“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำรัสแก่ประชาชนชาวไทย โดยเป็นปรัชญาที่ชี้ถึงแนวทางการดำรงอยู่ และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ครอบครัว ระดับชุมชม จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์
ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การออมเงินที่ดี
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 นั้น นอกจากจะสามารถนำมาปรับใช้เพื่อเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต หรือการจัดสรรที่ดินในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมแล้ว ยังสามารถนำมาปรับใช้ในการออมเงินสู่การออมเงินอย่างยั่งยืนได้อีกด้วย
แนวทางการปรับใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการออมเงิน มีดังนี้
-
การจัดทำบัญชีครัวเรือน
การจัดทำบัญชีครัวเรือน เป็นวิธีที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงริเริ่มเพื่อแก้ไขปัญหาเมื่อครั้งที่ประเทศไทยประสบปัญหาเศรษฐกิจ โดยเป็นการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ เพื่อให้ประชาชนสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน
การจัดทำบัญชีครัวเรือนในที่นี้ คือ การจัดทำบัญชีหรือรายรับรายจ่าย รวมถึงการบันทึกข้อมูลด้านอื่นๆ ในชีวิตและครอบครัวที่สามารถจดบันทึกได้ เพื่อนำมาปรับใช้และวางแผนในการดำรงชีวิตในอนาคต เช่น บัญชีทรัพย์สิน, บัญชีพันธุ์พืช, บัญชีพันธุ์ไม้, บัญชีความรู้ ความคิด, บัญชีผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้รู้ในชุมชน, บัญชีเด็กและเยาวชน, บัญชีภูมิปัญญาด้านต่างๆ
โดยการจัดทำบัญชีหรือรายรับรายจ่าย ทั้งประจำวัน และประจำเดือน เป็นวิธีการบริหารเงินอย่างหนึ่งที่จะช่วยประเมินการใช้จ่ายของคุณว่ามีประโยชน์ และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อของที่ไม่จำเป็น และฟุ่มเฟือยได้เป็นอย่างดี ทำให้คุณสามารถนำเงินส่วนดังกล่าวไปเก็บไว้เป็นเงินออม เพื่อใช้ในยามฉุกเฉินได้
-
การออมเงินด้วยความพอเพียง
“การออมเงิน” เป็นวิธีที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้ทรงริเริ่มใช้ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ จึงทำให้พระองค์มีเงินสะสมส่วนพระองค์จนสามารถซื้อรถจักรยาน และกล้องถ่ายรูปได้ด้วยพระองค์ ในขณะที่มีพระชนมพรรษาเพียง 8 พรรษา เท่านั้น ซึ่งการออมเงินให้เกิดผลสำเร็จนั้น นักออมเงินต้องมีวินัย และความตั้งใจอย่างแท้จริงในการออมเงิน
นอกจากนี้นักออมเงินควรยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในขณะออมเงินด้วย คือ การออมเงินแบบพอดีโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต เช่น หากคุณมีรายรับน้อย ก็ควรเริ่มการอดออมด้วยจำนวนเงินที่ไม่มาก และไม่กระทบต่อการใช้จ่ายของคุณ รวมถึงการนำเงินที่ได้จากการอดออมไปใช้จ่ายอย่างมีประโยชน์, ใช้จ่ายในสิ่งของที่จำเป็น และใช้จ่ายให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปให้มากที่สุด
-
ใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด
หลายคนมีความเข้าใจผิดเรื่อง การใช้จ่ายโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อย่างไม่ถูกต้องและไม่ถูกวิธี โดยถือคติเพียงว่า ต้องใช้จ่ายให้ประหยัดมากที่สุด ซึ่งความเป็นจริงแล้ว การใช้จ่ายตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือการใช้จ่ายบนทางสายกลาง คือ การใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าโดยเลือกจากความจำเป็นและคุณภาพของสิ่งของ
ตัวอย่างเช่น การเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แม้สินค้าจะมีราคาจะสูงกว่าสินค้าราคาประหยัด นับเป็นการใช้จ่ายบนเส้นทางสายกลางอย่างชาญฉลาด เพราะคุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับการซื้อสินค้าราคาประหยัดที่ไม่มีคุณภาพ และไม่ทนทานต่อการใช้งาน ซึ่งอาจจะทำให้คุณต้องเสียทั้งเงิน และเวลาในการกลับไปสินค้าเดิมอยู่เป็นประจำ
-
การเลือกใช้งานอย่างคุ้มค่า
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นต้นแบบของการเลือกใช้งานสิ่งของด้วยความพอเพียง ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด ตัวอย่างเช่น การไม่โปรดการใช้ปากการาคาแพง หรือการใช้ดินสอของพระองค์ ที่ทรงใช้จนกว่าดินสอจะสั้นกุด และทรงเบิกดินสอใช้เพียงปีละ 12 แท่งเท่านั้น
ตัวอย่างการใช้งานสิ่งของของพระองค์ นอกจากจะแสดงให้เห็นถึง “ความพอเพียง” แล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงการไม่ยึดติดกับค่านิยม และวัตถุของพระองค์อีกด้วย ซึ่งคุณสามารถนำหลักการและแนวคิดของพระองค์ท่านไปปรับใช้ให้เหมาะสมในการดำรงชีวิตของคุณได้
-
พอเพียงอย่างพอดี
การยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 ในการดำรงชีวิตนั้น ไม่มีหลักการและกฎเกณฑ์ที่ตายตัว เพราะการยึดหลัก “ความพอเพียง” นั้น ต้องเลือกปรับใช้ให้เหมาะสมแก่การดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคล ซึ่งมักมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป
โดยการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้อย่างถูกต้องนั้น จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคุณ เช่น การลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยการขึ้นรถเมล์ แต่ทำให้คุณต้องไปทำงานสาย การกระทำนี้แม้จะถือเป็นความพอเพียง แต่ก็ไม่ใช่ความพอเพียงที่พอดี และไม่ถูกต้องตามจุดประสงค์ของพระองค์ท่าน
“การออมเงิน” โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 นั้น เป็นสิ่งที่นักออมเงินมือใหม่ รวมถึงประชาชนชาวไทยควรนำไปปรับใช้ในการออมเงินเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยให้การออมเงินของคุณประสบความสำเร็จได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยให้การใช้จ่ายด้วยเงินออมเกิดความคุ้มค่า และประโยชน์มากที่สุด