เรื่องเงินถือเป็นเรื่องสำคัญและยิ่งใหญ่ในชีวิตคนเรา ยิ่งในยามที่เราขัดสนเงินทอง เงินทุกบาททุกสตางค์ก็จะยิ่งดูมีค่าขึ้นมา การที่เงินเป็นเรื่องสำคัญก็เพราะมีคนให้ความสำคัญกับมันและเมื่อเงินกลายเป็นสิ่งสำคัญหากมีเงินไม่พอใช้ก็แน่นอนว่าย่อมต้องสร้างความเครียดให้เกิดขึ้นกับทุกคนได้
เงินจำเป็นต้องใช้เพื่อซื้อของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ใช้เพื่อซื้อข้าวปลาอาหาร ใช้เพื่อจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าไฟ ค่าน้ำและค่าโทรศัพท์ ใช้เพื่อจ่ายค่านมลูก ค่าเล่าเรียนลูก ใช้เพื่อซื้อเสื้อผ้า ซื้อเครื่องสำอาง ใช้เพื่อทำกิจกรรมสร้างความสุข ใช้เพื่อดูแลรักษาเราในยามเจ็บป่วย ใช้เพื่อดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่า ฯลฯ ไม่เพียงแค่นี้ เงินยังจำเป็นต้องใช้ทำสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย
คนที่บอกว่าเงินไม่พอใช้นั้น ก่อนอื่นต้องหันกลับมาดูที่ตัวเองก่อนเลยที่เงินไม่พอใช้นั้น เราใช้เงินอย่างไรบ้าง ใช้ในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น หรือใช้ในสิ่งที่ไม่จำเป็นฟุ่มเฟือยด้วย หากเราดูแล้วว่าเงินใช้แต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้นแล้วก็ยังไม่พอใช้ แบบนี้แสดงว่าเราไม่สามารถตัดค่าใช้จ่ายได้แล้ว แต่ต้องหารายได้เพิ่มขึ้นเพื่อให้พอกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น หากเงินไม่พอใช้เพราะเกิดจากซื้อของโดยไม่คิด ไม่มีการวางแผน ฟุ่มเฟือย วิธีแก้ก็คือต้องประหยัด คิดก่อนซื้อ เป็นต้น
คนส่วนใหญ่ที่ไม่มีเงิน มีเงินน้อยหรือมีเงินไม่พอใช้ มักจะเครียดกังวลว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งการมัวแต่กังวลหรือนั่งเครียดอยู่ก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา เราต้องพร้อมมองโลกในแง่ดี คิดบวกอยู่เสมอ แม้ในสถานการณ์ที่ไม่อำนวยอย่างการมีเงินไม่พอใช้
เลิกเครียด
ความเครียดไม่สามารถช่วยอะไรเราได้ ไม่สามารถช่วยให้เราหลุดพ้นจากภาวะที่เราเป็นอยู่ เมื่อรู้สึกเครียดก็จะทำให้คิดแก้ปัญหาอะไรไม่ออกด้วยเพราะเนื้อที่สมองเอาไปมัวแต่ใช้คิดกังวลอยู่ เลิกเครียดซะ! อย่างน้อยการที่เรามีเงินไม่พอใช้ก็หมายความว่าเรายังมีรายได้ เรายังมีเงินใช้อยู่ เพียงแต่เงินมันไม่พอใช้เท่านั้นเอง ความโชคดีของคนที่มีเงินไม่พอใช้แล้วเริ่มกังวล ก็คือ มันเป็นสิ่งที่แสดงว่าคุณรู้ตัวแล้วว่าคุณเองอยู่ในสถานะไหน ความกังวลเป็นเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นว่าคุณคิดว่าตัวเองจะต้องทำอะไรบางอย่างอยู่เหมือนกัน ซึ่งนี่แหละถือเป็นความคิดและจุดเริ่มต้นที่ดี
เริ่มวางแผน
เงินรายได้ที่เราได้รับเข้ามาในแต่ละเดือนจะถูกจัดสรรเพื่อจ่ายออกไปอย่างไรนั้นก็อยู่ที่ตัวเรา ปัญหาของคนที่มีเงินไม่พอใช้ เกิดจากการไม่รู้จักวางแผนนั่นเอง เมื่อใดก็ตามที่เราอยู่ในสถานการณ์ของเงินไม่พอใช้ เราต้องหยุดและเริ่มวางแผนการเงินทันที หากไม่เคยจดอะไรเลยก็ควรเริ่มจด จดทุกค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายออกไปในแต่ละวัน จดทุกรายการไม่ว่าจะเป็นรายการใหญ่น้อย จดออกมาให้หมด เรื่องนี้หากไม่ทำก็ไม่มีใครทำอีกแล้ว เพราะใครจะมานั่งจดค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ของตัวเอง
บางคนอ่านมาถึงบรรทัดนี้ก็จะบอกว่าให้จดอีกแล้ว อ่านที่ไหนก็มีแต่ให้จด แต่ถามตัวเองสักนิดก่อนว่าเราเริ่มแล้วหรือยัง ขอให้เริ่มจดเพียงแค่ครั้งแรกเท่านั้นทำให้ได้ครบเดือน เราก็จะเห็นอย่างชัดเจนเลยว่า เงินของเรามันรั่วไหลไปทางไหนบ้าง ทุกคนที่วางแผนการเงินอย่างได้ผลก็เริ่มจากการจดบันทึกค่าใช้จ่ายของตัวเองทั้งสิ้น
หางานอื่นทำเพิ่ม
การมีเวลาว่างมากเกินไปหรืออยู่เฉย ๆ ก็จะทำให้ยิ่งเครียดมากขึ้นแถมก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมา วิธีก็คือหาอะไรให้ตัวเองทำเพื่อไม่ให้ว่าง ยิ่งเป็นงานหรือกิจกรรมที่ทำแล้วมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย ก็ควรรีบทำ หลายคนเมื่อถึงคราวที่ต้องเจอวิกฤตกับชีวิตก็สามารถปรับตัวเองได้ดี ยอมเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเองที่เป็นมานาน บางคนไม่เคยไปขายของที่ตลาดนัดก็ไปขาย บางคนไม่เคยทำงานที่ได้เงินแค่ไม่กี่สิบบาทก็ทำ เมื่อคนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้เช่นเดียวกัน ลองคิดดูว่าเราทำอะไรได้บ้าง ช่วงเวลาของชีวิตแบบนี้แหละที่เราต้องดึงศักยภาพที่สูงสุดของเราออกมา ในช่วงที่กำลังคิดว่าจะทำอะไรดีนั้น ให้ใช้เวลาช่วงเย็นทำกับข้าวทานเอง การทำกับข้าวทานเองถือเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดทำให้เงินพอใช้ได้ดีที่สุด
หยุดซื้อของ
เมื่อเงินไม่พอใช้วิธีที่ดีที่สุดก็คือหยุดใช้เงิน โดยหยุดซื้อของที่ไม่จำเป็น ส่วนของที่จำเป็นก็ซื้อแต่เพียงเท่าที่พอใช้ไม่ต้องซื้อเผื่อ การออกนอกบ้านมักจะเป็นช่องทางในการเสียเงินโดยไม่จำเป็นเพราะได้ไปเห็นอะไรต่อมิอะไรแล้วก็เกิดกิเลสอยากกิน อยากมี อยากได้ขึ้นมาได้เห็นโปรโมชั่นลดราคาดูน่าสนใจทั้งที่จริงเราไม่ได้วางแผนที่จะซื้อของชิ้นนั้น วันหยุดจึงควรอยู่บ้านหากิจกรรมง่าย ๆ ที่ไม่เสียสตางค์ทำ เช่น ดูทีวี อ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้ เป็นต้น
เมื่อมีปัญหาเข้ามาในชีวิต ทางแก้ปัญหาอย่างแรกที่ทุกคนความเริ่มต้นก่อนก็คือต้องตั้งสติและคิดบวก การที่เรารู้ว่าตัวเองมีปัญหาเงินไม่พอใช้ อย่างน้อยก็ให้มองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ปรับเปลี่ยนนิสัยบางอย่างของตัวเราเอง เช่น ได้ทบทวนนิสัยการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ได้เริ่มวางแผนการเงินของตัวเอง ได้เริ่มจดบันทึกรายรับรายจ่ายเป็นเรื่องเป็นราวเสียที นี่แหละคือสิ่งที่สำคัญคนที่จะทำอะไรสำเร็จได้ต้องเปลี่ยนที่มุมมองและความคิดของตัวเองก่อน แล้วลงมือทำ เท่านั้นเอง !
อ่านเพิ่มเติม : ใช้เงินแบบนี้ กี่ปีถึงจะรวย !?