การศึกษาถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะยกระดับคุณภาพชีวิต ช่วยพัฒนาคนให้มีความรู้ความสามารถ ซึ่งในการพัฒนาประเทศหลายสิบปีที่ผ่านมา หลายนโยบายของรัฐบาลได้ช่วยสร้างโอกาสการเข้าถึงการศึกษาให้กับเยาวชนไทยเป็นจำนวนมาก หนึ่งในโครงการดีที่มีอย่างต่อเนื่อง คือ โครงการเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่มีการพัฒนาโครงการมาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เด็กไทยหลายล้านคนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้มีโอกาสเข้าศึกษา มีทุนการศึกษา จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงของการประกอบอาชีพ หลายต่อหลายรุ่น ซึ่งเมื่อได้รับโอกาสแล้วก็ย่อมต้องคืนโอกาสให้กับน้อง ๆ รุ่นใหม่ แต่ก็ยังมีรุ่นพี่อีกหลายคนที่ค้างจ่ายเงินกู้ กยศ. จะด้วยเหตุผลกลใด หากท่านเป็นหนี้เงินกู้ กยศ. ไม่ต้องท้อ เรามีทางออกมาแนะนำครับ
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาหรือ กยศ. ได้จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2538 และตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2539 ซึ่งเป็นช่วงรัฐบาลภายใต้การบริหารของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เริ่มดำเนินการ จนกระทั่งในปี 2541 ได้มีการออกพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2541 กองทุนนี้จะมีการบริหารงานในรูปแบบของกองทุนหมุนเวียน ถือเป็นก้าวครั้งสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อการศึกษาชาติของรัฐบาล ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษา ยกระดับคุณภาพชีวิต ให้เยาวชนไทยได้เข้าถึงการศึกษาอย่างมีมาตรฐานและเท่าเทียมกัน ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งเป็นองค์กรที่ให้โอกาสทางการศึกษา เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้ยั่งยืน และมีพันธกิจสำคัญในการเป็นสถาบันให้เงินกู้ยืมกับนักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือศึกษาในสาขาที่เป็นความต้องการหลักและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศและการพัฒนาองค์การสู่ความเป็นเลิศด้านการให้บริการโดยใช้หลักบริหารจัดการที่ดี
จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 20 ปี ที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้สร้างฝันกับเด็กไทยนับหมื่นนับแสนชีวิต จนสามารถมีทุนเรียนจนจบการศึกษาหลายต่อหลายรุ่น และเมื่อถึงช่วงเวลาของการทำงาน ก็เป็นเวลาที่รุ่นพี่จะต้องส่งคืนเงินกู้ยืมเพื่อให้โอกาสน้อง ๆ รุ่นต่อไปบ้าง กระนั้นยังมีรุ่นพี่อีกหลายคนที่ยังคงมียอดคงค้างหนี้เงินกู้ กยศ. ซึ่งทางกองทุนไม่ได้นิ่งนอนใจและมีมาตรการติดตามอย่างเป็นระบบ
และหากท่านเองเป็นหนึ่งในผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการเงินกู้ กยศ. และสำเร็จการศึกษาจนกระทั่งมีงานทำแล้ว จะมีหนังสือติดตามเพื่อให้ท่านชำระเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยตามวงเงินที่ท่านได้กู้เอาไว้ ซึ่งในการคำนวณยอดหนี้เงินกู้ กยศ. นั้น มีรูปแบบการคำนวณ โดยสามารถเข้าไปคำนวณยอดหนี้ได้ที่โปรแกรมคำนวณหนี้แบบอัตโนมัติ https://www.studentloan.or.th/calculator.php ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถทราบยอดหนี้ และสามารถบริหารจัดการการชำระหนี้เงินกู้ได้ตามความเหมาะสม ซึ่งทางกองทุนกำหนดให้ผู้มีหนี้ ต้องชำระหนี้ภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี นับตั้งแต่จบการศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ซึ่งการชำระหนี้นั้นจะเป็นแบบลดต้น ลดดอก
ในกรณีที่ท่านค้างชำระหนี้หรือเพิกเฉย ไม่ไปชำระยอดหนี้ตามกำหนด หนี้ของท่านก็จะถูกสะสมและมีดอกเบี้ย ค่าปรับที่เพิ่มสูงขึ้น หากไม่ชำระเงินต้นติดต่อกันสามปี จะมีเบี้ยปรับสูงถึง 18 % เลยทีเดียว ปัจจุบันสถิติของผู้กู้ยืมเงินจากกองทุนเงินกู้ กยศ. มีมากถึง 3 ล้านราย เป็นผู้กู้รายเก่าที่ครบวาระอยู่ระหว่างการชำระหนี้ประมาณ 2 ล้านราย และคงค้างชำระหนี้อีกประมาณ 1 ล้านราย ซึ่งตัวเลขผู้กู้ที่ค้างชำระถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าตกใจ และตามสถิติยังพบอีกว่าอาชีพที่ค้างชำระจ่ายเงินกู้ กยศ.มากที่สุด คือ แพทย์และพยาบาล ซึ่งทางกองทุนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ยังเพิ่มมาตรการในการแจ้งหนี้ไปยังหน่วยงานหรือต้นสังกัดของท่าน เพื่อให้มีการหักยอดหนี้จากเงินเดือน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 26 กรกฎาคม 60 นี้
เรียกได้ว่าในเมื่อเรียกให้มาชำระตามกำหนดไม่ได้ ก็ต้องหักกันในเงินเดือนไปเลย ดังนั้นหากท่านเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นหนี้เงินกู้ กยศ. และมีเหตุผลในการจ่ายชำระล่าช้าหรือไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด ท่านสามารถเจรจาขอผ่อนผันการชำระหนี้กับทางกองทุนได้ หรืออาจจะเลือกการชำระหนี้แบบเป็นรายเดือนหรือรายปี ก็สุดแท้แต่ความพร้อมของท่านที่จะมี สิ่งเหล่านี้ท่านจะต้องวางแผนให้ดี อย่างน้อยกองทุนนี้ก็ช่วยสร้างโอกาสให้กับรุ่นน้องต่อ ๆ ไป เท่ากับท่านได้ช่วยสนับสนุน และต่อยอดโอกาสให้กับเยาวชนรุ่นหลังได้รับเช่นที่ท่านเคยได้รับ และไม่ต้องท้อใจ เพราะ กยศ. เป็นกองทุนเงินให้กู้ยืมแบบดอกเบี้ยต่ำ และมีระบบลดต้นลดดอก เพียงแต่ท่านไม่เพิกเฉยและหมั่นติดตามข่าวสารตลอดเวลา มีความพร้อมท่านก็ไปชำระเงินคืนให้กับแผ่นดิน
อ่านเพิ่มเติม : ลูกหนี้เตรียมตัวให้ดี! กยศ.เตรียมหักบัญชีเงินเดือน เริ่ม 26 ก.ค. นี้