“ เล่นหุ้นยังไงให้ได้เงินทุกวัน ” เป็นคำถามยอดฮิตของคนเล่นหุ้นที่หลายต่อหลายคนต่างก็ต้องการคำตอบ อยากทราบว่ามีวิธีการใดที่จะเล่นหุ้นให้ได้เงินทุกวันบ้างหรือไม่ แม้จะมากจะน้อยหากได้เงินทุกวันจากตลาดหุ้น วันละ 500-1,000 บาท เป็นสิ่งที่สามารถทำได้หรือไม่
อย่างที่ทราบกันดีว่า หุ้นเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง โดยความเสี่ยงถือว่าอยู่ในระดับที่สูงพอสมควร เทียบกับเงินฝากธนาคาร สลากออมสิน พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ ฯลฯ ราคาของหุ้นแต่ละตัวในแต่ละวัน มีความผันผวนค่อนข้างมาก ดังนั้นก่อนจะก้าวเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับหุ้นและตลาดหุ้นให้รอบด้าน ไม่ใช่เริ่มลงทุนในหุ้นโดยที่ไม่มีความรู้อะไรเลย ฟังแต่หุ้นเด่นหุ้นแนะนำจากมาร์เก็ตติ้งหรือคนรอบข้าง ไม่ได้มีความรู้ด้วยตัวเองแบบนี้ ถือว่าเสี่ยงมาก เงินลงทุนของคุณอาจสูญโดยที่ไม่รู้ตัว อย่าหวังแต่ว่าจะกำไรเลย
- การลงทุนในหุ้นมีหลายแนวทาง บางคนชอบลงทุนแบบระยะยาว คือ ซื้อแล้วทิ้งไว้นาน ๆ ไม่ต้องสนใจมัน
อาจหวังเงินปันผลจากหุ้นปันผลนั้นด้วยก็ได้ การลงทุนแบบนี้ต้องศึกษาหุ้นตัวที่เราสนใจในเชิงลึกอย่างละเอียด ควรเลือกหุ้นตัวที่ใหญ่พอสมควร มีความมั่นคง ทำธุรกิจประเภทที่ไม่มีความเสี่ยง หากเป็นปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ได้ยิ่งดี คู่แข่งน้อย กำไรจะเยอะหรือน้อยไม่เป็นไร แต่ยอดขายต้องมาก และมีสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน แบบนี้ถือว่าเป็นหุ้นมั่นคง ให้ซื้อหุ้นประเภทนี้ในช่วงที่ราคาต่ำลงมา ทยอยซื้อก็ได้หากเราไม่มั่นใจว่าราคาจะลงอีกหรือไม่ แบ่งซื้อเป็นทีละ 10-20% ของงบที่เราตั้งไว้ แล้วถือทิ้งยาว หากหุ้นไม่มีการเปลี่ยนพื้นฐานที่เป็นสาระสำคัญ ถือยาวก็จะได้กำไรมาก กรณีนี้เงินลงทุนต้องเป็นเงินเย็น หากอยากได้เงินปันผลในระหว่างที่ลงทุนด้วย ก็ให้เลือกหุ้นที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ ก็จะเหมาะกับการลงทุนที่ต้องการเงินปันผลระหว่างทางมาใช้จ่าย แต่หุ้นปันผลราคาอาจจะไม่ได้เติบโตเท่ากับหุ้นดีที่ไม่ได้จ่ายปันผลสูง เพราะเงินปันผลที่ไม่ได้จ่ายออกมา บริษัทฯ จะนำไปใช้ในการพัฒนาบริษัทให้เติบโตต่อไปและจะสะท้อนออกมาที่ราคาหุ้นในระยะยาว
มีนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในการเลือกหุ้นที่ให้ผลตอบแทนให้ระยะยาวได้มากเป็นหลายเท่า ยกตัวอย่าง การลงทุนในหุ้น SCC เมื่อ 31 ปี ที่แล้วซื้อไว้แค่ 100 หุ้น ภายหลังมีการแตกพาร์ (การแตกพาร์ทำให้ราคาต่อหุ้นลดลง จำนวนหุ้นมากขึ้น เงินลงทุนเท่าเดิม) ได้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาหุ้นก็ค่อย ๆ ทะยานขึ้นไปซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและสามารถทำกำไรได้ในระยะยาว จนปัจจุบันไม่นับเงินปันผล เงินลงทุนในหุ้น SCC ก็มีกำไรเป็นหลายร้อยเท่า หากคิดเป็นรายวันที่ลงทุนตลอดมาก็ถือว่าได้เงินทุกวันแน่ ๆ
- กรณีลงทุนในหุ้นปันผล
หากคิดว่าอยากได้เงินจากตลาดหุ้นทุกวัน อยากได้วันละเท่าไหร่ก็สามารถคำนวณได้ เช่น หากอยากได้เงินจากหุ้นวันละ 500 บาท ก็ให้เลือกซื้อหุ้นปันผลที่จ่ายปันผลในอัตราเฉลี่ย 6% ต่อปี โดยลงทุนด้วยเงินต้นประมาณ 3 ล้านบาท อาจเฉลี่ยซื้อหุ้นปันผลหลายตัวก็ได้ เพียงเท่านี้ก็เหมือนกับเราทำเงินจากตลาดหุ้นได้วันละ 500 บาทแล้ว
- อีกแนวทางเป็นแนวทางการเล่นหุ้นในระยะสั้น
ซื้อมาขายไปทำกำไรช่วงสั้น ๆ อาจเป็นรายเดือน หรือบางทีเป็นรายวันก็มี ซื้อเช้าขายบ่าย ซื้อบ่ายขายเช้า แบบนี้ก็มี สำหรับกรณีนี้เราก็ต้องหาหุ้นตัวที่เราสนใจ ให้เวลาในการศึกษาพื้นฐานของหุ้นด้วย และที่สำคัญต้องพิจารณาดูแพทเทิร์นของราคาหุ้นรายวันหรือรายชั่วโมงในช่วงที่ผ่านมาอย่างละเอียด หากเราขยันและโชคดีเราอาจเจอหุ้นบางตัวที่มีแพทเทิร์น เช่น หุ้นบางตัวในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจราคาแผ่วลงช่วงท้ายตลาดตอน 4 โมงเย็น แล้วราคาจะสูงขึ้นในช่วง 15-30 นาทีแรกของการเปิดตลาดในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น หากเราเจอหุ้นลักษณะนี้ เราก็อาจทำกำไรได้ โดยตั้งรับไว้ที่ราคาต่ำในช่วงก่อนปิดตลาด และรีบขายทำกำไรในช่วงเช้า แต่ต้องมีวินัยคือต้องขายภายในไม่เกิน 30 นาที ของช่วงที่ตลาดเปิด แม้กำไรจะไม่มากเท่าที่คาดหวังไว้ อย่ารอเพราะถ้าพ้นช่วงเวลาดังกล่าว ราคาหุ้นอาจแผ่วลงมาก็ได้ ทำให้เราติดหุ้นในที่สุด สำหรับการเล่นหุ้นแบบนี้ต้องมีการตั้งจุดขาดทุนหรือ stop loss ไว้ด้วย อาจเป็นที่ 1-2% ในกรณีที่ราคาหุ้นไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดไว้ ความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นสูงมาก หากเช้ามาราคาไม่สูงขึ้นแต่กลับลงก็ให้ขายทิ้งในขณะที่ขาดทุนยังไม่มาก เพื่อจะได้มีเงินทุนเหลือที่จะไปลงทุนในหุ้นตัวอื่นต่อไป ไม่ต้องติดอยู่ในหุ้นตัวนี้
- บางคนที่เล่นหุ้นรายวันหรือที่เรียกว่า Day trade นั้น
อาจใช้เทคนิคเรื่องกราฟเข้ามาช่วยก็ได้ เพราะเป็นอีกแนวทางของการเล่นหุ้นที่มีหลักการใช้สถิติของตลาดหุ้นและหุ้นรายตัวมาวิเคราะห์เพื่อกำหนดอนาคตราคาที่เป็นไปได้ของหุ้นตัวนั้น ๆ แม้จะไม่ 100% แต่ก็มีคนทำกำไรช่วงสั้น ๆ จากการเล่นหุ้นจากกราฟได้ไม่น้อยเลย โดยเลือกตัวชี้วัดหรืออินดิเคเตอร์ที่เข้าใจง่ายในการเริ่มต้นดู และค่อย ๆ ศึกษาไป โดยเริ่มลงทุนแต่เพียงน้อย ๆ ก่อน หากมีความมั่นใจมากขึ้นก็สามารถลงทุนในจำนวนที่มากขึ้นได้ แต่การซื้อขายหุ้นต้องอย่าลืมเรื่องการจัดงานเงินลงทุน หรือ money management ให้ดี ต้องอย่าปล่อยให้เงินลงทุนจม ปล่อยให้ขาดทุนจนไม่อยากขาย ต้องตั้งจุด stop loss ทุกครั้ง หากการตัดสินใจของเราผิดพลาด ราคาหุ้นไม่ได้เป็นไปในทางที่เราคาดหวังหรือวิเคราะห์ไว้