ผ่อนบ้าน ให้หมดไว ยังไง เปิดเทคนิคคนอยากหมดหนี้ไว
การซื้อบ้าน เป็นสิ่งแรก ๆ ที่มนุษย์เงินเดือนวัยกำลังสร้างตัวตั้งเป้าไว้ แต่เพราะเพิ่งเริ่มต้นทำงานมาได้ไม่นาน อาจจะยังเก็บเงินได้ไม่มากพอ ลำพังจ่ายค่าดาวน์บ้านก็อาจจะหนักแล้ว จากนั้นก็ต้องรับภาระหนี้บ้านกันต่อไปอีกยาว ๆ เป็นทศวรรษเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่หนีไม่ได้เลยทีเดียว แถมยังจัดการให้หมดไปได้ยากอีกต่างหาก ถ้าไม่มีเงินก้อนจำนวนมาก ซึ่งต้องวางแผนการเงินให้ดี ดังนั้นการขอสินเชื่อบ้าน และการรีไฟแนนซ์บ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ในวันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปดูเทคนิคผ่อนบ้าน ให้หมดไว ยังไง เปิดเทคนิคคนอยากหมดหนี้ไว มาแนะนำให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน ไปชมพร้อมกันได้เลย
เปิดเทคนิค ผ่อนบ้าน ให้หมดไว ยังไง
ผ่อนบ้าน ให้หมดไว ยังไงเป็นคำถามที่เมื่อผ่อนบ้านมาสักพักหนึ่งหลายคนจะต้องสงสัยอย่างแน่นอน ในช่วงแรกเชื่อว่าเพื่อนๆ คงวางแผนมาดีแล้วว่าพร้อมที่จะแบกรับหนี้ก้อนใหม่ที่ผ่อนกันยาวนับ 10 ปี แต่เมื่อผ่อนไปสักพักนึงเราก็จะรู้สึกขึ้นมาเองว่าเจ้าเงินก้อนนี้ที่เสียไปแต่ละเดือน มันทำให้เราเสียอิสรภาพทางการเงินไปไม่น้อยเลย เราเลยจะพาทุกคนไปดูกันว่ามีวิธีการไหนบ้างที่จะช่วยให้เราสามารถปิดหนี้บ้านได้อย่างรวดเร็วทันใจมากขึ้นกว่าเดิมกัน
-
ผ่อนให้เกินค่างวด
เป็นวิธีการที่เราจะแนะนำในช่วงหลังจากหมดโปรโมชั่นดอกเบี้ยคงที่เรียบร้อยแล้ว ในช่วงแรกที่ยังเป็นดอกเบี้ยคงที่อยู่ ใครอยากจะผ่อนเกินค่างวดก็สามารถทำได้ แต่เราจะแนะนำวิธีการโปะเงินก้อนมากกว่า เพราะช่วงนี้จะจ่ายมาก หรือน้อย ดอกเบี้ยก็ยังคงที่เหมือนเดิม แต่เมื่อเราผ่อนไปสักพักนึง และหันมาใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวเรียบร้อยแล้ว เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสุดๆ สำหรับการผ่อนให้เกินค่างวด เพราะการคำนวณอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้จะคิดแบบลดต้นลดดอก ยิ่งผ่อนเกินค่างวดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งปิดหนี้ไว้ แถมช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก
ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการผ่อนให้เกินค่างวดมากที่สุด ก็คือช่วงที่ดอกเบี้ยกำลังมีการปรับตัวลดลง สิ่งสำคัญก็คือ เราต้องคอยติดตามข่าวสารเกี่ยวกับดอกเบี้ยตลอด ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยมีการประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเมื่อไหร่ เป็นการปรับขึ้น หรือปรับลง ถ้าเราจ่ายโปะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ ก็จะยิ่งช่วยให้เราประหยัดดอกเบี้ยได้มากขึ้นไปด้วยเหมือนกัน ถ้าต้องการให้วิธีนี้ได้ผลจริงจัง เราต้องผ่อนเกินค่างวดเป็นประจำทุกงวด ถ้าทำเฉพาะบางเดือน หรือในเดือนที่มีเงินมากเป็นพิเศษ มันก็อาจจะไม่ได้ช่วยให้เราปิดหนี้ไวขึ้นกว่าเดิมสักเท่าไหร่
-
เก็บเงินก้อนโปะหนี้
เป็นวิธีการที่เราอยากจะให้ทุกคนที่อยากปิดหนี้ไว้ทำเป็นประจำทุกปี ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินก้อนใหญ่ถึงขนาดนั้น สมมุติว่าถ้าเราเก็บเงินได้ก้อนนึงทั้งปี จำนวน 100,000 บาท เราสามารถแบ่งออกมาโปะหนี้ตั้งแต่ 40% ไปจนถึง 70% ได้ตามความต้องการ แต่ทางที่ดีก็ควรให้มันเกินหลักหมื่นเอาไว้สักหน่อย เพราะถ้าเอาเงินก้อนหลักพันไปโปะหนี้ ก็คงไม่ได้ช่วยให้เราปิดหนี้ไว้มากขึ้นกว่าเดิมถึงขนาดนั้นเหมือนกัน
แต่เราก็ไม่แนะนำการโปะหนี้แบบทีเดียวจบในช่วงแรกของการผ่อนเหมือนกัน เพราะเดี๋ยวนี้ธนาคารส่วนใหญ่จะมีการทำสัญญาว่าถ้าลูกหนี้เอาเงินก้อนมาปิดหนี้ก่อนระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ จะต้องมีการเสียค่าปรับ เป็นจำนวนเงินที่ฟังดูเปอร์เซ็นต์น้อย แต่เมื่อคำนวณกับเงินต้นที่เหลืออยู่แล้ว บางทีก็อาจเป็นจำนวนเงินที่ทำให้เราช็อกได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องเก็บเงินให้ปิดหนี้บ้านได้ทั้งหมดในทีเดียว ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปทีละนิด แปบเดียวหนี้บ้านก็หมดแบบที่เราไม่ทันรู้ตัวแล้ว แถมยังไม่ทำให้เราเครียดเกินไปอีกด้วย
-
รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารอื่น
เป็นวิธีการที่อาจจะไม่ได้ช่วยให้ปิดหนี้บ้านรวดเร็วทันใจถึงขนาดนั้น แต่มันจะช่วยให้เราสามารถปรับการผ่อนชำระหนี้ได้ตามความต้องการมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังช่วยลดภาระดอกเบี้ยอีกต่างหาก หลังจากที่เราหมดระยะเวลาสัญญาของธนาคารเก่าเรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือประมาณ 3-5 ปี เราสามารถปิดหนี้ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียม
วิธีการคือให้ทุกคนไปหาธนาคารแห่งใหม่ที่มีโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านดีๆ มาพร้อมกับดอกเบี้ยที่ช่วยให้เราประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม จากนั้นก็ทำการขอสินเชื่อกับธนาคารแห่งใหม่ เมื่อได้เงินมาแล้วก็นำเอาไปชำระคืนให้กับธนาคารแห่งแรก หลังจากนั้นก็ให้เราผ่อนชำระหนี้คืนกับธนาคารแห่งใหม่ตามเงื่อนไขใหม่ที่กำหนดไว้ ข้อดีของมันอย่างแรกเลยก็คือเราเลือกได้ว่าจะกู้เงินเป็นจำนวนเท่าไหร่ สมมุติว่าเงินต้นหนี้สินของบ้านเราเหลืออยู่ที่ 1 ล้านบาท เราสามารถเลือกได้ว่าจะกู้ 1 ล้านบาท หรือกู้เต็มวงเงินประเมินของบ้านเรา 2.5 ล้านบาท แล้วเอาเงิน 1.5 ล้านบาทที่เป็นส่วนเกินไปใช้จ่าย หรือลงทุนตามความต้องการ
ต่อมาก็คือดอกเบี้ยจะประหยัดขึ้นกว่าเดิม ต่อให้เป็นดอกเบี้ยลอยตัวก็ยังถูกกว่าดอกเบี้ยบ้านของธนาคารแห่งแรกอยู่ดี และเราสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะผ่อนชำระนานแค่ไหน ถ้าผ่อนเร็ว ค่างวดเยอะก็ปิดหนี้ไว ถ้าอยากผ่อนสบาย ค่างวดต่ำ ก็อาจจะปิดหนี้ได้ช้าลงกว่าเดิม แต่ก็ช่วยลดภาระค่าผ่อนบ้านในแต่ละเดือนด้วยเหมือนกัน
-
รีเทนชันบ้าน กับธนาคารเดิม
มีหลายคนที่รู้สึกว่าการรีไฟแนนซ์ค่อนข้างยุ่งยาก เพราะเราต้องทำทุกอย่างใหม่หมดแทบจะเหมือนกับตอนกู้ซื้อบ้านครั้งแรกกันเลยทีเดียว เอกสารก็ต้องใช้ของใหม่ ต้องไปติดต่อเจรจากับธนาคารทั้งเก่า และใหม่ให้วุ่นวาย เราจึงอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับวิธีการรีเทนชัน วิธีที่จะช่วยแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยที่เราไม่จำเป็นต้องย้ายธนาคาร
รีเทนชันเป็นศัพท์ที่อาจฟังดูยุ่งยาก และน่าปวดหัว แต่ความเป็นจริงแล้ว อธิบายให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนก็คือ การที่เราเข้าไปติดต่อเจรจากับทางธนาคารเพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เราสามารถไปพูดคุยกับธนาคารผู้ปล่อยเงินกู้ก้อนแรกให้กับเราได้เลย หลังจากครบเวลาตามอัตราดอกเบี้ยคงที่ในสัญญาแล้ว เพื่อนๆ ก็สามารถวางแผนได้เลยว่าจะเข้าไปคุยกับธนาคารเมื่อไหร่ ข้อดีก็คือเราไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารใหม่ทั้งหมด เพียงแค่เตรียมเอกสารสำคัญอย่างทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน หรือสัญญาเงินกู้ จากนั้นก็เข้าไปติดต่อสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ในธนาคารว่าเราสามารถขอลดอัตราดอกเบี้ยได้หรือไม่
-
หยุดสร้างหนี้สินเพิ่ม
การจะปิดหนี้บ้านให้ได้ สิ่งสำคัญก็คือต้องมีวินัยทางการเงิน ไม่อย่างนั้นเราก็คงเก็บเงินไม่ได้ ยิ่งเราสร้างหนี้สินเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้เราปิดหนี้บ้านยากขึ้นเท่านั้น เพราะการจะปิดหนี้ก้อนใหญ่ให้สำเร็จต้องอาศัยการเก็บเงิน ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนเกินจำนวนค่างวด หรือแม้แต่การโปะหนี้เป็นเงินก้อนในแต่ละปีก็ตาม
เพราะฉะนั้น ถ้าใครอยากจะทำอะไร อยากจะซื้ออะไร ขอแนะนำว่าให้จัดการให้เสร็จก่อนซื้อบ้านไว้จะดีกว่า เพราะหลังจากที่ซื้อบ้านเรียบร้อยแล้ว การสร้างหนี้เพิ่มดูเหมือนจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสักเท่าไหร่ นอกจากมันอาจจะทำให้เราปิดหนี้ได้ไม่เร็วพอ มันยังอาจทำให้เราเกิดปัญหาการเงินตามมาได้อีกด้วย
สรุปแล้ว ผ่อนบ้าน ให้หมดไว ยังไง สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการมีวินัยทางการเงิน หนี้ก้อนโตจะเคลียร์จบได้ก็ต่อเมื่อเราเป็นคนที่มีวินัยทางการเงิน วางแผนการเงิน และวางแผนการชำระหนี้อย่างเคร่งครัด หรือจะเลือกใช้เครื่องมืออย่างการรีไฟแนนซ์ หรือการรีเทนชันก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้เรายังควรมีเงินเก็บเอาไว้อีกด้วย เพราะอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ยิ่งเราชำระเงินมากขึ้นเท่าไหร่ ดอกเบี้ยก็จะยิ่งเบาลงเท่านั้น แถมยังช่วยให้ปิดหนี้ไวมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย