เตือนภัย ลงทุนออนไลน์ มิจฉาชีพระบาดหนัก ยอดเสียหายพุ่งทะลุหมื่นล้านบาท

ช่วงเศรษฐกิจซบเซา เงินเฟ้อ ของต่าง ๆ พากันขึ้นราคา สวนทางกับค่าแรงที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะขึ้นเลยแม้แต่น้อย คนที่พอมีเงินก้อนอยู่บ้างก็คงอยากจะลงทุนอะไรสักอย่าง ให้เงินที่มีอยู่งอกเงยขึ้นมามากกว่าแค่ดอกเบี้ยจากการฝากไว้ในธนาคาร ประกอบกับช่วงนี้อินเตอร์เน็ตช่วยให้เราสามารถลงทุนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่ทราบหรือไม่ว่าที่ผ่านมามีมิจฉาชีพหลอกลงทุนระบาดอย่างหนักจนทำให้มียอดเสียหายกว่าหมื่นล้านบาทแล้ว เราเลยจะมา เตือนภัย ลงทุนออนไลน์ กันว่ารูปแบบไหนที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาคนในบ้านได้มากขึ้น

เตือนภัย ลงทุนออนไลน์ 

ตั้งแต่ที่มีอินเตอร์เน็ตบนโลกใบนี้ ทุกอย่างก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ใช้ปลายนิ้วคลิกเท่านั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งการลงทุนเองก็ตาม แต่การลงทุนออนไลน์เป็นวิธีการที่มีความเสี่ยงมากกว่าอยู่หลายเท่าตัวเลยทีเดียว มีเตือนภัย ลงทุนออนไลน์ออกมาให้เราได้เห็นไม่หวาดไม่ไหวเต็มไปหมด แม้แต่ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี่ก็ด้วยเช่นกัน

สาเหตุที่เรายังคงต้องย้ำเตือนเกี่ยวกับการลงทุนออนไลน์ เพราะมีการออกมาเปิดเผยสถิติโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ามีประชาชนแจ้งความว่าโดนหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์จำนวนมากกว่า 23,000 คดี ยอดค่าเสียหายรวมแล้วถึง 11,000 ล้านบาทเลยทีเดียว เฉพาะแค่ในเดือนมิถุนายนปี 2566 มีการแจ้งความมากกว่า 800 คดี และมียอดเสียหายสูงถึง 600 ล้านบาทเลยทีเดียว

หมายความว่าในแต่ละวันมีคนจำนวนมากถูกหลอกให้ลงทุนออนไลน์ แล้วไม่ได้รับผลตอบแทนอย่างที่พูดคุยกันไว้ ส่วนเงินที่ลงทุนไปโอกาสได้คืนก็มีอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้น เพราะเวลาโอนเงินให้มิจฉาชีพ พวกนี้ไม่ได้ใช้บัญชีของตัวเองอยู่แล้ว แต่ใช้บัญชีม้าที่กว่าจะสาวตัวไปถึงต้นตอก็คงบินหนีออกประเทศไปเรียบร้อยแล้วอีกต่างหาก จะมีการลงทุนแบบไหนที่เราต้องระมัดระวังกันบ้าง เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกกัน

เปิดรูปแบบการหลอก ลงทุนออนไลน์ ที่ต้องระวัง

การลงทุนออนไลน์ส่วนใหญ่มักต้องทำผ่านคนที่เข้ามาชักชวน เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน น้อยคนที่อยู่ดี ๆ จะนึกว่าอยากลงทุนแล้วก็เข้าไปลงทุนบนโลกออนไลน์เลย เพราะฉะนั้น เลยช่วยให้เราสามารถแยกออกระหว่างคนที่ชวนเราไปลงทุนจริง ๆ กับมิจฉาชีพที่จะหลอกให้เราโอนเงินไปให้ จะมีรูปแบบไหนบ้างที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ไปดูกันเลย

• ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้น ๆ

มิจฉาชีพเหล่านี้มักจะหลอกให้เหยื่อเข้าใจว่าการลงทุนสามารถให้ผลตอบแทนสูงแบบอลังการได้ในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น บางทีก็อาจจะเป็นหลักเดือน แต่ที่แน่ ๆ ก็คือการลงทุนปกติธรรมดาทั่วไปอาจต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ กว่าจะได้ผลตอบแทนอย่างที่ว่า วิธีการลงทุนก็รวดเร็ว และง่ายดาย มักจะมีการถ่ายรูปคู่กับรถยนต์แบนหรู เงินสดเป็นฟ่อน ๆ แล้วบอกว่าทุกคนก็สามารถมีแบบนี้ได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่มีการลงทุนอะไรที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างรวดเร็ว และการลงทุนที่ผลตอบแทนสูงย่อมมีความเสี่ยงสูงด้วย

• การันตีผลตอบแทน

บางเจ้าหนักข้อเข้าหน่อยก็ถึงขั้นมีการการันตีผลตอบแทนกันเลยทีเดียว อย่างเช่น บอกว่าจะได้ผลตอบแทน 10% ต่อสัปดาห์ 50% ต่อเดือน เพื่อหลอกล่อให้เรารู้สึกอยากได้เงินจำนวนนั้นจนนำเอาเงินที่มีอยู่เทไปลงทุนจนหมดหน้าตัก เพราะมีการการันตีผลตอบแทน ถ้าเราอยากได้มากเท่าไหร่ก็ต้องลงทุนมากขึ้นเท่านั้นด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีการลงทุนประเภทไหนบนโลกใบนี้ที่สามารถการันตีผลตอบแทนได้อย่างแน่นอน

• เร่งให้เรารีบตัดสินใจ

กรณีที่มาเป็นตัวบุคคลก็มักจะบอกว่าเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วนะ วันนี้วันสุดท้ายแล้ว เหลือเวลาแค่ 10 นาทีแล้ว ให้เรารีบตัดสินใจแล้วโอนเงินให้ ถ้ามาในลักษณะบนโลกออนไลน์ก็จะใช้วิธีการเร่งคล้าย ๆ กัน ใช้ตัวอักษรหนาสีแดงขนาดใหญ่ที่เพิ่มความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเร้าอารมณ์มากขึ้นกว่าเดิมไปอีก การเร่งรัดแบบนี้จะทำให้การไตร่ตรองของเราลดน้อยลงกว่าเดิม สิ่งสำคัญคือไม่ควรรีบตัดสินใจลงทุนโดยเด็ดขาด และปกติแล้วคนที่มาแนะนำการลงทุนจะไม่มีการเร่งรัดให้ลูกค้าตัดสินใจด้วย

• โฆษณาว่าใครก็มาลงทุน

จะมาในแนวที่ว่าเป็นการลงทุนที่คนดัง คนมีชื่อเสียงในแวดวงการเงิน เหล่าอินฟูเอนเซอร์ทั้งหลายยังมาร่วมลงทุนด้วย เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ ที่ความจริงแล้วไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าคนที่ถูกแอบอ้างลงทุนด้วยจริงหรือเปล่า และการลงทุนจะมีผลตอบแทนดีหรือไม่ ความจริงแล้วไม่เกี่ยวว่าใครมาลงทุนบ้างสักนิดเดียว

• ธุรกิจที่ไม่สามารถจับต้องได้

มิจฉาชีพส่วนใหญ่มักจะกล่าวอ้างถึงการลงทุนในธุรกิจวิญญาณที่ไม่สามารถจับต้องได้ ไม่มีตัวตน เป็นการลงทุนที่อยู่ในต่างประเทศบ้าง บริษัทไม่มีการผลิตสินค้า หรือการให้บริการบ้าง เราจึงต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ว่าธุรกิจที่เราจะลงทุนถูกต้องหรือไม่ มีอยู่จริงหรือเปล่า ก่อนตัดสินใจ เพื่อป้องกันการโดนหลอก

รูปแบบหลอก ลงทุนออนไลน์ ที่ควรรู้

นอกจากลักษณะการเร้าหรือของกลุ่มวิชาชีพที่พยายามจะให้เราลงทุนกับตัวเองให้ได้ ด้วยการโฆษณา การแอบอ้างมากมายที่ดูจะเวอร์วังจนเกินจริง แต่กลับสามารถกระตุ้นความโลภในจิตใจของเราได้เป็นอย่างดี ยังมีลักษณะของการลงทุนที่เราต้องระมัดระวังให้ดี และไม่ควรรีบโอนโดยเด็ด ดังนี้

• แชร์ลูกโซ่

จะเป็นการสร้างเครือข่าย ทำงานด้วยการชักชวนคนนู้นคนนี้มาลงทุน ยิ่งชักชวนคนได้มากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้รับเงินตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น ช่วงแรกได้เงินจริง คนเลยยิ่งไว้ใจ และลงทุนหนักขึ้นกว่าเดิม พอแชร์ล้มก็เป็นเหมือนกับที่เราเห็นกันในข่าวทั่วไปบนหน้าหนังสือพิมพ์

• ลงทุนในหุ้นบริษัทดัง

พวกนี้ส่วนใหญ่มักจะมาแบบน่าเชื่อถือ อ้างตัวเองว่าเป็นคนในวงการการเงิน หรือเป็นคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงการเงิน ชักชวนให้เราไปลงทุนในธุรกิจวิญญาณที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง อ้างว่าผลตอบแทนสูง ภาพลักษณ์ดูดี ให้เราตรวจสอบก่อนว่าเขาเป็นคนที่เขาแอบอ้างจริงหรือไม่

• หลอกให้รักแล้วลงทุน

หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Romance Scam พวกนี้มักจะใช้โปรไฟล์เป็นคนที่หน้าตาดี เข้ามาทำความรู้จักกับเรา จีบจนทำให้เรารู้สึกชอบ หลังจากนั้นก็จะหลอกให้เราไปลงทุน มิจฉาชีพบางคนก็ลงทุนเยอะหน่อย มีแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ให้เราเข้าไปลงทุน บางคนก็ไม่ลงทุนด้วยกันหรอกให้เราโอนเงินให้เลยก็มี

• ลงทุนคริปโต

หรือการเทรดเหรียญดิจิตอล ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน ชักชวนให้เราเปิดบัญชีเพื่อลงทุนในเงินคริปโต อาจมีแพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วย แต่ไม่ใช่การลงทุนจริง ๆ

• ลงทุนกับบริษัทปล่อยเงินกู้

มักจะโฆษณาว่าได้ผลตอบแทนสูง รับผลตอบแทนเร็ว เอาเงินไปลงทุนกับบริษัทปล่อยเงินกู้ที่ตรวจสอบยากว่ามีการให้บริการจริงหรือไม่ เพราะถ้าเป็นสินค้าเลยยังมีโอกาสได้เห็นสินค้าอยู่บ้าง

• ลงทุนประมูลสินค้า

ประมาณว่าให้เราไปประมูลสินค้าเพื่อรับผลตอบแทน ประมูลสินค้าเพื่อเอาไปขายต่อในราคาสูง แต่ประมูลไปแล้วไม่ได้รับสินค้าจริง

• ลงทุนซื้อขายเพื่อแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศ

ถือว่าค่อนข้างเสี่ยงเลยทีเดียว เพราะเป็นสิ่งที่เราจับต้องได้ยาก เงินที่ว่าก็เป็นเงินที่อยู่ในโลกดิจิตอล

วิธีการตรวจสอบกลโกงมิจฉาชีพที่หลอกให้เราลงทุน

• นำภาพคนดังมาโฆษณา

เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยที่สุดก็ว่าได้ เรามิจฉาชีพมักใช้คนดัง หรือคนที่มีความน่าเชื่อถือมาโฆษณา โพสต์เชิญชวนบนโลกออนไลน์ด้วยเพจ หรือ Facebook ส่วนบุคคลที่ดูร้างเสียเหลือเกิน ดูยังไงก็เหมือนกับไม่มีตัวตนอยู่จริง บางทีสะกดชื่อไม่ถูกด้วย เพราะต้องสะกดชื่อให้คล้าย แต่ไม่เหมือน เราจะต้องสังเกตกันเองให้ดี

• โทรศัพท์มาอ้างว่าเป็นคนรู้จัก

ลักษณะนี้จะมีการโทรเข้ามาด้วยเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนบริษัท บ้างก็ว่าเป็นเลขา เป็นคนที่รู้จักเรา หรือบางทีก็รู้จักกับคนดัง จากนั้นก็จะเชิญชวนให้เราทำธุรกิจ ใครที่หลงเชื่อก็จะได้เพิ่มเพื่อนกับมิจฉาชีพในช่องทางติดต่อออนไลน์อื่น ๆ มักจะมีการส่งภาพถ่ายคู่กับคนดังทั้งหลายมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ พอเราโอนเงินไปแล้ว ก็จะจบลงด้วยการโดนบล็อกทันที

• ส่งข้อความแอบอ้างเป็นบริษัท

มักพบได้บ่อยในช่องทางสื่อสารออนไลน์ อย่างเช่น Messenger ของ Facebook หรือ LINE เหยื่อส่วนใหญ่มักเป็นผู้สูงอายุ มิจฉาชีพจะปลอมตัวเป็นบริษัท หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ส่งข้อความมาหลอกล่อให้เชื่อ และโอนเงินเข้าไปร่วมลงทุน ความร้ายกาจคือนอกจากจะโดนหลอกให้โอนเงิน บางทียังให้กรอกข้อมูลส่วนตัวอีกต่างหาก

สรุปแล้ว เตือนภัย ลงทุนออนไลน์ที่เรามาแนะนำทุกคนกันในวันนี้มีครบจบทุกอย่าง ตั้งแต่ลักษณะพึงระวังมิจฉาชีพ ลักษณะของการลงทุนยอดนิยมที่มักถูกใช้เป็นเครื่องมือ รวมถึงวิธีการตรวจสอบกลโกงของมิจฉาชีพทั้งหลาย สิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่เราจะตัดสินใจลงทุนอะไรสักอย่าง คือต้องเข้าใจเนื้อแท้ของการลงทุนก่อนว่าไม่มีอะไรบนโลกใบนี้ที่ได้มาง่าย ๆ ยิ่งผลตอบแทนสูงเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น ไม่มีการการันตีผลตอบแทนในโลกของการลงทุนที่แท้จริง และเหล่าคนดังทั้งหลายคงไม่มาเชิญชวนให้เราลงทุนเอง ก่อนตัดสินใจโอนเงินให้ใคร ขอแนะนำว่าให้ตรวจสอบให้ดี จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพแล้วต้องเสียเงินเปล่า