มีประกันเดินทางแล้ว ต้องซื้อประกันอุบัติเหตุเพิ่มมั้ย?
การเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าใครก็อยากออกเดินทางเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ และความงดงามของสถานที่ต่าง ๆ แต่ความสวยงามมักมากับเรื่องนี้ต้องระวัง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทางพัง เจ็บป่วยระหว่างเดินทาง หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงสงสัยว่า มีประกันเดินทางอยู่แล้ว ต้องซื้อประกันอุบัติเหตุเพิ่มมั้ย วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูประโยชน์ และความสำคัญของประกันอุบัติเหตุกัน ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบ และวางแผนการเลือกประเภทของประกันได้อย่างครอบคลุม เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น วางแผนท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ
ประกันอุบัติเหตุ (Accident Insurance) คืออะไร?
ประกันอุบัติเหตุ (Accident Insurance) เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุต่าง ๆ แก่บุคคลที่สมัครประกันภัย หรือบางกรมธรรม์อาจระบุความคุ้มครองครอบคลุมไปถึงบุคคลในครอบครัวได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการมีประกันอุบัติเหตุจะช่วยให้สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุได้ โดยประกันอุบัติเหตุหลายแห่ง มักมีความคุ้มครองสำหรับผู้ทำประกันภัย ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ดังนี้
- การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
- การสูญเสียอวัยวะ และสายตา รวมทั้งการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
- การทุพพลภาพชั่วคราวสิ้นเชิง
- การทุพพลภาพชั่วคราวบางส่วน
- ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ
- ค่าชดเชยรายวันกรณีผู้ป่วยใน
- ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
- ค่าเดินทางกลับในกรณีเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต
ประกันเดินทาง VS ประกันอุบัติเหตุ ต่างกันยังไง
เมื่อรู้จักกับประกันอุบัติเหตุในเบื้องต้นแล้ว อาจจะสงสัยกันว่า ประกันเดินทาง VS ประกันอุบัติเหตุ แตกต่างกันยังไง? ก่อนอื่น เราควรมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “ความแตกต่างระหว่างประกันเดินทางกับประกันอุบัติเหตุ” โดยทั้งสองประกัน มีรายละเอียดดังนี้
- ประกันเดินทาง (Travel Insurance) เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าเดินทางกลับ เป็นต้น
- ประกันอุบัติเหตุ (Accident Insurance) เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ อาการบาดเจ็บ ภัยธรรมชาติ หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยในบางประกันมีการครอบคลุมถึงอาการเจ็บป่วยด้วย
ซึ่งถ้าใครต้องการประกันที่เพิ่มความอุ่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูง เช่น ทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ทำกิจกรรมเสี่ยงอันตราย เล่นกีฬาผาดโผน หรือท่องเที่ยวในประเทศเสี่ยง เป็นต้น ก็ควรพิจารณาซื้อประกันอุบัติเหตุเพิ่ม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ตัวเอง
ประกันอุบัติเหตุ มีกี่ประเภท
ใครที่สนใจอยากสมัครประกันอุบัติเหตุ ควบคู่ไปกับประกันการเดินทาง สามารถพิจารณาเกี่ยวกับประเภทของประกันประกันอุบัติเหตุ จะช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบ และเลือกประกันภัยที่เหมาะสม ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด โดยประกันอุบัติเหตุ มีประเภทดังนี้
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองแก่บุคคลที่เอาประกันภัยเป็นหลัก
- ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองแก่กลุ่มบุคคล เช่น พนักงานบริษัท นักเรียน นักศึกษา เป็นต้น
- ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ประกันอุบัติเหตุกีฬา เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยที่เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมเสี่ยงอันตราย
ประโยชน์ของการซื้อประกันอุบัติเหตุ
- คุ้มครองอุบัติเหตทุกแบบ : การทำประกันอุบัติเหตุ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ครอบคลุม ประกันอุบัติเหตุมักให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ค่าทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ค่าสูญเสียอวัยวะ ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน ค่าเดินทางกลับในกรณีเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต เป็นต้น
- ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย : ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุอาจมีราคาสูง การมีประกันอุบัติเหตุจะช่วยให้สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้
- เพิ่มความอุ่นใจ : ใครที่เดินทางบ่อย ๆ หากเราซื้อประกันอุบัติเหตุ จะช่วยให้รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเจอกับเหตุการณ์ไหนก็รู้สึกปลอดภัย เพราะมีประกันทั้งสองแบบคอยคุ้มครอง
- ชดเชยการสูญเสียรายได้ : บางประกันมีเงื่อนไขจ่ายค่าชดเชย หรือให้เคลมเงิน เมื่ออยู่ในช่วงรักษาตัว ทำให้คุณไม่สูญเสียรายได้ระหว่างเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ
- ทำประกันภัยอุบัติเหตุได้ทุกช่วงอายุ : รู้ไหม? เราสามารถสมัครประกันภัยอุบัติเหตุ ได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีถึงอายุ 65 ปี เรียกได้ว่าสามารถสมัครได้ตลอดชีพ คุ้มครองนาน
ข้อควรพิจารณา ก่อนซื้อประกันอุบัติเหตุ
เมื่อเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ และรายละเอียดของประกันแต่ละประเภทแล้ว เรามาดูแนวทางการเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุกันบ้าง ซึ่งก่อนจะตัดสินใจซื้อประกันอุบัติเหตุ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- วงเงินความคุ้มครอง ควรเลือกวงเงินความคุ้มครองที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ค่าสูญเสียอวัยวะ เป็นต้น
- ประเภทของอุบัติเหตุ ควรเลือกแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ตามความต้องการ เช่น อุบัติเหตุทั่วไป อุบัติเหตุระหว่างเดินทาง อุบัติเหตุจากการกีฬา เป็นต้น
- เบี้ยประกัน ควรเปรียบเทียบเบี้ยประกันของแต่ละบริษัทเพื่อเลือกซื้อประกันที่คุ้มค่าที่สุด
- เงื่อนไข และข้อยกเว้น ควรอ่าน และทำความเข้าใจเงื่อนไข และข้อยกเว้นของประกันอุบัติเหตุให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ
- ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน ควรเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุจากบริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือ และมีชื่อเสียง
หลังจากการซื้อประกันอุบัติเหตุได้แล้ว หากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เราสามารถเรียกร้องสิทธิ์จากบริษัทประกัน เพื่อได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ จะต้องดำเนินการดังนี้
- แจ้งเหตุอุบัติเหตุให้กับบริษัทประกันโดยเร็วที่สุด
- รวบรวมเอกสารและหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ
- ยื่นเอกสารและหลักฐานต่างๆ ให้กับบริษัทประกันเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์
สรุป มีประกันเดินทางแล้ว ต้องซื้อประกันอุบัติเหตุเพิ่มมั้ย?
จากความแตกต่างระหว่างประกันเดินทางกับประกันอุบัติเหตุ จะเห็นได้ว่าประกันเดินทาง ให้ความคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเท่านั้น ไม่ได้ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทั่วไป ซึ่งถ้าเราต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น จึงควรซื้อประกันอุบัติเหตุเพิ่ม จะช่วยให้เราอุ่นใจทุกครั้งที่ได้เดินทางมากยิ่งขึ้น