ได้มีการประมาณการออกมาแล้วว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจ ไทยในปี 2558 นั้นอยู่ที่ร้อยละ 3.0 ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2557 อยู่ที่ร้อยละ 0.7 โดยมีเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ขยายคือการท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลให้ภาคของการท่องเที่ยวเติบโตขึ้นมากที่สุด โดยสังเกตจากการเพิ่มสาขาของโรงแรมและภัตตาคารที่มีชื่อเสียง การคมนาคมที่ขยายการให้บริการ นอกจากนี้ยังมีนโยบายต่าง ๆ ของรัฐที่ต้องมีการเร่งเบิกจ่ายเงินเพื่อการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของประเทศอย่างเร่งด่วน และการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคเอกชน แต่ในส่วนของด้านบริโภคนั้นเอกชนมีการฟื้นตัวจากปีก่อน เพราะได้รับประโยชน์จากการที่ราคาน้ำมันลดต่ำลงและสภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น และยังมีโครงการสนับสนุนจากทางภาครัฐจึงทำให้เศรษฐกิจโดยรวมในปี 2558 นั้นมีการขยายตัวเพิ่มมานิดหน่อย ทั้งนี้การอ่อนค่าเงินลงของทางยุโรป และเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้าก็มีผลกระทบในด้านของการส่งออกสินค้าและบริการของไทยที่ลดต่ำลงไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยในปี 2558 นั้นยังถือว่าดีอยู่ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2558 ก็มีทิศทางที่ปรับตัวลงมาอยู่ที่ร้อยละ -0.6 จากปัจจัยด้านอุปทานเป็นหลัก โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง ประกอบกับแรงกดดันในด้านของอุปสงค์เองก็ลดลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ส่วนในเรื่องของการค้าภายนอกนั้นก็ก็มีการคาดการณ์ว่าเกินดุลเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เนื่องจากปัญหาของการส่งออกที่กลับมีการนำเข้ามากกว่าภาคการส่งออกซึ่งก็ไปสอดคล้องกับการลดราคาของสินค้าส่งออกและนำเข้าในหลาย ๆ ชนิด และเกินดุลไปอยู่ที่ร้อยละ 5.1 ของ GDP
ทั้งนี้ในภาคของการเกษตรก็ถือว่ายังซบเซา ภาคครัวเรือนเองก็ลดการใช้จ่ายลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งก็มาจากเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแรงลง แต่แนวโน้มของตัวเศรษฐกิจภายในประเทศโดยรวมไม่น่าเป็นห่วง เพราะในเรื่องของการเมืองก็ยังมีเสถียรภาพที่ดีอยู่ พร้อมทั้งคณะรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็มีมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่เรื่อย ๆ อย่างชัดเจน และที่สำคัญคือในภาคการท่องเที่ยวของไทยนั้นถือว่ายังดีอยู่มาก และยังมีแนวโน้มขยายตัวสูงต่อไปยังปี 2559 อีกด้วย ในส่วนของนโยบายการลงทุนและการเงิน ก็มีการอนุมัติให้มีดอกเบี้ยที่ต่ำลงอยู่ที่ 1.50% ก็มีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เช่นกัน แต่ในภาคของการส่งออกจะน่าเป็นห่วงที่สุดเพราะจะมีการหดตัวของการส่งออกถึง 4% และการนำเข้าลดลง 8.1% เนื่องมากจากการซบเซาของเศรษฐกิจในแถบยุโรป จึงทำให้เรื่องของการส่งออกเป็นไปอย่างยากลำบาก ทั้งเรื่องของการผ่านมาตรฐาน และตัวสินค้าก็ทำให้พลอยมีปัญหาไปด้วย
ส่วนในปี 2559 นั้นได้มีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตได้ถึง 5.3% ส่งผลให้ไทยยังมีการเกินดุลอยู่ที่ 7,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการคาดการณ์การเติบโตของภาคการส่งออกในปี 2559 นั้นมาจากสถานการณ์เรื่องข่าวของการส่งออกในปีนี้ ประกอบกับการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการฟื้นตัวมากขึ้นกว่าปี 2558 ส่วนในเรื่องอัตราเงินเฟ้อของปีหน้าก็ได้มีการคาดการณ์ว่าจะสามารถที่จะกลับมาเป็นบวกได้ โดยจะมีการขยายตัวถึง 1.4% ในขณะที่อัตราการแลกเปลี่ยนนั้นจะอยู่ที่ 36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือก็อาจจะอยู่ในกรอบ 35-37 บาทเท่านั้น เงินเฟ้อในปี 2559 ก็จะไม่สูงมากนัก เนื่องด้วยราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับเรื่องของเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ระดับเงินเฟ้อจึงน่าจะอยู่ที่ 1.4% เท่านั้นและถือว่าไม่สูงมากอีกด้วย
ในปี 2558 นี้ได้มีการให้ความรู้และเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ AEC กันอย่างแพร่หลาย จึงเกิดเป็นการสนับสนุนจากภาครัฐในด้านต่าง ๆ เรื่องของ โดยเฉพาะในด้านของการท่องเที่ยว ที่มีการลดค่าวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวจีน จึงทำให้มีคนจากจีนมาเที่ยวในประเทศไทยกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจที่ดีอีกแบบหนึ่ง เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มที่ดีจึงไม่พ้นการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AEC ที่เป็นแรงจูงใจใหม่ ๆ ในการนำพาเศรษฐกิจไปในทิศทางที่ดี เช่น
-
ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เป็นที่รู้กันดีกว่าการท่องเที่ยวมีการขยายตัวที่ดีและธุรกิจด้านการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร, สปา,การบริการรถเช่า จองห้องพัก, บริษัททัวร์ต่าง ๆ หรือแม้แต่กิจกรรมที่สนุกสนานตามชายหาดก็สามารถทำเงินได้อย่างมากมาย จึงต้องยกให้ธุรกิจด้านนี้เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูงสุด
-
ธุรกิจบันเทิง โดยเฉพาะตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อต่าง ๆ เพราะงานด้านนี้มีการขยายตัวที่มากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเติบโตไปกับการท่องเที่ยวอีกด้วย
-
กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เช่น การผลิตยางจากยางพารา, การผลิตพลังงานทางเลือกต่าง ๆ และการผลิตหรือพัฒนาสิ่งที่หมดประโยชน์ให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง หรือก็คือการรีไซเคิล เป็นต้น
-
ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีทั้ง 3 และ 4G ออกมาให้บริการผู้ใช่มือถือและสัญญาณอินเตอร์เน็ตกันอย่างมากมาย ทำให้เกิดเป็นธุรกิจที่น่าสนใจอย่าง กลุ่มผู้ทำเคเบิ้ลและทีวีดาวเทียมที่นำเสนอความแปลกใหม่ได้มากกว่าช่องเดิม ๆ หรือจะเป็นกลุ่มที่มาใหม่และแรงขึ้นเรื่อย ๆ อย่าง การพัฒนาแอพพลิเคชั่น, การเป็นผู้ผลิต Digital Content และคอมพิวเตอร์กราฟิก เป็นต้น
-
กลุ่มธุรกิจยานยนต์ ที่มักจะมาแรงในทุก ๆ ปีอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มไปไนทางใด แต่ยอดการสั่งจองรถในงานใหญ่กลับมีมากขึ้นในทุกปี ๆ เช่นกัน
ถ้าจะดูว่าเศรษฐกิจเรามีแนวโน้มไปทางด้านไหนก็สามารถสังเกตข่าวต่าง ๆ ได้ เช่น การขึ้นและลงของราคาทองคำในแต่ละวัน ที่ช่วงนี้จะมีอัตราการขายทองที่มีราคาถูกลง เนื่องมาจากเรื่องของน้ำมันในประเทศที่ราคาลดต่ำลงมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว จึงทำให้ราคาทองเริ่มที่จะลดลงไปด้วย แต่ก็ยังมีการผันผวนและแกว่งตัวอยู่ตลอด หรือการเข้าซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่ในช่วงนี้มีการซื้อขายต่อวันที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อกลางปี จึงทำให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะดีขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ อีกด้วย