ทุกช่วงชีวิต การเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หากแต่เข้าใจ ยอมรับ และพร้อมปรับตัวเข้ากับสภาวะที่เป็นอยู่ ก็ย่อมทำให้การดำเนินชีวิตมีความสุขได้ เฉกเช่นกับครอบครัวที่ สามี หรือ ภรรยา ขาดคู่ชีวิต ไม่ว่าจากสาเหตุใด ( การเลิกรา การหย่าร้าง การสูญเสียชีวิต ) คนที่ยังคงอยู่ ซึ่งเป็น พ่อหรือแม่ นั้น หรือที่เรียกว่า พ่อเลี้ยงเดี่ยว (Single Dad) หรือ แม่เลี้ยงเดี่ยว (Single Mom) ก็ต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง และพร้อมเดินหน้าในการดูแลลูกของตนต่อไป
ประโยคที่ว่า “ เด็กในวันนี้ คือ ผู้ใหญ่ในวันหน้า ” เป็นคำพูดที่น่าคิด หากผู้ปกครองเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน ใส่ใจ ให้ความรัก ความอบอุ่น สร้างการเรียนรู้ความฉลาดทางเชาว์ปัญญา ( IQ : Intelligence Quotient) และ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ : Emotional Quotient) ให้กับเด็กในวันนี้เป็นอย่างดี ก็ย่อมทำให้เด็กเติบโตขึ้น เป็นคนที่มีคุณภาพ และคุณธรรม เป็นคนดีที่สังคมต้องการ ไม่สร้างภาระให้กับครอบครัวและสังคม ส่วนใหญ่การดูแลอบรมสั่งสอนลูก จะเป็นหน้าที่ของผู้หญิง เพราะผู้ชายมีความรับผิดชอบในการทำงานหารายได้เป็นหลัก จึงอาจเป็นภาระที่หนักพอสมควร
หากผู้ชายได้กลายเป็น “พ่อเลี้ยงเดี่ยว (Single Dad)” ก็อาจจะเกิดคำถามว่า พ่อเลี้ยงเดี่ยว ดูแลลูกยังไง ซึ่งสิ่งแรกที่จะต้องทราบก่อนในการดูแลลูก คือ ลูกของตนเองนั้นอยู่ในวัยช่วงอายุใด เพราะแต่ละช่วงอายุ เด็กก็จะมีพฤติกรรมทางร่างกายและอารมณ์แตกต่างกัน ถ้าพ่อเลี้ยงเดี่ยว (Single Dad) เข้าใจลูกในวัยดังกล่าวแล้ว ก็จะทำให้สามารถรับมือ และ ดูแลลูกง่ายยิ่งขึ้น
พฤติกรรมของลูกในแต่ละวัยและการดูแลลูก ควรปฏิบัติ ดังนี้
-
วัยเด็กทารก หรือ วัยแบเบาะ
เด็กในวัยนี้จะเริ่มมีพัฒนาการทางร่างกาย สมอง และอารมณ์ เติบโตอย่างรวดเร็ว มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ทุกสัดส่วน สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของการสัมผัส การกอด การอุ้ม พฤติกรรมของเด็กวัยนี้ จะมีเพียงการแสดงออก ทางร่างกายให้พ่อเลี้ยงเดี่ยว (Single Dad) ได้รู้เท่านั้น
ดังนั้น พ่อเลี้ยงเดี่ยว (Single Dad) ควรใส่ใจ สังเกตลักษณะท่าทางการแสดงออกทางกาย เสียงร้อง และการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่อาจผิดแผกไป เนื่องจากเด็กไม่สามารถบอกความรู้สึกเป็นคำพูดได้ และควรจะสัมผัสกอดอย่างทะนุถนอมให้มากที่สุด เพราะการสัมผัสจะทำให้เด็กอารมณ์ดีแล้ว ยังสามารถเป็นเกราะป้องกันโรคได้ด้วย
-
วัยเด็กเล็ก ช่วงอายุตั้งแต่ 1 ปี จนถึง 5 ปี
เด็กในวัยนี้ช่วงอายุต้น ๆ จะมีการเติบโตทางพัฒนาการทางร่างกาย สมอง และอารมณ์ เพิ่มมากขึ้น สนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว อยากรู้อยากเห็น สามารถจดจำ รูปทรง สีสัน ของสิ่งของ บุคคลได้เป็นอย่างดี จึงเริ่มหยิบจับสิ่งของและพร้อมลองตลอดเวลา เช่น หยิบสิ่งของเข้าปาก การขว้าง การโยน เป็นช่วงวัยที่มีการเคลื่อนไหว การคลาน และ เริ่มหัดเดิน และเมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นซึ่งเป็นช่วงปลาย เด็กจะสามารถรับรู้เหตุและผล แยกแยะสิ่งผิดและถูกได้เพิ่มขึ้น มีความคิดเป็นของตนเอง ทราบความต้องการของตน แต่ยังไม่สามารถควบคุมทางอารมณ์ได้ดีพอ
ดังนั้น พ่อเลี้ยงเดี่ยว (Single Dad) ควรสังเกตพฤติกรรม และ ดูแลอย่างใกล้ชิด และต้องสอนให้รู้จักเหตุและผล ไม่แสดงออกทางอารมณ์ที่รุนแรง หากไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการ วิธีการอาจสร้างเงื่อนไข ให้กับลูก แต่ต้องไม่ใช่เป็นเงื่อนไขที่ส่งเสริมให้กลายเป็นเด็กเอาแต่ใจในอนาคต และต้องสนับสนุนในสิ่งที่เด็กสนใจ และเพิ่มเติม สิ่งเป็นประโยชน์ต่อเด็กต่อไป เพราะพัฒนาการเซลล์สมองจะมีการเติบโตตั้งแต่เด็กจนถึงอายุ 5 ปี
-
วัยเรียน หรือ วัยเด็กประถม ช่วงอายุตั้งแต่ 6 ปี จนถึง 11 ปี
เด็กในวัยนี้จะมีการเรียนรู้ มีความคิด ความเข้าใจ รู้จักเหตุและผลมากขึ้นเรื่อย ๆ มีการควบคุมอารมณ์ที่ดียิ่งขึ้น มีการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างในสังคม รู้จักพฤติกรรมการเลียนแบบ กล้าแสดงออกทาง ความคิด และความรู้สึก
ดังนั้น พ่อเลี้ยงเดี่ยว (Single Dad) ควรแสดงพฤติกรรมทางกาย และ ทางอารมณ์ ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูก และเปิดโอกาสให้เด็กสามารถแสดงความคิดเห็น อย่าปิดกั้นความคิดเด็ก ต้องคอยชี้แนะ แนะนำสิ่งที่ถูกต้อง และตักเตือนสิ่งที่ผิด พร้อมทั้งให้โอกาสแก่ลูกในการเริ่มต้นใหม่ ซึ่งจะทำให้เด็กรู้สึกถึงความรัก ความใส่ใจ และรู้สึกปลอดภัย เพราะมีคนที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เด็กก็จะไม่รู้สึกโดดเดี่ยว รู้สึกขาดที่พึ่ง
-
วัยรุ่น หรือ วัยเด็กมัธยม ช่วงอายุตั้งแต่ 12 ปี จนถึง 17 ปี
เด็กในวัยนี้จะมีโลกส่วนตัวสูง จะมีพฤติกรรมติดเพื่อนเพราะเวลาส่วนใหญ่จะอยู่ที่โรงเรียนและ หลังเลิกเรียนก็มักจะอยู่กับกลุ่มเพื่อนเป็นหลัก หากมีปัญหาไม่ว่าเรื่องใด เด็กมักจะกล้าพูดคุยปรึกษา เพื่อนมากกว่าพ่อแม่ เพราะเด็กจะรู้สึกถึงปฏิกิริยาเชิงลบของพ่อแม่ เพราะหากชีวิตประจำวัน หากทำผิดเรื่องใด เด็กมักจะได้รับการว่ากล่าว ตำหนิ ก่อนเสมอ
ดังนั้น พ่อเลี้ยงเดี่ยว (Single Dad) ควรทำตัวเป็นพ่อและเพื่อนในเวลาเดียวกัน ทำให้ลูกไม่รู้สึกกลัวที่ จะเข้าหาและขอคำปรึกษา และต้องเข้าใจพฤติกรรมในช่วงวัยของลูกอย่างกดดันและบีบบังคับให้เป็นไปตามที่ใจต้องการ ต้องพยายามให้เวลา เน้นการพูดคุย การรับฟัง ให้ความอบอุ่น และโอบกอดสัมผัสให้มาก เด็กในวัยนี้ก็จะไม่ถูกชักจูงไปในทางที่ผิดได้ง่าย
นอกจากการทราบพฤติกรรมและการดูแลลูกในช่วงวัยต่าง ๆ เบื้องต้นแล้ว การสอนและดูแลลูก ในฐานะ พ่อเลี้ยงเดี่ยว (Single Dad) ยังมีวิธีการ ดังนี้
- ให้เวลากับลูก ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เสริมสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว
- ให้อิสระทางความคิด และพร้อมเป็นที่ปรึกษาตลอดเวลา
- ยอมรับ และเข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น และพร้อมสนับสนุน หากสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิด และอย่าตัดสินลูก ตามความคิดตนเอง ควรเปิดใจพร้อมรับฟังและหาทางแก้ไขร่วมกัน
- แสดงออกโดยการโอบกอด แสดงออกทางคำพูด จะช่วยสร้างพลัง และความสุข ลดการขัดแย้ง ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
วิธีการเพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ พ่อเลี้ยงเดี่ยว (Single Dad) สามารถดูแล เลี้ยงดูอบรมลูกได้ด้วยตัวเองโดยไม่ทำให้เด็กรู้สึกขาดหายหรือไม่สมบูรณ์อีกต่อไป แต่หากติดธุระ ไม่มีเวลาให้ลูกจริง ๆ หรือต้องการคำปรึกษา บุคคลที่ควรพึ่งพิงที่สุด ที่สามารถอบรมดูแลลูกของคุณได้ดีไม่แพ้คุณ คือ พ่อและแม่ ของคุณนั่นเอง