เห็นข่าวในทีวี อ่านจาก Facebook เห็นแล้วก็สะท้อนใจว่าทำไมเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็เป็น Start Up ได้ ใครๆ ก็ประสบความสำเร็จในธุรกิจของตัวเองแบบอายุน้อยๆ กันได้ด้วย ก็เพราะว่า Start Up หรือนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงเหล่านี้มีวิธีคิดที่ไม่เหมือนใคร บทความนี้รวบรวมวิธี คิดแบบ Start Up มาให้เรียนรู้และลองปรับปรุงตัวไปใช้กัน
อ่านเพิ่มเติม : สร้าง ธุรกิจ Startup ด้วยตัวคุณเองกันเถอะ
เริ่มต้นที่ต้องหาตัวสินค้าหรือบริการให้เจอ
ซึ่งเป็นเรื่องยากพอสมควร สำหรับคนที่อยากเป็น Start Up หรือคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แล้วถ้าใครเริ่มต้นจากที่ไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการในมือที่ตกทอดมาจากครอบครัวแล้วล่ะก็ คิดหนักเหมือนกัน แต่หลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จก็จะมาแบ่งปันวิธีการหาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้คนอื่นๆ ได้รู้กัน นั่นก็คือ ให้หาจากสิ่งที่เราชอบก่อนเพราะถ้าเราชอบเราอะไรเราก็จะเต็มที่กับสิ่งนั้นอยู่แล้ว และนอกจากนั้นก็จะต้องตอบคำถามที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ สิ่งที่เราชอบที่จะมาทำเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นนะ มันไปช่วยตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาอะไรให้กับคนอื่นๆ ทั่วไปบ้าง ซึ่งถ้าเราตอบคำถามได้สองส่วนนี้ล่ะก็ โอกาสที่ธุรกิจของเราจะไปได้สวยและเป็น StartUp แบบคนอื่นได้ไม่ยากเลย
ต่อมาเมื่อได้ไอเดียมาแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อไป คือ การทดลอง
แล้วจะทดลองยังไงล่ะก็ไม่ยากอีกเหมือนกัน นั่นก็คือเอาสิ่งที่เราคิดไว้ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการอะไรก็ตาม ที่เราคิดว่าช่วยแก้ปัญหาให้คนอื่นได้แน่ๆ มาทำให้เป็นรูปเป็นร่าง แล้วต่อจากนั้นก็เอาออกมาให้คนอื่นๆ ได้ทดลองใช้ แล้วให้มีผลตอบกลับมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อดี ข้อเสีย หรือสิ่งที่ต้องปรับปรุง ในทุกๆ เรื่อง เพราะการทดลองจะทำให้เราได้รู้ว่าสิ่งที่เราว่าใช่ มันจะใช่สำหรับคนอื่นๆ หรือเปล่า และนอกจากนั้นคิดแล้วต้องทำเลย ทำให้เร็วเพราะยิ่งเร็วเท่าไรก็จะทำให้เรามีโอกาสแก้ไขให้ผลิตภัณฑ์และบริการของเราถูกใจลูกค้ามากขึ้น และเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าให้มากขึ้นอีกด้วย เพราะหลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ พวกเขาคิดอะไรได้ก็ทำเลย แม้ว่าสถานที่ อุปกรณ์ต่างๆ ไม่พร้อม แต่ก็พยายามทำจนให้เป็นรูปเป็นร่างออกมา
เมื่อทำสิ่งหนึ่งสำเร็จแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จมากขึ้นไปอีก
เพราะเมื่อผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เราคิดออกมาสู่โลกภายนอกแล้วได้รับผลตอบรับที่ดี มีคนชอบมากมาย สามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้อย่างสวยงาม แต่อย่าลืมว่าทุกวันนี้โลกเราเปลี่ยนไปไวมาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำสำเร็จในวันนี้ อีกไม่กี่ปีก็อาจจะเป็นเรื่องที่คนไม่ต้องการแล้วก็ได้ ดังนั้นถ้าเราต้องการเป็น StartUp หรือนักธุรกิจที่ยั่งยืนเราก็ควรที่จะต้องมั่นหาความรู้และพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ ออกมาด้วย เพราะในโลกธุรกิจทั้งในและต่างประเทศจะทำให้เราเห็นว่ามีผลิตภัณฑ์และบริการของแบรนด์ดังๆ หลายๆ แบรนด์ที่ต้องปิดตัวเองลง เนื่องจากการยึดติดกับความสำเร็จของตัวเองในอดีตจนมากเกินไป และไม่คิดที่พัฒนาสิ่งใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติม
และที่สำคัญ คือ ถ้าเราทำงานกันเป็นทีม
เรื่อง Team Work ก็สำคัญด้วยเช่นกัน เพราะเราในฐานะ StartUp หรือเจ้าของธุรกิจก็ไม่ควรที่จะเอายอดขาย เป้าหมายกำไรต่างๆ โยนไปให้คนใดคนหนึ่ง เพราะอย่างที่บอกทุกคนคือ ทีม ยอดขายหรือเป้าหมายกำไรจะต้องเป็นของทุกคน ถ้าหากเดือนไหน ปีไหน ยอดขายหรือกำไรไม่เป็นไปตามที่คาดหวังแล้วล่ะก็ คงต้องนั่งประชุมกันทั้งหมดเพื่อช่วยกันแก้ไข ต้องไม่ไปโทษใครคนใดคนหนึ่ง ต้องกลับมาช่วยกันคิดว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรานั้น สู้คนอื่นไม่ได้ยังไง มีอะไรที่ไม่ได้ทำแล้วหรือ
นี่แหละคือแนวคิดที่ StartUp และนักธุรกิจรุ่นใหม่ๆ ใช้ในการทำธุรกิจและก็ประสบความสำเร็จกัน ส่วนเราถ้าอยากจะลองเป็น StartUp หรืออยากเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ก็ลองนำแนวคิดแบบนี้ไปใช้กันได้เลย