ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสถาบันทางการเงินต่าง ๆ เริ่มมีนโยบายในการจัดทำบัตรหลายประเภทเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน อย่างเช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตร ATM ขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่าย หรือชำระสินค้าและบริการ แต่บัตรต่าง ๆ เหล่านั้น ย่อมมีความแตกต่างกันในเรื่องของการใช้งาน ค่าธรรมเนียม และอัตรดอกเบี้ย ซึ่งอาจสูงมากหากคุณไม่รู้จักใช้ ก่อนที่จะถือบัตรเหล่านี้ คุณต้องทำความเข้าใจและศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรต่าง ๆ บทความนี้เราขอพูดถึงการใช้งานของบัตรเดบิตก่อนว่า คุณต้องใช้งานบัตรเดบิตอย่างไร ถึงจะได้รับประโยชน์ หากคุณต้องการถือบัตรเดบิต คุณสามารถศึกษาการใช้งานบัตรเดบิต ว่าที่ไหนเหมาะสม และที่ใดมีความเสี่ยงไม่ควรใช้ มาดูพร้อม ๆ กันค่ะ
บัตรเดบิตต่างกับบัตรอื่นๆ อย่างไร
- ความพิเศษของบัตรเดบิต บัตรเดบิตเป็นบัตรที่สามารถกดเงินสดออกมาใช้ได้เหมือนกับบัตร ATM แต่มีความต่างตรงที่บัตรเดบิตสามารถใช้กดเงินสดในต่างประเทศได้ ซึ่งบัตร ATM ไม่สามารถใช้ได้ในต่างประเทศ เพราะเป็นบัตรที่สามารถกดเงินสดได้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
- บัตรเดบิตสามารถนำมารูดเพื่อชำระสินค้า หรือบริการได้เหมือนกับบัตรเครดิต มีความต่างตรงที่บัตรเดบิตไม่สามารถผ่อนชำระได้ เนื่องจากเมื่อคุณใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต ระบบจะตัดเงินฝากของคุณทันที พร้อมกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ซึ่งไม่เหมือนกับบัตรเครดิต ที่เป็นวงเงินในอนาคตคุณสามารถผ่อนชำระได้ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการใช้บัตรเดบิตแล้วจะเป็นหนี้ แต่คุณอาจจะกังวลเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม และอัตราดอกเบี้ยที่คุณใช้จ่ายในแต่ละครั้งอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก คุณจะต้องทำความเข้าใจและศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเดบิตก่อนที่คุณจะนำไปใช้จ่าย
ประโยชน์ของการใช้บัตรเดบิต
บัตรเดบิตของแต่ละธนาคารก็จะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการใช้งานของบัตรว่า มีความเหมาะสมหรือคุณนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ ประโยชน์ของการมีบัตรเดบิตไว้ใช้ ก็คือ
- สามารถใช้แทนบัตร ATM ได้ทันที สามารถนำไปใช้ยังต่างประเทศได้
- บัตรเดบิตของบางธนาคารสามารถนำมาใช้จ่ายแทนเงินสด เพื่อซื้อของได้ที่ 7-11 ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างเช่น บัตร K-Debit 7 Purse จากธนาคารกสิกรไทย
- ควบคุมการใช้จ่ายได้ดีกว่าบัตรเครดิต เพราะหากคุณไม่มีเงินในบัญชีก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ หรือใช้ชำระค่าสินค้า หรือบริการต่าง ๆ ได้ เพราะว่าบัตรเดบิตจะหักบัญชีเงินฝากของคุณโดยตรง
- ใช้เติมเงินในโทรศัพท์มือถือผ่านเครื่อง ATM ได้ทันที เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ถือบัตรเดบิต
- ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม จากการส่งเสริมการขาย โปรโมชั่น และส่วนลดต่าง ๆ มากมาย ซึ่งในบางธนาคารอาจจะมีส่วนลดร้านอาหาร หรือส่วนลดตั๋วหนัง หรือเงินคืนเข้าบัญชีจากการใช้จ่ายผ่านบัตร อย่างเช่น
- บัตรเดบิต No Annual Fee ของธนาคารกรุงศรี ให้บัตรชมภาพยนตร์ฟรี 1 ใบ เมื่อซื้อบัตรชมภาพยนตร์ทุกวันจันทร์ หรือสามารถอัพเกรดที่นั่งได้ทุกวัน และยังได้รับส่วนลดจากร้านอาหารที่ร่วมรายการอีกด้วย
- บัตรเดบิตแคชแบ็ก ธนาคารธนชาต ที่จะได้รับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝากเพิ่มอีก 75% ทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร
- บัตรยูเนี่ยนเพย์ เดบิต ธนาคารกรุงไทย ได้รับส่วนลด 10% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯ 600 บาทขึ้นไป และรับทันที 62 บาทเมื่อคุณใช้จ่ายผ่านบัตรฯ 500 บาทขึ้นไป (ถึง 28 กุมภาพันธ์ 60)
- บางธนาคารยังให้สิทธิในการคุ้มครองอุบัติเหตุให้อีกด้วย อย่างเช่น
- บัตรกรุงศรี เดบิต OPD ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ให้ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก 1,000 บาท ต่อครั้ง ต่อวัน และค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตอีก 5,000 บาทต่อครั้ง โดยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายเมื่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลคู่สัญญาที่มีมากกว่า 300 กว่าแห่งทั่วประเทศ
- บัตรเดบิตชัวร์ ธนาคารธนชาต เบิกค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุได้สูงสุดถึง 5,000 บาทต่อครั้ง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง พร้อมวงเงินคุ้มครองจากอุบัติเหตุสูงสุดถึง 100,000 บาท
- ในบัตรเดบิตบางธนาคารยังเปิดให้คุณสามารถซื้อ Add บนโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย อย่างเช่น ธนาคารกรุงเทพฯ และธนาคารกสิกรได้ ตอบสนองความต้องการให้ผู้ที่ถือบัตรเดบิตมีสิทธิในการซื้อ Add ต่างบนโทรศัพท์มือถือได้ง่าย ๆ ทั้งระบบ iOS และ Android เพียงคุณมีบัตรเดบิต และทำการเปิดบริการ Verified by Visa เท่านั้น คุณก็สามารถซื้อ Add ได้อย่างที่คุณต้องการ
- บัตรเดบิตยังสามารถใช้จองตั๋วเครื่องบินได้อีกด้วย บัตรเดบิตของ ธนาคารกสิกรไทย ตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
- สามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ง่าย ๆ โดยการใช้บริการที่ K-Cyber Banking จากนั้นให้คุณ Login เพื่อเข้าสู่ระบบของ K-Cyber Banking ของธนาคารกสิกรไทย เลือกเมนู “K-Web Shopping Card” ทางด้านซ้ายมือและเลือก “สมัครใช้บริการ” เลือกบัญชีที่คุณต้องการใช้ผูกบัตร พร้อมระบุวงเงินซื้อสินค้าต่อวันที่ต้องการ (ระหว่าง 0-100,000 บาท) กรอกรหัส OTP (One Time Password) แล้วกดยืนยัน (สมัครได้ใช้บริการ OTP ได้ที่ K-Contact Center) ระบบจะแจ้งการทำรายการสำเร็จ และส่ง E-Mail แจ้งให้คุณทราบ และยืนยันการสมัครการใช้บริการกับทางธนาคารฯ ทั้งนี้เมื่อธนาคารออกหมายเลขบัตรแล้วก็จะส่ง E-Mail แจ้งให้เข้าไปตรวจสอบรายละเอียดของบัตรได้ที่ K-Cyber Banking เพิ่มความปลอดภัยในการจับจ่ายมากขึ้น ด้วยบริการ Verified by Visa
- วิธีการสมัคร และเปิดใช้บริการที่เครื่อง ATM กสิกรไทย ให้คุณเลือกเมนู “สมัคร / เปลี่ยนแปลงการบริการ / บริจาคการกุศล / อื่น ๆ” เลือก “สมัครบริการ K-Cyber Banking” เลือกสมัคร “K-Cyber Banking” และ “K-Web Shopping Card” แล้วใส่หมายเลขโทรศัพท์มือถือ 10 หลัก กด “ตกลง” เพื่อยอมรับข้อตกลงในเงื่อนไขการสมัครบริการ K-Cyber banking และ K-Web Shopping Card รอรับข้อความยืนยันแจ้งการใช้งาน K-Cyber Banking ทางโทรศัพท์มือถือในวันถัดไป คุณสามารถ Login เข้าสู่รับบ K-Cyber Banking เพื่อดูรายละเอียด K-Web Shopping Card พร้อมใช้งานได้ทันที
สถานที่เสี่ยง ที่ไม่ควรใช้บัตรเดบิต
เมื่อคุณต้องอยู่บางสถานที่ ที่ไม่เหมาะสมในการใช้บัตรเดบิต เราขอแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยง นั่นก็คือ ปั๊มน้ำมัน สถานบันเทิงที่ค่อนข้างมืด เนื่องจากคุณจะไม่สามารถมองเห็น การทำรายการของพนันงานได้เลย ฉะนั้นหากคุณต้องการใช้บัตรเดบิตเพื่อรูดซื้อสินค้า หรือชำระค่าบริการต่าง ๆ ควรใช้ในสถานที่ ที่คุณสามารถมองเห็นการทำรายการได้ในระยะสายตาตลอดเวลา เพื่อป้องกันพนักงานนำบัตรไปใช้รูดกับเครื่อง Skimmer หรือ เพื่อป้องกันการรูดทำรายการซ้ำซึ่งเงินของคุณจะโดนตัดไปเลย
ไม่ควรไปกดที่ตู้ ATMที่ตั้งในที่ลับตาคนเพราะอาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพนำเครื่อง Skimmerไปติดตั้งเพื่อขโมยข้อมูลจากบัตรเดบิตของคุณได้ ดังนั้น คุณควรเลือกใช้ตู้ ATM ที่อยู่ในสถานที่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง หรือมีผู้คนสัญจรไปมาตลอดเวลา
นอกจากนี้ คุณไม่ควรทำบัตรเดบิตสูญหาย เพราะจะทำให้เงินในบัญชีของคุณมีความเสี่ยงต่อการสูญเสีย เพราะเงินของคุณจะถูกตัดออกจากบัญชีที่ผูกกับบัตรทันที และบางครั้งการใช้บัตรเดบิตรูดที่ร้านค้า เจ้าหน้าที่ที่ขายของบางคน ไม่ได้ตรวจดูลายเซ็นหลังบัตรอย่างละเอียด ดังนั้นหากเกิดกรณีบัตรหาย คุณจะต้องรีบแจ้งธนาคารเจ้าของบัตรเพื่อทำการอายัดบัตรนั้น โดยเร็วที่สุด
อ่านเพิ่มเติม : รวมข้อมูลค่าธรรมเนียม บัตรATM บัตรเดบิต ทุกธนาคาร 2559
เทคนิคการใช้บัตรเดบิตให้ปลอดภัย
เราขอแนะนำวิธีการใช้บัตรเดบิตให้ปลอดภัยต่อเงินในบัญชีของคุณมากที่สุด
- ไม่ควรจดรหัสบัตรไว้ที่ตัวบัตร และให้คุณเปลี่ยนรหัสบัตรฯ บ่อย ๆ เพื่อป้องกันบุคคลที่สามจะจดจำรหัสบัตรได้ และเมื่อบัตรหายไม่ควรปล่อยไว้นาน จะต้องรีบอายัดบัตรทันทีเมื่อทราบว่าบัตรเดบิตหาย
- ควรเซ็นลายเซ็นไว้หลังบัตร เพราะไม่งั้นหากใครได้บัตรไป แล้วก็เซ็นของเขาลงไป และนำไปรูดกับร้านค้าต่าง ๆ ได้อย่างสบาย
- คุณควรสมัครข้อความแจ้งเตือนเงินเข้า – เงินออก เพื่อให้คุณทราบทุกการเคลื่อนไหวของเงินในบัญชีตลอดเวลาทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตของคุณ
- ทุกครั้งที่มีการรูด หรือชำระสินค้าผ่านบัตร คุณจะต้องตรวจสอบยอดเงินที่ปรากฏในสลิปทำรายการด้วยว่าตรงกับการใช้จ่ายจริงหรือไม่