อยากมีบ้าน ต้องรู้! ธนาคารมีเกณฑ์การอนุมัติ สินเชื่อบ้าน อย่างไร?
คนอยากมีบ้าน ถึงเวลาต้องการขอสินเชื่อ สำหรับหลายคนที่กำลังมองหาสินเชื่อบ้าน แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้อง เตรียมตัวอย่างไรบ้าง หรือกำลังกังวลว่าจะผ่านการอนุมัติไหม? ดังนั้น ก่อนยื่นขอ สินเชื่อบ้าน มาดูกันว่า ทางธนาคารใช้เกณฑ์อะไรบ้างในการพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อที่คุณต้องรู้ เพื่อการเตรียมตัวให้พร้อมมากที่สุดก่อนยื่นขอสินเชื่อบ้าน
ธนาคารใช้เกณฑ์พิจารณาการอนุมัติ สินเชื่อบ้าน อย่างไรบ้าง?
ก่อนที่คุณจะยื่นขอสินเชื่อบ้านกับทางธนาคาร หากคุณมีความพร้อม และเข้าใจว่าธนาคารจะใช้เกณฑ์ อะไร ในการพิจารณาให้ผู้ขอสินเชื่อผ่านการอนุมัติสินเชื่อบ้าน มาดูกันเลย
-
ความสามารถในการชำระหนี้คืน
ตามหลักทั่วไปแล้ว สำหรับการขอสินเชื่อ ทางธนาคารจะพิจารณาถึงความสามารถของผู้ขอสินเชื่อว่ามีความสามารถในการชำระหนี้คืนได้ไหม ซึ่งปกติธนาคารจะใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาการอนุมัติสินเชื่อจากภาระหนี้สินของผู้ขอสินเชื่อต้องมีไม่เกิน 40% ของรายได้ หากผู้ขอสินเชื่อนั้นมีภาระหนี้บ้านเพิ่มขึ้นอีก ก็ยังสามารถชำระหนี้ได้ไม่ให้กลายเป็นหนี้เสียในอนาคต
- หลักทรัพย์ค้ำประกัน
สำหรับการใช้เกณฑ์ในการพิจารณาข้อนี้ ทางธนาคารจะพิจารณาจากความเหมาะสมของหลักทรัพย์ ค้ำประกัน และมูลค่าของหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันนั้น ตัวอย่างหลักทรัพย์ที่นิยมนำมาค้ำประกัน ได้แก่ ใช้ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ต่าง ๆ หรือใช้ เงินฝากเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ได้ สำหรับมูลค่าของหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันนั้นจะต้องมีมูลค่าที่สูงกว่าวงเงินกู้ประมาณ 70-85 % ของราคาซื้อขาย หรือมูลค่าของหลักทรัพค้ำประกัน ทางธนาคารจะ คำนึงถึงความเสี่ยงในการอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ขอสินเชื่อเพื่อให้ลดความเสี่ยงน้อยที่สุด
-
คุณสมบัติอื่น ๆ ที่จำเป็น
ข้อนี้ถือเป็นหลักเกณฑ์ทั่วไปในการขอสินเชื่อ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคารกำหนด ทางธนาคาร จะพิจารณาจากรายได้ของผู้ขอสินเชื่อ และผู้กู้ร่วมเป็นหลัก ดูจากอาชีพ และความมั่นคงของรายได้ด้วย สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัครสินเชื่อต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้สูงสุด 40 ปี ทั้งนี้เมื่อนำอายุของผู้สมัครรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระหนี้แล้วจะต้องไม่เกิน 70 ปี หรือ 75 ปี (แล้วแต่กรณี) นอกจากนั้นธนาคารยังพิจารณาจากคุณสมบัติอื่น ๆ ประกอบด้วย ได้แก่ คุณสมบัติผู้ขอกู้ เช่น สถานภาพ, การศึกษา, อาชีพ ฯลฯ เป็นต้น
เหตุผลสำคัญที่ผู้ขอสินเชื่อบางส่วนไม่ผ่านการอนุมัติ
มาดูกันว่า ธนาคารใช้เหตุผลสำคัญอะไรบ้าง? ในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อบ้าน ไม่ผ่านการ อนุมัติสินเชื่อ ดังนี้
-
มีรายได้ที่ไม่แน่นอน
ข้อนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้ขอสินเชื่อไม่ผ่านการอนุมัติ เพราะหากผู้ขอสินเชื่อมีรายได้ที่ไม่แน่นอน หรือประกอบอาชีพที่ไม่มั่นคง เช่น อาชีพอิสระที่มีรายได้ที่ไม่แน่นอน หรือไม่สม่ำเสมอ ดังนั้น ผู้ขอสินเชื่อ ต้องแสดงให่เห็นถึงรายได้อย่างสม่ำเสมอ เช่น ผู้ขอสินเชื่อต้องมีเงินเข้าบัญชีเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 6 เดือน เป็นต้น เพราะข้อนี้ ทางธนาคารจะใช้พิจารณาจากรายได้ หรือรายรับที่เข้าบัญชีเป็น ประจำ และต่อเนื่องเป็นการแสดงให้เห็นภึงรายการเดินบัญชีย้อนหลัง เพื่อใช้เป็นเอกสารยื่นขอสินเชื่อ
-
มีภาระหนี้สินเกิน 40% ของรายได้
ทางธนาคารจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อตามความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งพิจารณาจากภาระหนี้สินของผู้ขอสินเชื่อต้องไม่เกิน 40% ของรายได้ เพื่อให้ผู้ขอสินเชื่อสามารถผ่อนชำระหนี้บ้านได้ใน ระยะยาว และเพื่อลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ หรือผิดสัญญาสินเชื่อบ้านนั่นเอง
-
ติดแบล็คลิสต์ เครดิตบูโร
การมีประวัติการค้างชำระหนี้ หรือติดแบล็คลิสต์ หากมีประวัติเครดิตบูโรย่อมแสดงให้เห็นถึงการขาด วินัยในการชำระหนี้ที่ดี ซึ่งส่งผลให้ทางธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ยากมากขึ้น จากประวัติการ ชำระหนี้ที่ผ่านมาของผู้ขอสินเชื่อ แนะนำว่า ทางที่ดีคือการจัดการชำระหนี้ทั้งหมดให้หมดก่อน เพื่อไม่มี ประวัติค้างชำระ หรือล้างประวัติเครดิตบูโรซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 3 ปี และที่สำคัญต้องไม่สร้างหนี้เพิ่มขึ้นอีก
เมื่อได้รู้ถึงหลักเกณฑ์สำคัญที่ธนาคารใช้พิจารณาการอนุมัติสินเชื่อบ้าน และเหตุผลสำคัญที่ธนาคารจะไม่ อนุมัติสินเชื่อ ดังนั้น ควรเตรียมความพร้อมก่อนยื่นขอสินเชื่อบ้าน เพื่อให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อได้ง่าย และ รวดเร็วขึ้น เราหวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์ และช่วยให้คุณเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดก่อนยื่นขอสินเชื่อ บ้านให้ได้รับการอนุมัติผ่านฉลุย