดบัญชีเพราะบ้าซื้อของมาแล้ว ซึ่งทางแก้นั้นคงต้องบอกว่ายากสักนิดเพราะมันอยู่ในจิตใจว่าง่ายๆเหมือนเป็นอาการทางจิตเวชชนิดหนึ่งซึ่งต้องใช้เวลาในการรักษา บางคนบำบัดอาการช้อปปิ้งลิสซึ่มได้ด้วยตัวเองคือปล่อยวางตัดกิเลสความอยากได้อยากจ่ายค่อยๆลดละเลิกและสามารถซื้อของได้แบบคนปรกติทั่วไปคือซื้อที่จะใช้ซื้อแค่ที่ขอบและอยากได้จริงๆ ไม่ใช่ซื้อไปหมดทุกอย่าง ส่วนบางคนนั้นตัดใจเองไม่ได้ก็ต้องปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งในต่างประเทศนั้นมีเคสนี้ค่อนข้างเยอะ และการปรึกษาจิตแพทย์เป็นทางออกที่ดีด้วย แต่ในบ้านเราใครไปหาจิตแพทย์คือบ้า ทั้งๆที่มันไม่ใช่เลย และการมีอาการช้อปอะโฮลิกนั้นจะทำให้คุณจนโดยไม่รู้ตัว แม้ไม่ถึงขนาดกัดก้อนเกลือกินแต่เงินมันก็เหลือลดน้อยลง บางคนเงินเดือนออกก็ไปช้อปปิ้งจนหายยากรู้ตัวอีกทีหนี้บัตรเพิ่มขึ้นบานแถมเงินสดเกือบหมดตัว นี่คือผลเสียและผลร้ายของการเป็นช้อปอะโฮลิค
หากคุณมีอาการแบบนี้หรือเริ่มจะเสพติดการช้อปปิ้งควรพยายามบำบัดอาการนี้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆเช่น ไม่ไปในแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ บ่อยจนเกินไป ไม่ซื้ออะไรโดยไม่จำเป็นและไม่ตั้งใจ ตั้งสติก่อนจ่ายหรือหยิบของเพื่อซื้อทุกครั้งคิดก่อนว่าจะเอาไปทำอะไร ซื้อแล้วเงินเหลือเท่าไหร่หรือหนี้บัตรเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ หาเหตุผลในการไม่ซื้อให้กับตัวเองแล้วคุณจะไม่กลายเป็นช้อปอะโฮลิก เชื่อว่าสาวๆและหนุ่มๆหลายคนมีอาการแบบนี้โดยเฉพาะวัยทำงานหลายคนเพิ่งมีเงินเดือนเลี้ยงตัวได้ก็มักจะเริ่มเป็นช้อปอะโฮลิกตามมาด้วยเพราะอะไรที่อยากได้มานานตอนนี้ก็สนองนี้ดตัวเองได้แล้วนั่นเอง
หากคุณคิดว่าอาการแบบนี้เลิกยากแนะนำว่าปรึกษาจิตแพทย์จะช่วยคุณได้จริงๆ เพราะอาการนี้หากเกิดกับใครแล้วมันไม่สนุกเลยมันส่งผลหลายๆอย่างทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้แน่นอน ที่สำคัญคือมันจะทำให้คุณมีเงินสดใช้จ่ายไม่เพียงพอและมีหนี้สินจากการรูดบัตรบ่อยๆแน่นอน