รีไฟแนนซ์บ้าน แบบไหนดีสุด ลดดอก ผ่อนสบาย ได้บ้านไว
เชื่อว่าหลายคนคงฝันที่จะมีความฝันว่าอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามบ้านนั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่แถมยังมีราคาแพง ด้วยเหตุนี้คนส่วนใหญ่จึงซื้อบ้านด้วยการผ่อนระยะยาว สูงสุดกว่า 30 ปี
แม้ว่าตอนที่เรายื่นกู้ สินเชื่อบ้าน เราจะเลือกสินเชื่อที่ตอบโจทย์เรามากที่สุดไม่ว่าจะเป็นค่างวด หรือดอกเบี้ยก็ตาม แต่เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งเราก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนสินเชื่อดังกล่าวให้เราผ่อนได้สบายมากขึ้นกว่าเดิมนั่นก็คือการรีไฟแนนซ์นั่นเอง แต่ความจริงแล้วมันยังมีวิธีการอื่นที่ช่วยเราสามารถผ่อนสบายได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าการรีไฟแนนซ์บ้านแบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด
รีไฟแนนซ์บ้าน แบบไหนดีสุด
หลังจากที่เราผ่อนชำระค่าบ้านมาเป็นระยะเวลา 3 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายคนก็เริ่มมองหาวิธีการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อที่เราจะได้ผ่อนสบายมากขึ้นกว่าเดิมแถมยังดอกเบี้ยลดลงอีกด้วย แต่คำถามต่อมาก็คือรีไฟแนนซ์บ้านแบบไหนดีสุด ซึ่งการรีไฟแนนซ์จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทประกอบไปด้วย “การรีไฟแนนซ์” ซึ่งเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่หลายคนคุ้นเคยกันดี กับ “การรีเทนชั่น” ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมที่ปัจจุบันหลายธนาคารได้ประชาสัมพันธ์โครงการนี้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ละวิธีเป็นอย่างไรและมีข้อดีข้อเสียอย่างไรไปดูกัน
ทำความรู้จักกับการรีไฟแนนซ์ และข้อดี-ข้อเสีย
เวลาที่เรากู้สินเชื่อบ้านหรือที่อยู่อาศัย หลังจากผ่อนชำระครบ 3 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วอัตราดอกเบี้ยก็จะมีการขยับขึ้นกลายเป็นอัตราลอยตัว ทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นสูงกว่าเดิม ดังนั้นหากเราเลือกสินเชื่อที่มีการผ่อนชำระเป็นอัตราขั้นบันได คือยิ่งปีสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องผ่อนชำระรายงวดมากขึ้นเท่านั้น ก็จะทำให้เราต้องผ่อนชำระเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าเดิม การรีไฟแนนซ์จะช่วยให้เรานั้นสามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้ โดยเรานั้นจะไปผ่อนชำระกับธนาคารใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยน้อยลงและช่วยให้ค่างวดในการผ่อนบ้านรายเดือนลดลงกว่าเดิม
แต่ละสถาบันการเงินก็จะมีโปรโมชั่นการรีไฟแนนซ์ที่แตกต่างกันออกไป เราสามารถเลือกได้ตามเงื่อนไขที่เรารู้สึกพึงพอใจ วิธีการดังกล่าวนั้นจะช่วยให้เรามีสภาพคล่องทางการเงินในแต่ละเดือนมากขึ้นกว่าเดิม หรือเราอาจจะได้รับวงเงินเพิ่มเติมเอาไว้สำหรับการใช้ซ่อมแซมหรือตกแต่งที่อยู่อาศัยก็ได้เช่นเดียวกัน ในระยะยาวจะมีความยืดหยุ่นในส่วนของระยะเวลาการผ่อนชำระมากขึ้น อย่างเช่นหากเราเงินเดือนขึ้นก็สามารถชำระเงินในแต่ละงวดได้มากขึ้นกว่าเดิมและช่วยให้ระยะเวลาในการกู้สั้นลง
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน
- อัตราดอกเบี้ยน้อยลง
- ค่างวดในแต่ละเดือนน้อยลง
- สามารถรับวงเงินเพิ่มสำหรับการใช้จ่ายซ่อมแซมหรือตกแต่งที่อยู่อาศัย
- มีความยืดอยู่ในการผ่อนชำระมากขึ้น สามารถผ่อนชำระรายงวดมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้ระยะเวลาการเป็นหนี้น้อยลงได้
- ได้รับสิทธิพิเศษอื่นเพิ่มเติมตามที่สถาบันทางการเงินระบุเงื่อนไข อย่างเช่นดอกเบี้ยถูกลง สามารถกู้เพิ่มได้
- ได้ข้อมูลอัตราดอกเบี้ยของแต่ละสถาบันทางการเงินที่ช่วยให้เราเปรียบเทียบและเลือกแบบที่ตอบโจทย์ได้อย่างถูกต้อง
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของการรีไฟแนนซ์บ้าน
- ต้องเตรียมการทำเอกสารยื่นขอสินเชื่อใหม่ทั้งหมด
- ใช้ระยะเวลาในการอนุมัตินานเทียบเท่ากับการยื่นขอสินเชื่อใหม่
- มีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่า โดยจะมีค่าธรรมเนียมในการทำสินเชื่อสัญญาใหม่ตั้งแต่ 0% ถึง 3% มีค่าธรรมเนียมการจำนอง 1% ค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักประกันตั้งแต่ 0.25% ถึง 2% ต้องทำประกันอัคคีภัยโดยวงเงินจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทต่อบ้านราคา 100 บาท และค่าธรรมเนียมอากรแสตมป์ 0.05% จากวงเงินกู้
ทำความรู้จักกับการรีเทนชั่น และข้อดี-ข้อเสีย
การรีเทนชั่นนั้นหากจะพูดให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนก็คือการรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม ผู้กู้จะต้องไปเจรจาต่อรองเพื่อขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมที่เราขอสินเชื่ออยู่ ธนาคารจะมีการตรวจสอบประวัติการผ่อนชำระของเราประกอบด้วย หากเรามีประวัติการผ่อนชำระดีก็จะมีโอกาสได้ปรับลดดอกเบี้ยมากขึ้นกว่าเดิม แต่หากติดเครดิตบูโรหรือมีประวัติค้างชำระหนี้ก็อาจจะส่งผลต่อการพิจารณาด้วยเช่นเดียวกัน
ข้อดีของการทำรีเทนชั่นบ้าน
- ไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารใหม่ เนื่องจากเป็นการขอปรับลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม ดังนั้นจึงสามารถใช้เอกสารเดิมในการยื่นขอสินเชื่อได้
- การพิจารณาอนุมัติค่อนข้างรวดเร็ว
- ค่าธรรมเนียมถูก โดยจะอยู่ที่ประมาณ 1% ถึง 2% จากยอดเงินกู้เดิมหรือยอดเงินที่คงเหลืออยู่แล้วแต่ธนาคารกำหนด
- มีความสะดวกสบายและมีโอกาสได้ผลมากกว่าการรีไฟแนนซ์หากประวัติการชำระหนี้ดี
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของการทำรีเทนชั่นบ้าน
- อาจไม่ได้รับการพิจารณาเนื่องจากเป็นการที่เราเข้าไปต่อรองเจรจากับทางธนาคารเดิมโดยตรง ยกเว้นเสียแต่ว่าธนาคารจะมีโครงการรีเทนชั่นที่โปรโมทให้ลูกหนี้หันมารีเทนชั่นกับธนาคารตนเองมากกว่าไปรีไฟแนนซ์กับธนาคารอื่น
- ดอกเบี้ยตัวใหม่ที่ได้ปรับลดนั้นอาจจะยังคงสูงกว่าการรีไฟแนนซ์กับธนาคารอื่น
- หากเราไม่ได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดอกเบี้ยก็อาจจะไม่มีข้อมูลสำหรับการเปรียบเทียบเพื่อให้เราสามารถเลือกได้อย่างตอบโจทย์มากขึ้นกว่าเดิม
สรุปแล้ว รีไฟแนนซ์บ้านแบบไหนดีสุด เป็นคำถามที่คำตอบขึ้นอยู่กับว่าเราสะดวกแบบไหนและแบบไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด การรีไฟแนนซ์ก็เปรียบเสมือนกับการโอนหนี้จากธนาคารหนึ่งไปธนาคารหนึ่งโดยที่เรานั้นได้รับผลประโยชน์จากดอกเบี้ยที่น้อยลงกว่าเดิม แต่ก็ตามมาพร้อมกับขั้นตอนที่ยุ่งยากและค่าธรรมเนียมที่มากขึ้นเช่นเดียวกัน ในขณะที่การรีเทนชั่นอาจจะไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก แต่ถึงอย่างนั้นผลประโยชน์ที่เราจะได้รับก็จะน้อยกว่าการรีไฟแนนซ์ก็ได้ ดังนั้น เราจึงต้องศึกษาข้อมูลดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารให้ดีก่อนตัดสินใจ