เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะเคยเจอะเจอปัญหาที่ทำให้รู้สึกรำคาญใจ โดยเฉพาะเวลาที่มีคนโทรมาเสนอสินเชื่อ ประกัน หรือประกันภัย ซึ่งบางคนอาจจะกำลังอยู่ในช่วงอารมณ์หงุดหงิด ถูกหวยกินบ้าง ลูกเปิดเทอมบ้าง ทะเลาะกับแฟนบ้าง ทำให้ส่วนใหญ่มักจะมีวิธีการตอบกลับแบบที่ฟังแล้วไม่น่ารื่นรมย์นัก บางคนก็ตอบดี ๆ ว่าไม่สนใจ เสร็จแล้วก็วางหู ส่วนบางคนตอบแบบคำพูดยอดฮิตที่ส่วนใหญ่มักจะได้ผล แม้ฝ่ายพนักงานจะทราบว่าไม่เป็นความจริง แต่ก็ต้องจำใจวางอย่างเสียไม่ได้ อย่างคำว่าตกงาน หรือไม่ได้ใช้เบอร์นี้แล้ว หรือติดเครดิตบูโร หรือบางคนแค่เห็นเบอร์แปลก ๆ โชว์ก็อาจจะบล็อคเบอร์ทิ้งไปเลยก็มี แต่กระนั้นหน้าที่ก็ยังคงเป็นหน้าที่ของพนักงานที่จะต้องหาลูกค้าอยู่วันยังค่ำ ต่อให้คุณบลอคเบอร์โทร หรืออ้างคำตอบสารพัด ยังไงก็จะมีคนโทรมาอยู่ดี เคยสงสัยไหมว่าเขาเอาเบอร์เรามาจากไหน และเราจะมีวิธีรับมืออย่างไรดีนะ
1.ทำไมพนักงานธนาคารหรือคนขายประกันจึงได้มีโทรศัพท์ของคุณ
หลายคนที่เคยสงสัยกันว่า ไม่ได้เคยไปยุ่งเกี่ยวหรือทำธุรกรรมการเงินที่ธนาคารไหนเลย แต่ทำไมถึงได้มีพนักงานโทรมาหาที่มือถือได้นะ ไม่ต้องเดาให้ยากเลย เพราะตามธนาคารส่วนใหญ่จะหาขอมูลมาจากเว็บสมัครงาน ซึ่งจะมีธนาคารต่าง ๆ หรือบริษัทประกันแต่ละแห่ง มักจะเข้ามาทำการขอซื้อรายชื่อฐานข้อมูลทั้งหมดในเว็บ ด้วยเงินจำนวนที่สูง นอกจากนี้ยังมีพนักงานจากทางธนาคารที่สามารถทราบข้อมูลของคุณ โดยเฉพาะเบอร์โทรฯ ที่ส่วนใหญ่เวลาคุณไปกรอกเอกสารมาก มาย ไม่ว่าจะเป็นสมัครบัตรเครดิต เปิดบัญชี ขอสินเชื่อ ซึ่งมีข้อความอยู่ในรายละเอียดของการสมัครว่ายินยอมให้ทางธนาคารเปิดเผยข้อมูลของ คล้ายๆ กับทำให้เหมือนคุณยินยอมให้ทางธนาคารเอาข้อมูลไปเผยแพร่ คือถ้าเผยแพร่ในธนาคารเดียวกันก็ยังพอไหว แต่หากเอาข้อมูลไปให้กับพวกพันธมิตร อย่างประกันภัย หรือธนาคารอื่น อาจทำให้รู้สึกโหดร้ายได้
2.ทำอย่างไรดีที่จะป้องกันไม่ให้มีเบอร์โทรมาให้รำคาญใจ
หลายคนที่มักจะเจอธนาคาร โทรมาชักชวนให้ทำบัตรเครดิต หรือเจ้าหน้าที่จากประกันชีวิต โทรมาให้ทำประกันในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งอาจจะทำให้คุณรำคาญใจ และสงสัยว่าพวกเขาเหล่านั้นเอาเบอร์มาจากไหน และหากโทรมาบ่อย ๆ จะจัดการอย่างไรดีนะ หลายคนเคยใช้วิธีนี้คือ หากมีพนักงานดังกล่าวโทรมาก็ให้บอกว่าไม่สนใจ และให้ลองถามต่อไปว่าเอาเบอร์คุณมาจากไหน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะได้รับคำตอบว่ามาจากการตลาด ซึ่งมีคนใช้วิธีพูดย้อนกลับคือ ขอคุยกับเจ้าหน้าที่การตลาดท่านนั้นหน่อย จะได้สอบถามว่าเอาเบอร์คุณมาจากไหน เชื่อเถอะว่าคงไม่มีใครกล้าให้เบอร์แน่นอ เพราะพวกทีมการตลาด ส่วนใหญ่กลัวโดนลูกค้าด่า ให้ลองถามต่อว่าเอาเบอร์มาจากแบงค์ไหน ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าเอามาจากแบงค์พันธมิตรทั่วประเทศ ซึ่งหากมันมาจากแบงค์ที่คุณเคยไปทำธุรกรรมด้วย ก็ควรจะจัดการที่ต้นตอน่าจะดี
3.วิธีจัดการต้นตอตัวส่งข้อมูลหรือเบอร์โทรศัพท์
เอารายชื่อแบงค์ ที่คุณเคยติดต่อด้วยมาทั้งหมด หรือชื่อบริษัทบัตรเครดิตต่าง ๆ อาจรวมถึงเซ็นทรัลการ์ด หรือเมมเบอร์การ์ เวลาที่คุณสมัคร จากนั้นก็ไล่โรทั้งหมดทั้งหมด พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ขอยกเลิกการเผยแพร่ข้อมูลของคุณรวมถึงการโทรมานำเสนอขายสินค้าและบริการทั้งหมด เจ้าหน้าที่อาจจะถามว่า รวมถึงสินค้าและบริการของแบงค์ ก็แล้วแต่สะดวกเพราะหลักๆที่ ที่ต้องการก็คือการยกเลิกให้เบอร์คุณกับบริษัทอื่นทันที เชื่อได้ว่าหลังจากเสร็จเรื่อง ก็อาจจะไม่มีบริษัทไหนโทรมานำเสนอสินชื่อและบริการ อีก ถึงแม้จะมีแต่ก็น้อยลงไปแน่นอน และเพื่อป้องกันปัญหานี้ตั้งแต่เริ่มต้น ตอนไปทำธุรกรรม ให้คุณแจ้งกับเจ้าหน้าที่ธนาคารนั้นเลยว่าไม่ต้องการให้เผยแพร์ข้อมูลส่วนตัวกับที่อื่น อาจให้คุณเขียนลงในเอกสาร หรือบางทีก็จะมีช่องให้กรอก หลังจากนั้นข้อมูลของเราตรงนี้ก็จะไม่ไปอยู่ในรายการที่โทรมานำเสนอสินค้า หรือบริการอีกต่อไป
4. วิธีรับมือกับการขายประกันทางโทรศัพท์แบบง่ายๆ
หลายคนอาจไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการทำประกันชีวิต หรือ ประกันอุบัติเหตุ ซึ่งหากจะว่าไปอาจจะน่าเป็นสิ่งที่ควรทำด้วยซ้ำ แต่ปัญหาคือการขายทางโทรศัพท์ คุณอาจมีเวลาในการตัดสินใจน้อยมาก และก็มีความเสี่ยงที่จะถูกหลอกหรืออาจจะเจอมิจฉาชีพ และอีกปัญหาหนึ่งคือ จะต้องเสียเวลานานมากในการรับฟังข้อมูลหรือข้อเสนอ ที่พนักงานขายประกันจะพยายามตื๊อให้คุณรับฟัง และ ตื๊อให้คุณทำบัตรเครดิตหรือประกันให้ได้ โดยมีเวลาในการตัดสินใจน้อยมากลองใช้วิธีนี้ลองดู
- หากมีคนโทรมาและไม่ได้มีรายชื่ออยู่ในคอนแทค ลิสต์ โดยเฉพาะเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย 02 หรือ พวกไพรเวท นัมแบอร์ หาก รับสายให้ฟังแค่ให้พอรู้ว่าโทรมาหาเพื่ออะไรซึ่งอาจจะมีประโยคประมาณว่า มีโปรแกรมพิเศษที่เป็นโปรแกรมออมเงิน หรือ สิทธิพิเศษที่คุณจะได้รับผลตอบแทนมากมายมานำเสนอ เท่านั้นแหละที่จะทำให้คุณรู้ได้เลยว่าขายประกัน ให้ตอบไปว่าไม่สะดวกคุย เพราะกำลังติดประชุม หรือ ขับรถอยู่ ซึ่งวิธีนี้หากเขาทราบว่าเรากำลังเลี่ยง ก็อาจจะก็เลิกติดต่อเอง แต่หากไปเจอพนักงานใหม่ๆ ที่ไม่ทราบว่าคุณพูดเพื่อเป็นการปฏิเสธ อาจมีการโทรกลับมาอีกรอบ
- ลองเสิร์ทเบอร์โทรดังกล่าวดูในกูเกิ้ล เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเบอร์ขายประกันหรือไม่
- ให้เซฟเบอร์นั้นไว้ในโทรศัพท์ จะได้ทราบว่าเป็นเบอร์ที่โทรมาขายประกัน ครั้งต่อไปจะได้ไม่ต้องรับ หรือหากโทรมาอีกครั้งก็ไม่ต้องรับ และปิดเสียงไว้ หรือไม่ก็บลอคเบอร์ไปเลยก็ได้
เพียงแค่นี้ก็จะทำให้คุณได้ปฏิเสธ การโทรมาของพนักงานดังกล่าว ได้แบบชิลๆ โดยที่ไม่ต้องมานั่งรำคาญใจหรือเสียเวลาอีกต่อไป