ก้าวผ่านคำว่ากลัวเพื่อ ความสำเร็จในชีวิต

 คนเราทุกคนอยากที่จะประสบ ความสำเร็จในชีวิต ทั้งในด้านการทำธุรกิจและในด้านต่างๆหากแต่คนส่วนใหญ่มักกลัวที่จะก้าวเข้าสู่ความเสี่ยง เว้นแต่คนที่มีความกล้าหรือเอาชนะความกลัวของตนเองได้จึงจะมุ่งเข้าสู่ความเสี่ยงได้อย่างไม่กลัวสิ่งใดแม้ว่าทางข้างหน้าจะต้องเจอกับสิ่งใดก็พร้อมที่จะต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อคนเหล่านี้ส่วนใหญ่จึงมักจะปะสบความสำเร็จในเกือบทุกด้าน บางคนมักจะใช้สถานการณ์ต่างๆรอบตัวทั้งเรื่องการเมืองความไม่พร้อมอีกทั้งเรื่องเศรษฐกิจมาเป็นข้ออ้างเพื่อบดบังความกลัวของตัวเองจนกลายเป็นไม่กล้าที่จะลงทุนทำอะไรซักอย่างเป็นสาเหตุให้คนเหล่านี้มักจะประสบความสำเร็จได้ช้ากว่าคนอื่นหรือไม่ประสบความสำเร็จเลย หากอยากให้ชีวิตของคุณประสบความสำเร็จจึงต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ก่อนต้องกล้าที่จะเสี่ยงแม้ว่าผลมันจะเป็นอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าล้มก็พยายามลุกขึ้นใหม่ให้ได้ความสำเร็จก็จะไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน

    คุณต้องรู้จักมองคนรอบข้างให้ดีว่าทำไมบางคนถึงประสบความสำเร็จในเวลาไม่นานทั้งๆที่พวกเค้าก็เคยยืนอยู่ที่เดียวกันกับคุณ และพยายามค้นหาคำตอบให้แก่ตัวคุณเองให้ได้หากไม่เริ่มต้นลงมือทำอย่างคนอื่นคุณก็จะยืนอยู่ที่เดิมเสมอไม่มีทางที่จะวิ่งไล่ตามคนอื่นทัน เปลี่ยนจากเวลาที่จะมานั่งหาข้ออ้างเพื่อปิดบังความกลัวมาเป็นเวลาแห่งการศึกษาหาข้อมูลและเพิ่มความรู้ความชำนาญให้แก่ตนเองจะมีประโยชน์มากกว่า และเมื่อคุณมีความรู้ความชำนาญมากยิ่งขึ้นก็จะทำให้ท่านกล้าที่จะเสี่ยงมากขึ้นและพร้อมที่จะใช้ความรู้และความสามารถที่คุณสะสมมานำพาให้คุณประสบความสำเร็จได้ ส่วนความรู้ความสามารถที่จะช่วยทำให้คุณมีความชำนาญเพิ่มมากขึ้นในสิ่งที่คุณตั้งใจจะนำมาทำธุรกิจในยุคสมัยที่เทคโนโลยีมีความทันสมัยและกว้างไกลคุณสามารถหาความรู้ได้จากโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างมากมายไม่จำเป็นต้องไปหาความรู้ตามห้องสมุดเหมือนในสมัยก่อนและควรศึกษาแนวทางความสำเร็จของบุคคลตัวอย่างที่มีอยู่มากมายในปัจจุบันที่บางคนสามารถประสบความสำเร็จได้แม้ว่าไม่เคยมีพื้นฐานในการทำธุรกิจหรือไม่ได้มีเงินทุนอะไรมากมายรวมทั้งในบางคนเรียนมาน้อยแต่พวกเค้ามีแนวทางปฏิบัติตัวที่ดีหมั่นเรียนรู้และมีความขยันอดทนไม่ย่อท้อต่อความลำบากและไม่ลังเลที่จะเสี่ยงต่อการลงทุนอีกทั้งยังมีแนวคิดที่แตกต่างจากคนทั่วๆไปพวกเค้าจึงสามารถประสบความสำเร็จได้คนเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ผู้ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองอย่างมากและแนวคิดของพวกเค้ายังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับแนวทางของคุณทุกคนได้อีกด้วย

    อย่างเช่น เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford)ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ Ford ที่มีพื้นฐานการศึกษาที่ไม่สูงแต่มีใจรักในด้านเครื่องยนต์ซึ่งความคิดของเค้ากลับขัดแย้งกับที่บ้านซึ่งเป็นชาวนาและอยากให้ตัวเค้าช่วยทำนาที่บ้านแต่เค้าก็เลือกที่จะเดินตามความฝันของเค้าด้วยการไปทำงานในโรงงานเครื่องจักรตอนที่เค้ามีอายุได้เพียง  16 ปีแต่ทำงานได้ไม่นานก็จำเป็นต้องลาออกเพื่อกลับมาดูแลงานที่บ้านและพ่อของเค้าที่ล้มป่วยการกลับมาอยู่บ้านของเค้าครั้งนี้ทำให้เค้ารู้สึกอยากที่จะทำงานแทนพ่อของเค้าและคิดที่จะอยากประดิษฐ์สิ่งที่จะสามารถช่วยทุ่นแรงของคนเราได้ในการทำนาและก็ได้ประดิษฐ์รถไถนาขึ้นมาใช้แทนวัว และเค้าก็ได้กลับไปทำงานโดยได้ทำในตำแหน่งผู้ช่วยฝึกหัดของวิศวกรแต่ก็ยังคิดค้นที่จะประดิษฐ์รถยนต์ขึ้นมาในรูปแบบของเค้าจนมีผลงานที่เข้าตาและเริ่มสร้างชื่อให้แก่เค้าจนได้กลายเป็นวิศวกรเองและหน้าที่การงานของเค้าก็เหมือนก้าวข้ามกระโดดเมื่อเค้าใช้ความรู้และความสามารถที่สะสมมาจากการทำงานบวกทั้งความชื่นชอบส่วนตัวของเค้าประดิษฐ์รถแข่งที่มีประสิทธิภาพที่ดีจึงมีผู้สนับสนุนและสนใจงานที่เค้าทำเป็นอย่างมากและเค้าจึงเริ่มก่อตั้งบริษัทรถยนต์ฟอร์ดของเค้าขึ้นมาเองและมีผู้เข้าร่วมหุ้นกับเค้ามากมาย แต่เส้นทางของเค้าก็ไม่ได้ราบลื่นเพราะต้องประสบปัญหาต่างๆมากมายทั้งแรงงานไม่เพียงพอต่อการผลิตรถยนต์ที่ออกแบบและจัดจำหน่ายเป็นที่นิยมได้ไม่นานเมื่อเริ่มมีคู่แข่งรถยนต์ก็ตกรุ่นจึงต้องออกแบบรถยนต์แบบใหม่ออกมา อีกทั้งยังเกิดปัญหาภายในเกี่ยวกับเรื่องการบริหารงานแต่เค้าก็สามารถพยุงและแก้ปัญหาทุกอย่างให้ผ่าพ้นไปได้ด้วยดีและส่งมอบบริษัทให้แก่หลานชายของเค้าเป็นผู้บริหารต่อและตกทอดต่อๆกันมาจนถึงปัจจุบัน (myfirstbrain.com)

นับว่าเค้านั้นเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้ทีประสบ ความสำเร็จในการใช้ชีวิต และการทำธุรกิจอีกคนหนึ่งที่เริ่มต้นจากลูกชาวนาธรรมดาที่ไม่ได้มีความรู้มากมายแต่เพราะเลือกที่จะวิ่งไล่ตามความฝันของตนเองและเลือกที่จะทำในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบแต่เมื่อถึงเวลาก็สามารถนำเอางานที่บ้านและความชื่นชอบของเค้ามาผสมเข้ากันจนลงตัวแต่ก็ยังไม่หยุดที่จะเลือกตามความฝันของตนเองจนเป็นที่ยอมรับและสร้างความสำเร็จให้ตนเองจนได้แม้จะต้องล้มและเจออุปสรรคมากมายตัวเค้าก็สามารถผ่านพ้นทุกสิ่งทุกอย่างมาได้และยังสร้างทุกสิ่งทิ้งไว้ให้ลูกหลานได้สืบทอดเจตนาของเค้าได้มาจนถึงปัจจุบัน หากนำความมุ่งมั่นและตั้งใจของเค้ามาปรับใช้กับแนวทางของทุกคนเชื่อได้ว่าทุกคนจะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างเค้าเช่นกัน