เป็นที่ทราบกันดีว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังมีนโยบายนำพาประเทศไปสู่โมเดล “Thailand 4.0” ให้เกิดขึ้นในอีกไม่เกิน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นนโยบายมุ่งเน้นให้ประเทศขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ นับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมด้วยประโยชน์จากเทคโนโลยี และเมื่อก้าวเข้าสู่ยุคดังกล่าว แน่นอนว่า ทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรมย่อมต้องมีการแข่งขันอย่างดุเดือด และต่างต้องงัดกลยุทธ์เด็ดเพื่อทำให้องค์กรอยู่รอดได้ด้วยนวัตกรรม
Thailand 4.0 คืออะไร
หลายคนคงอาจสงสัยว่า Thailand 4.0 คืออะไร แล้วเราผ่าน Thailand 1.0-3.0 มาตอนไหน และจะต้องเตรียมรับมืออย่างไรในอนาคตเมื่อประเทศไทยก้าวสู่ Thailand 4.0 อย่างเต็มตัว
ในความเป็นจริงแล้ว Thailand 1.0-4.0 ก็คือ โมเดลในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่รัฐบาลได้วางนโยบายไว้ แต่ต่างกันที่กลุ่มการลงทุนหลักในแต่ละยุคว่า จะให้ความสนใจและส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมใดเป็นสำคัญ อย่างโมเดลเศรษฐกิจ Thailand 1.0 รัฐบาลจะมุ่งเน้นการลงทุนภาคเกษตรกรรม เช่น การเลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช ทำไร่ทำสวน ส่วนการส่งออกเน้นสินค้าจำพวกไม้สัก และดีบุก
เมื่อเข้าสู่โมเดล Thailand 2.0 รัฐบาลจะมุ่งเน้นอุตสาหกรรมเบา และให้ความสำคัญกับแรงงาน ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมในยุคนั้น เช่น เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ เป็นต้น
ส่วนยุค Thailand 3.0 ซึ่งเป็นยุคปัจจุบันจะเน้นไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรมหนักและการส่งออก มีการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ แผงวงจรไฟฟ้าที่ซับซ้อนด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และเริ่มมีการลงทุนของนักธุรกิจไทยมากขึ้น พร้อมกับขยับขยายธุรกิจไปลงทุนในต่างประเทศอีกด้วย
ครีเอทีฟ…ความท้าทายทุกธุรกิจในยุค Thailand 4.0
เพราะนวัตกรรมจะเป็นตัวผลักดันให้เศรษฐกิจในโมเดล “Thailand 4.0” ก้าวล้ำนำหน้าได้อย่างยั่งยืน ความคิดสร้างสรรค์หรือการใส่ความเป็นครีเอทีฟในสินค้า และบริการที่ทำอยู่จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ทุกธุรกิจจึงต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และวิธีคิดเสียใหม่ เปลี่ยนจากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่สินค้าเชิงนวัตกรรม เปลี่ยนการขับเคลื่อนประเทศจากภาคอุตสาหกรรมไปสู่ภาคเทคโนโลยีและนวัตกรรม และเปลี่ยนจากการเน้นภาคการผลิตสินค้าไปสู่ภาคบริการมากขึ้น ซึ่งยูเนสโกได้ทำการสำรวจและสรุปเป็นรายงานเมื่อเดือนธันวาคม 2558 โดยระบุผลข้อมูลไว้ว่า อุตสาหกรรมสร้างสรรค์และวัฒนธรรมทั่วโลกมีรายรับทั้งสิ้น 22.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 80 ล้านล้านบาท และมีการจ้างงานมากถึง 29.5 ล้านคน ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ยืนยันได้ว่า ความคิดสร้างสรรค์หรือครีเอทีฟ เป็นสิ่งสำคัญในอนาคตที่จะช่วยให้ธุรกิจยั่งยืนและสร้างเศรษฐกิจโลกอย่างแท้จริง
สำหรับประเทศไทยแล้ว อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่สร้างทั้งชื่อเสียง และสร้างมูลค่าให้ประเทศสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมแฟชั่น อุตสาหกรรมการออกแบบ และอุตสาหกรรมแพร่ภาพกระจายเสียง โดยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจถึง 1.66 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 13.18% ของจีดีพี ซึ่งมีมูลค่ารวม 12.14 ล้านล้านบาท นับเป็นนิมิตรหมายและตัวอย่างที่ดีที่จะทำให้ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ตื่นตัว พร้อมผลักดันให้ตัวเองเติบโตด้วยนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ในอนาคต
เตรียมพร้อม มุ่งมั่น ต่อยอด…ทางรอดของธุรกิจ
หลายธุรกิจอาจเกิดความวิตกกังวลว่า เมื่อเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 แล้ว จะสามารถนำพาธุรกิจไปสู่ทางรอดได้หรือไม่ ในประเด็นดังกล่าวนี้ ทางภาครัฐและหน่วยงานที่รับผิดชอบต่างตระหนักและเตรียมพร้อมเพื่อให้ทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ห้างร้าน หรือ SMEs ต่างๆ ให้สามารถก้าวเดินร่วมกันได้อย่างราบรื่น โดยที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องให้ความร่วมมือ เริ่มจากเปิดใจเรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆ แล้วนำประโยชน์มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจของตน หมั่นศึกษาข้อมูลความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ รู้จักปรับใช้เชื่อมโยงให้เหมาะสม กล้าคิด กล้าสร้างสรรค์ อ่านเกมธุรกิจให้ขาด เรียนรู้ เติมความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาสินค้า หรือบริการของตัวเองให้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง และหาพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องร่วมกัน เพียงเท่านี้ ธุรกิจคุณก็สามารถอยู่รอดได้อย่างราบรื่นในยุค Thailand 4.0 อย่างแน่นอน
…เพราะคนที่พร้อมกว่าก็ย่อมก้าวไปข้างหน้าได้เร็วกว่านั่นเอง…
ที่มา
- http://thaiembdc.org/th/2016/12/29/รู้จักกับ-thailand-4-0-แบบเข้าใจง่/
- http://www.bltbangkok.com/News/ความคิดสร้างสรรค์คันเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย