มือใหม่เริ่มลงทุนอะไรดี ระหว่างลงทุน หุ้น vs คริปโต vs กองทุนรวม
การลงทุน อาจดูเป็นเรื่องยากสำหรับผู้เริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีตัวเลือกการลงทุนหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้วยหุ้น สกุลเงินดิจิทัล และกองทุนรวม โดยทั้งหมดล้วนเป็นช่องทางการลงทุนที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่ก็มีความเสี่ยง และผลตอบแทนที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้ เราจะพูดถึงข้อดี-ข้อเสียการลงทุนแต่ละประเภท และแบบใดเหมาะสำหรับ มือใหม่ เริ่มลงทุนอะไรดี หุ้น vs คริปโต vs กองทุนรวม ช่วยคุณตัดสินใจว่าการลงทุนแบบไหนตอบโจทย์มากที่สุด นอกจากนี้เรายังจะมีคำแนะนำดี ๆ สำหรับผู้เริ่มต้น ให้คุณได้อ่านในที่เดียว
เทรนด์การลงทุน 2023 มีอะไรน่าสนใจ?
เทรนด์การลงทุนในปี 2023 มีภาวะเศรษฐกิจที่ต่างจากปีก่อน สืบเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยต่ำ และการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI จึงทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ปัจจัยนี้เองที่ทำให้ผู้คนตระหนักถึงความจำเป็นในการรักษาความมั่งคั่งของตัวเองมากขึ้น
เมื่อเกิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง เริ่มได้รับความสนใจจากนักลงทุนหน้าใหม่มากขึ้น หลายคนจึงหันไปลงทุนกับแพลตฟอร์มการลงทุนออนไลน์ ที่มอบข้อเสนอมากมาย โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะลงทุนในกองทุนรวม ตราสารหนี้ ตลาดโลกหรือตลาดภายในประเทศ ลงทุนในทองคำ หุ้น หรือแม้แต่ลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)
การลงทุน (Investment) มีกี่ประเภท?
มีการลงทุนหลายประเภทในปี 2566 ซึ่งแต่ละประเภทมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่แตกต่างกัน โดยประเภทการลงทุนที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก มีดังนี้
- หุ้น : หุ้นแสดงถึงความเป็นเจ้าของในบริษัท และสามารถซื้อและขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นสามารถให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็อาจมีความผันผวนและมีความเสี่ยงได้เช่นกัน
- พันธบัตร : พันธบัตรคือเงินกู้ที่ออกโดยรัฐบาลหรือองค์กร พันธบัตรมีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าเช่นกัน
- กองทุนรวม : กองทุนรวมคือตะกร้าหุ้นหรือพันธบัตรที่จัดการโดยผู้จัดการการลงทุนมืออาชีพ กองทุนรวมมีการกระจายความเสี่ยง ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยง และการจัดการแบบมืออาชีพ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและความพยายาม
- อสังหาริมทรัพย์ : อสังหาริมทรัพย์สามารถเป็นวิธีที่ดีในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว แต่ก็อาจมีสภาพคล่องต่ำและมีความเสี่ยงเช่นกัน
- คริปโทเคอร์เรนซี หรือ สกุลเงินดิจิทัล : ถือเป็นการลงทุนในรูปแบบของสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เราสามารถลงทุนในแพลตฟอร์มการลงทุนที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง โดยจะมีสกุลเงินดิจิทัลมากมายให้เราเลือกลงทุน นอกจากนี้ เรายังสามารถทำการซื้อ-ขายได้บนแพลตฟอร์มเลย
คำแนะนำสำหรับการลงทุนในปี 2023
สิ่งสำคัญในการลงทุน ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะการลงทุนเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มพูนความมั่งคั่งและบรรลุเป้าหมายทางการเงิน เหมาะสำหรับระยะยาวและระยะสั้น ซึ่งก่อนลงทุน เราควรทำความเข้าใจกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการลงทุนทุกประเภทล้วนมีความผันผวนที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ เราควรหมั่นติดตามความเคลื่อนไหวและกระจายการลงทุนในพอร์ต อย่าลงทุนในพอร์ตเดียวกัน เพราะจะทำให้โอกาสในการขาดทุนเพิ่มสูงขึ้นได้
ข้อดี-ข้อเสียของ หุ้น vs คริปโต vs กองทุนรวม
หลังจากที่เรารู้จักกับเทรนด์และเคล็ดลับในการลงทุนสำหรับปี 2023 แล้ว ทีนี้เรามาดูข้อดี-ข้อเสียของการลงทุนสำหรับประเภทการลงทุนยอดฮิตกันบ้าง สำหรับ มือใหม่ เริ่มลงทุนอะไรดี ลงทุน หุ้น vs คริปโต vs กองทุนรวม วันนี้เรารวบจุดเด่นและจุดด้อยของการลงทุนแต่ละแบบ ให้ได้ดูกัน
การลงทุนด้วยหุ้น (Stock)
ข้อดี :
- ให้ผลตอบแทนสูง: หุ้นมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนสูงในระยะยาว ตลาดหุ้นมีประสิทธิภาพเหนือกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เช่น พันธบัตรและเงินสดในระยะยาว เป็นต้น
- เงินปันผล: หลายบริษัทจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้นักลงทุนได้
- การเติบโต: หุ้นสามารถเพิ่มมูลค่าได้เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างความมั่งคั่งได้
- สภาพคล่อง: หุ้นมีสภาพคล่องค่อนข้างมาก หมายความว่าเราสามารถขายหุ้นในพอร์ตได้อย่างง่ายดาย หากต้องการเงินสดหรือเงินสำหรับใช้ในช่วงฉุกเฉิน
จุดด้อย :
- ความเสี่ยง: หุ้นมีความเสี่ยงมากกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น เช่น พันธบัตรและเงินสด ตลาดหุ้นสามารถผันผวนได้ นอกจากนี้เราสามารถขาดทุน หากเลือกขายหุ้นเมื่อตลาดตกต่ำ
- ค่าใช้จ่าย: มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในหุ้น เช่น ค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียม
- ภาษี: คุณอาจต้องจ่ายภาษีสำหรับกำไรจากการลงทุนในหุ้น ขึ้นอยู่กับกลุ่มภาษีของคุณ
- ความมุ่งมั่นด้านเวลา: ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการลงทุนในหุ้น ใช้เวลาในการศึกษา เนื่องจากเราจะต้องค้นคว้าข้อมูลบริษัทและดูผลประกอบการ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหุ้นกับบริษัทนั้น
การลงทุนด้วยกองทุนรวม (Fund Investment)
ข้อดี :
- การกระจายความเสี่ยง: กองทุนสามารถช่วยลดความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่
- การจัดการอย่างมืออาชีพ: กองทุนได้รับการจัดการโดยผู้จัดการการลงทุนมืออาชีพ ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการตัดสินใจลงทุนที่เหมาะสม
- ต้นทุนต่ำ: กองทุนอาจเป็นวิธีที่คุ้มค่าในการลงทุน เนื่องจากค่าธรรมเนียมการจัดการมักจะต่ำกว่าค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บสำหรับการลงทุนแต่ละรายการ
- ความสะดวกสบาย: กองทุนอาจเป็นวิธีที่สะดวกในการลงทุน เนื่องจากเราสามารถซื้อและขายผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ โดยหลายแพลตฟอร์มและธนาคารเปิดให้บริการ
จุดด้อย :
- ความไม่คล่องตัว: กองทุนบางประเภท เช่น กองทุนปิด ถือเป็นกองทุนที่ไม่มีสภาพคล่อง ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการขายกองทุนอย่างรวดเร็ว หรือต้องการเข้าถึงเงินในช่วงนั้น
- ความผันผวนสูง: มูลค่าของกองทุนมีความผันผวนสูง โดยเราอาจสูญเสียเงินได้ หากตัดสินใจขายหุ้นเมื่อตลาดตกต่ำ
- ภาษี: เราอาจจะต้องจ่ายภาษีสำหรับกำไรจากการลงทุนในกองทุน ขึ้นอยู่กับกลุ่มภาษีและประเภทของกองทุนที่คุณลงทุน
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ : โดยทั่วไปแล้วกองทุนจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการซึ่งสามารถลดมูลค่าของผลตอบแทนในพอร์ตของเราได้
การลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)
ข้อดี :
- ทุกสกุลเงินมีความเท่าเทียมกัน: เนื่องจาก Cryptocurrency ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลหรือสถาบันการเงิน ทำให้มูลค่าเพิ่มสูงขึ้นรวดเร็วและเป็นการลดทอนอำนาจทางสกุลเงิน ทำให้เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อหรือสกุลเงินแข็งตัว จะไม่ได้รับผลกระทบ
- ความโปร่งใส : การทำธุรกรรม Cryptocurrency ทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ใน blockchain จึงทำให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถเข้ามาตรวจสอบ ป้องกันการถูกโกงได้
- ความปลอดภัย: สกุลเงินดิจิทัลได้รับการรักษาความปลอดภัย โดยมีระบบให้เข้าใช้งานผ่านรหัสและมี Authorized จึงทำให้ยากต่อการปลอมแปลงหรือแฮ็คได้
- ค่าธรรมเนียมต่ำ : ธุรกรรม Cryptocurrency มักมีค่าธรรมเนียมต่ำ เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ
- ธุรกรรมที่รวดเร็ว: ธุรกรรม Cryptocurrency สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน ช่วยให้เราสามารถแลกซื้อ-ขายเหรียญได้ทุกวัน โดยไม่ต้องรอนาน
จุดด้อย :
- ความผันผวน: ราคาของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนมาก ขึ้นอยู่กับทิศทางตลาด ข่าวสารและความน่าเชื่อของผู้สร้างเหรียญ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ
- การฉ้อโกง: บ่อยครั้งที่เราสามารถพบเห็นข่าวการฉ้อโกงและการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล เราจึงควรศึกษาบริษัทและประวัติของผู้สร้างเหรียญให้มั่นใจ รวมถึงไม่ควรลงทุนในเหรียญเดียว แต่ควรกระจายการลงทุนประเภทอื่นด้วย
- ภาษี: เนื่องจาก Cryptocurrency ยังไม่ได้รับการรับและควบคุมราคาเหรียญอย่างกว้างขวาง จึงทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิธีการเก็บภาษี
ทั้งนี้การจะเริ่มลงทุนอะไรสักอย่างนั้น ก็ควรต้องศึกษาในแต่ละประเภทให้เข้าใจดีก่อน รวมถึงพิจารณาไลฟ์สไตล์ และการเงินของตนว่าเหมาะกับรูปแบบใดมากที่สุด เพื่อลดปัญหาที่จะตามมา รวมถึงได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมนั่นเอง