ด้วยรายจ่ายในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ด้วยปริมาณราคาสินค้าต่างๆที่มีอยู่ตามท้องตลาดในทุกวันนี้ที่เรามักจะได้รับทอนเงินเป็นเพียงแบงค์ยี่สิบเพียงใบเดียวหรือสองใบหลังจากที่จ่ายด้วยแบงค์ร้อย แน่นอนว่าราคาสินค้าได้มีการเพิ่มขึ้นอย่างมากเลยล่ะเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน และถึงแม้ว่าในทุกๆวัน เราจะทำงานด้วยค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทหรือทำงานด้วยเงินเดือนขั้นต่ำที่ 15,000 บาท แต่นั่นก็ไม่ได้เพียงพอกับรายจ่ายในแต่ละวันสักเท่าไหร่ ยิ่งถ้าหากว่าเดือนไหนที่เราได้วางแผนว่าจะซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยีที่มีราคาแพงหรือเลือกซื้อรถยนต์ไว้ใช้สักคันนึงแล้ว มั่นใจได้เลยว่าเราคงจะวุ่นกับการเลือกผ่อนดอกเบี้ย 0% หรือผ่อนน้อยๆแต่จ่ายนานๆแน่นอน ฉะนั้นแล้วการหารายได้เสริมให้กับตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากเลยล่ะ
ในส่วนของรายได้เสริม มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่จะพูดว่าหารายได้เสริมมาช่วยลดภาระรายจ่ายของเรา แต่มันเป็นเรื่องที่ยากเมื่อน้อยเมื่อต้องออกไปหารายได้เสริมเหล่านั้นจริงๆ เนื่องด้วยเวลาและความเหนื่อยจากการทำงานหลัก ทำให้เวลาและแรงที่จะเหลือไปทำงานเสริมนั้นก็มีไม่มีสักเท่าไหร่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะดีกว่าหรือเปล่าล่ะถ้าเราเปลี่ยนจากคำว่าหารายได้เสริม มาเป็นคำว่าสร้างรายได้เสริมให้ตัวเอง
อ่านเพิ่มเติม : เกษตรปลอดสารพิษ แนวโน้มอาชีพมาแรง ปี 59
เพาะต้นอ่อนทานตะวัน
เมื่อพูดถึงต้นอ่อนทานตะวัน มั่นใจได้เลยว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยล่ะที่นึกถึงความอร่อยครั้งแรกหลังจากที่ได้ลองลิ้มรสสัมผัสมันและก็มีคนจำนวนอีกไม่น้อยเช่นกันที่สงสัยว่ามันคืออะไร หรืออาจจะเคยได้ยินแว่วๆเกี่ยวกับต้นอ่อนทานตะวันแต่ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นว่ามันเป็นอย่างไร ซึ่งการเพาะต้นอ่อนทานตะวัน สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเราได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ อีกทั้งไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีสินค้าค้างสต๊อกไว้ในตัวเราแน่นอนหลังจากที่เราทำการเพาะเลี้ยงเสร็จ เนื่องจากมันเป็นพืชที่สร้างความอร่อยเป็นอย่างมาก ใครที่ได้ลิ้มลองในครั้งแรกต้องถูกใจแน่นอน แต่ก่อนที่เราจะรู้ปริมาณเงินที่ต้นอ่อนทานตะวันสามารถทำได้ให้กับเรา เรามาทำความรู้จักกับต้นอ่อนทานตะวันกันก่อนดีกว่าว่ามันเป็นอย่างไร
ต้นอ่อนทานตะวันเป็นหนึ่งในพืชที่กำลังเป็นที่นิยมปลูกอยู่ในหลายพื้นที่ในขณะนี้ แต่ด้วยความที่ว่าเป็นพืชที่จะต้องกินสดๆหรือนำมาประกอบอาหารในขณะที่ยังเขียวอยู่ จึงไม่ได้มีการทำส่งออกเพื่อคงความสดของต้นอ่อนทานตะวันไว้เมื่อถึงมือผู้บริโภค ต้นอ่อนทานตะวันมีจุดเด่นคร่าวๆดังนี้
- เป็นหนึ่งในพืชออร์แกนิคที่เรียกได้ว่ามีคุณประโยชน์สูงมากเมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่นในประมาณเท่ากัน
ต้นอ่อนทานตะวันเพียงแค่ครึ่งถ้วย ก็มีสารอาหารที่เพียงพอในหนึ่งวันเลยนะ
- ต้นทุนต่ำ
ในส่วนของต้นทุน เรียกได้ว่าเสียเงินเพียงเล็กน้อยกับการซื้อเมล็ดและดินเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์อื่นสามารถหาได้ภายในบ้านแล้วนำมาประยุกต์ใช้ปลูกต้นอ่อนทานตะวันได้เลย
- เพาะง่าย ใช้เวลาไม่นานในการเพาะ 7-14 วันก็โตแล้ว
ในส่วนของการเพาะ เราไม่จำเป็นที่ต้องเฝ้า นั่งดูมันตลอด ให้ความสนใจรดน้ำเช้า-เย็นก็พอ และที่สำคัญไม่ต้องกังวลว่าจะใช้เวลานาน เนื่องจากต้นทานตะวันเป็นพืชที่โตง่าย อาศัยการดูแลที่ถูกวิธีและคำแนะนำเล็กๆน้อยๆที่หาได้ตามอินเทอร์เน็ต ก็สามารถเพาะต้นอ่อนทานตะวันให้โตได้แล้ว
- ประกอบอาหารได้หลากหลาย
ในทุกๆวัน คนส่วนใหญ่นั้นจำเป็นต้องกินเพื่อที่จะให้ตัวเองได้คลายหิว และแน่นอนว่าเมื่อเหล่าคนที่หิวยืนอยู่หน้าร้านอาหาร พวกเขาก็จะสั่งเมนูอาหารเดิมๆที่ตัวเองชื่นชอบ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเหล่านั้นเห็นเมนูที่ใช้ต้นอ่อนทานตะวันประกอบอาหาร พวกเขาก็พร้อมใจที่จะลองและก็ติดใจมันอย่างแน่นอน
- ขายได้ราคาดี
ในส่วนของรายได้ เรียกได้ว่าทำกำไรได้ดีเลยทีเดียวล่ะ โดยอย่างต่ำนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 4 เท่าของต้นทุน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลและความเอาใจใส่ด้วยนะ แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดทุนหรือไม่เห็นกำไร
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในรายได้เสริมที่ทำเงินได้ดีอย่างมากเลยล่ะ เมล็ดทานตะวัน 1 กิโลกรัมสามารถเพาะเป็นต้นอ่อนทานตะวันได้ถึง 2.5-8 กิโลกรัมขึ้นอยู่กับพันธุ์และการเลี้ยงดู ซึ่งเมล็ดทานตะวัน 1 กิโลกรัมจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 150-250 บาท โดยราคาตามท้องตลาดในตอนนี้ ต้นอ่อนทานตะวันที่ 1 ขีด จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 15-30 บาท และเมื่อคิดเป็น 1 กิโลกรัมแล้ว ก็จะสามารถทำเงินให้เราได้ถึง 150-300 บาทเลยทีเดียว รายได้อาจจะดีกว่าอาชีพหลักด้วยนะ
ในส่วนของการทำตลาดต้นอ่อนทานตะวัน เป็นเรื่องที่ไม่ยากอย่างที่คิดและไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเราไม่มีหัวในด้านการทำตลาดแล้วเราจะทำไม่ได้หรือกังวลว่าเราไม่รู้จักตลาด จะหาแหล่งเจาะตลาดจากไหน เรามีคำแนะนำง่ายๆแต่ทำได้จริงดังนี้
- แบ่งปันคนใกล้ตัวหรือเพื่อนร่วมงาน
ของฟรีใครๆก็ชอบ แน่นอนว่าหลังจากที่เรามีต้นอ่อนทานตะวันจำนวนหนึ่ง การวางแผนลงแผงขายหรือขายให้คนอื่นทันทีเลย นั่นไม่ใช่วิธีที่ดีเท่าไหร่ แต่การแบ่งปันคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้ติดใจต้นอ่อนทานตะวัน จะช่วยให้การทำตลาดของเราง่ายอย่างมากเลยล่ะ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเหล่านั้นติดใจหรือเราได้เสียงตอบรับในเชิงบวก นั่นเป็นสัญญาณที่ดีที่จะเริ่มทำเงินแล้ว อีกทั้งยังมีโอกาสที่เพิ่มๆจะสั่งซื้อต้นอ่อนทานตะวันจากเราด้วยนะ
- เลือกกลุ่มคนที่จะทดลองต้นอ่อนทานตะวัน
หากเรามีต้นอ่อนทานตะวัน 100 ถุง มันคงไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่ที่จะแบ่งปันคนอื่นเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้ทดลองชิมต้นอ่อนทานตะวัน แต่ถ้าหากว่าเรามีเพียง 10 ถุงล่ะ แน่นอนว่าเราต้องเลือกคนที่เราจะให้ลองชิมต้นอ่อนทานตะวันสักหน่อยแล้ว เราควรเลือกคนที่มีแนวโน้มว่าจะสั่งต้นอ่อนทานตะวันของเราเรื่อยๆ อย่างเช่นคนขายข้าวแกง คนขายพืชออร์แกนิค หรืออาจจะเลือกแบ่งปันต้นอ่อนทานตะวันกับคนที่พูดเก่งๆมีหน้ามีตาในชุมชนก็ได้ ซึ่งหลังจากที่พวกเขาเหล่านั้นได้ลิ้มรสต้นอ่อนทานตะวัน เราก็เตรียมตัวรับออเดอร์ได้เลย
ในช่วงแรกๆของการสร้างรายได้เสริมจากต้นอ่อนทานตะวัน มักจะยากเสมอเพราะเป็นการเริ่มต้น แต่ถ้าหากเมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้อดทน ทำต่อไปเรื่อยๆจนเห็นเม็ดเงินแล้ว มั่นใจได้เลยว่าเราจะหายเหนื่อยและรู้สึกคุ้มค่าทันที ฉะนั้นแล้วเมื่อลงมือทำก็ไม่ควรล้มเลิกกลางทางนะ