คนกรุงเทพฯกับรถติด จะอยู่กับมันอย่างไรให้มีความสุข

หลายคนอาจจะพบเจอกับปัญหาการจราจรติดขัดเป็นอย่างมากทั้งเช้าและเย็น เนื่องจากมีสะพานหลายจุดในกทม.ที่ปิดซ่อมแซมในปีพ.ศ. 2562 หลายแห่ง เช่น สะพานข้ามแยก ณ ระนอง , สะพานข้ามแยกถนนเพชรบุรี อโศก หรือ การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ในกทม. ย่านลา

การจราจรจะหนาแน่นมากในช่วงเช้า เพราะผู้คนต้องรีบไปทำงาน และส่งลูกไปโรงเรียนในช่วงเวลาเร่งด่วน 6.00-9.00 น. ช่วงพักเที่ยง 11.00-13.00 น. ช่วงรับลูกกลับบ้าน 14.00-17.00 น. ช่วงคนทำงานออฟฟิสกลับบ้าน 17.00-20.00 น. จากช่วงเวลามากมายจะเห็นว่าเราต้องเผชิญรถติดกันทั้งวันตั้งแต่เช้าถึงกลางคืนเลยทีเดียว บางครั้ง 22.00 น. ก็ยังติด เพราะคนกินข้าวเย็นในห้างสรรพสินค้าทยอยกลับบ้านกัน

ดังนั้นเรามาช่วยกันคิดหาวิธีช่วยบรรเทาปัญหาพร้อมบำบัดจิต ได้ดังนี้

• พยายามออกจากบ้านเช้ากว่าเดิมให้มากขึ้นเล็กน้อย

โดยอาจจะเดินทางออกก่อนเวลาปกติ 30 นาที เพื่อเลี่ยงรถติด แต่วิธีนี้อาจจะต้องเหนื่อยที่ต้องตื่นเช้า

• สละรถ เลือกการเดินทางด้วยรถสาธารณะ

ย่านกลางเมืองถนนสุขุมวิท ถนนสีลม ถนนพญาไท ถ้าต้องเดินทางไปทำงานหรือส่งลูกไปโรงเรียน พยายามเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS , รถใต้ดิน MRT และออกกำลังเพิ่มเติมโดยการเดิน เพราะในช่วงเวลาเร่งด่วนดังกล่าวบนถนนจะเต็มไปด้วยรถที่ติดไม่ขยับ แต่ถ้าเราสละรถ เรายังเดินทางผ่านรถไฟฟ้าได้ และต่อด้วยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพื่อความรวดเร็วในการเดินทาง น่าเสียดายที่สภาพอากาศบ้านเราร้อนไป ทำให้ประชาชนไม่สามารถเดินได้ ถ้าเป็นประเทศญี่ปุ่น จีน ประชาชนของเขาจะเดินกันได้ไกลมาก เพราะอากาศเย็นสบาย (แต่ก็ยกเว้นฤดูร้อนช่วง ก.ค. – ส.ค. ประเทศดังกล่าวก็ร้อนมากเหมือนกัน)

• หลีกเลี่ยงการขับรถช่วงเวลาเร่งด่วน

บางทีเราจำเป็นต้องขับรถ ดังนั้นเมื่อเรานำรถออกมา อาจจะต้องออกจากที่ทำงานช้ากว่า 20.00 น. ให้ผ่านพ้นช่วงเลิกงานไปก่อนเป็นต้น หรือไปออกกำลังกายฟิตเนส ไปกินข้าวกับเพื่อน เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลา peak ของรถติดแล้วค่อยขับรถกลับบ้าน

• หาเส้นทางใหม่ที่ไม่ต้องเผชิญกับรถติด

ตัวอย่างเช่น แยกอโศกเพชรบุรีที่มีการปิดสะพาข้ามแยกไปจนถึงวันที่ 4 ก.ย. พ.ศ. 2562 ถ้าเราต้องขับรถจากบ้านลาดพร้าว ผ่านรัชดาไป ผ่านมักกะสัน และไปอโศก ก็จะเจอรถติดนานมาก อาจจะไปเส้นทางใหม่ทางถ.วิภาวดีดินแดง ไปขึ้นทางด่วนแทน และลงที่เพลิตจิตฝั่งเหนือ เราต้องหาเส้นทางใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงรถติด

• ใช้วิธีการเดินแทนการขับรถ

จะได้เป็นการออกกำลังกายไปในตัว แต่อาจจะต้องเตรียมอุปกรณ์กันแดด เช่น หมวก แว่นตากันแดด ร่ม เพราะสภาพอากาศประเทศไทยร้อนเหลือเกิน และที่สำคัญอย่าลืมดื่มน้ำ เพื่อป้องกันอาการลมแดด (Heat Stroke) ได้

• ทำใจ อย่าเครียด

ในเมื่อปัญหาที่เกิดขึ้นแก้ไม่ได้ เราก็ต้องอยู่กับปัจจุบัน และปรับตัวที่ตัวของเราและครอบครัวแทน  ถ้าติดอยู่ในรถก็ฟังเพลง นอนหลับไป

• เตรียมอุปกรณ์ปัสสาวะให้เด็ก

บางครั้งรถติดมาก แต่ลูกไม่ได้ใส่แพมเพิสแล้ว ทำให้มีความเสี่ยงที่จะฉี่ออกมาในเบาะรถ เนื่องจากรถติดและเราหาห้องน้ำให้ลูกไม่ทัน เตรียมกระป๋อง comfort 100 สำหรับเด็กชายและเด็กหญิง กรณีมีลูกชายก็สบายหน่อยแค่เตรียมขวดน้ำสำรองไว้ก็ได้

• เตรียมขนมหรืออาหารแห้ง

เมื่อเราเจอจราจรติดขัดในช่วงที่ต้องรับประทานอาหารเย็น กว่าจะได้กินข้าวอีกทีอาจจะหลัง 21.00 น. ดังนั้นเราคงจะต้องเตรียมขนมแคร็กเกอร์ ของว่างง่าย ๆ หรือน้ำดื่มไว้กินแก้หิวไม่ให้เป็นโรคกระเพราะ

เรายังคงต้องเผชิญปัญหารถติดต่อไป เพราะระบบสาธารณะในเมืองกรุงยังไม่พร้อมเหมือนประเทศญี่ปุ่น จีน หรือสิงคโปร์ที่มีรถใต้ดิน รถไฟฟ้าไปทุกหนทุกแห่ง พวกเราไม่ต้องขับรถออกมาดังนั้นการจราจรจึงไม่ติดขัด คงจะต้องหาความสุขจากปัจจุบันให้ได้มากที่สุด