การท่องเที่ยวตามเทศกาลต่างๆนั้นคนไทยนิยมกันอยู่แล้ว แต่ที่พักราคาจะแพง คนก็เยอะเที่ยวก็ไม่สนุกเพราะไปไหนเจอแต่คนและคนมากมาย ลองเปลี่ยนมาเที่ยวนอกเทศกาลดูบ้างจะทำให้ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่ง แต่บางสถานที่ก็ไม่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีอย่างพวกตามเกาะแก่งต่างๆที่อาจต้องเที่ยวตามฤดูกาลที่เหมาะสมเช่นทะเลฝั่งอันดามันและทะเลภาคตะวันออกจะปลอดลมมรสุมในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ส่วนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยจะปลอดมรสุมในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม
แต่การเที่ยวนอกเทศกาลหรือนอกฤดูท่องเที่ยวของสถานที่นั้นบอกได้เลยว่าประหยัดสุดๆ ในเรื่องของที่พักและได้บรรยากาศอีกแบบด้วย และในบางจังหวัดหรือบางสถานที่นั้นยังมี ที่เที่ยวที่ไปได้ทั้งปี อีกต่างหากอาทิเช่น
จ.นครราชสีมา
หลายๆคนคิดว่าไม่น่าจะมีที่เที่ยว แต่ก็มีหลายแห่งเลยทีเดียว ทีดังที่สุดคงไม่พ้นเขาใหญ่ที่นี่เที่ยวได้ตลอดทั้งปีและพื้นที่นั้นครอบคลุมถึง 4 จังหวัด คือจังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก ทำให้สามารถเที่ยวหรือพักในพื้นที่ใกล้เคียงได้ เพราะแต่ละจังหวัดที่เอ่ยมามีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจด้วย และทั้งสี่จังหวัดนี้เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูก็จะมีบรรยากาศต่างกันไปด้วย และบริเวณโดยรอบก่อนขึ้นเขาใหญ่นั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย มีรีสอร์ทหลายแห่ง หลายแนวหลายราคาไว้รองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งบอกเลยว่าช่วงเทศกาลที่พักละแวกเขาใหญ่จะเต็มเกือบทุกทีและราคาค่อนข้างสูงหากเป็นรีสอร์ทดังๆ หรือ เป็นรีสอร์ทในไร่ต่างๆ แต่หากเลือกที่พักที่ห่างออกมาจากเขาใหญ่สักนิด หรือ อยู่ตามเส้นทางริมถนนมิตรภาพ ราคาก็จะถูกลงอีกหน่อยแต่ได้บรรยากาศไม่แพ้กันเลย
จ.บุรีรัมย์
แม้จะเป็นแดนอิสานใต้ ที่สมัยก่อนเป็นจังหวัดทางผ่านแต่ปัจจุบันบอกเลยว่าบุรีรัมย์เปลี่ยนไปมาก ที่พักมีเพิ่มขึ้นและราคาไม่แพงด้วย อาหารการกินสะดวกมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และที่สำคัญที่น่าไปเที่ยวคือ สนามฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดหรือสนามไอโมบายที่เปิดให้เข้าฟรีๆชมสนามไม่เก็บเงินในวันที่ไม่มีฟุตบอลเตะ และยังมีสนามแข่งรถ และกำลังทำแหล่งช้อปปิ้งในบริเวณเดียวกัน ใครยังไม่เคยไปบอกเลยว่าให้ลองไปดูสักครั้ง นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวอย่างปราสาทหินพนมรุ้ง, เขากระโดง , ที่ขึ้นชื่อและยังมีสถานที่เที่ยวเชิงนิเวศน์และเกษตรที่เปิดใหม่อย่างเพลาเพลิน ซึ่งสวยไม่แพ้ที่อื่นๆ และที่นี่ค่าใช้จ่ายไม่แพงเหมือนจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆด้วยทั้งที่พักและอาหาร
จ.ราชบุรี
ที่นี่มีที่เที่ยวหลายแห่งแต่มักจะนิยมไปกันช่วงหน้าหนาวโดยเฉพาะแถบ อ.สวนผึ้ง เพราะช่วงหน้าหนาวจะบรรยากาศดี แต่ที่พักก็จะแพงและคนเยอะ ทั้งๆที่ที่นี่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี และมีสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย เช่น อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม , วัดถ้ำสาริกา , ตลาดน้ำดำเนินสะดวก , พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี ,จุดชมวิวห้วยคอกหมู , The Scenery Vintage Farm ซึ่งที่กล่าวมานั้นเป็นสถานที่เที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดราชบุรีที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี บางแห่งเสียค่าเข้าแต่ก็ไม่แพงนัก อีกทั้งที่พักในราชบุรีนั้นมีรีสอร์ทสวยๆค่อนข้างเยอะ หากไปนอกเทศกาลราคาจะถูกกว่าช่วงเทศกาลด้วย
จ.สมุทรสงคราม
ที่นี่หลายๆคนคงเคยไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา และวัดดังๆ ที่อยู่ตามเส้นทางท่องเที่ยวของจังหวัด ที่นี่เที่ยวได้ทั้งปีเช่นกัน และสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ ทำให้ที่นี่ไม่เคยว่างเว้นจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะวันหยุดต่างๆนักท่องเที่ยวเยอะจนแน่นเลยทีเดียว แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่ตลาดน้ำ เพราะยังมีที่เที่ยวอื่นๆเช่น อุทยาน ร.2 ที่มีสถานที่ร่มรื่นมีเรือนไทยที่งดงามเดินเที่ยวได้เพลินๆ ค่าเข้าก็ไม่แพง และมีวัดเก่าๆหลายวัดในเส้นทางที่ลัดเลาะไปตามสวนลิ้นจี่ไล่ตั้งแต่หน้าวัดอัพวาไปเรื่อยๆตลอดทั้งถนน และยังมีศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณที่อยู่ในเส้นทางนี้ด้วยแต่ต้องเลี้ยวเข้าซอยไปอีกสักนิดจึงจะพบกับศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ แต่บอกก่อนนะว่าหากไม่รักหรือชอบแมวแล้วก็ไม่ต้องแวะไป เพราะจะทนกลิ่นแมวไม่ได้แน่นอน เพราะแมวที่นี่มีมากและเลี้ยงดูในกรงอยู่ในโรงเลี้ยง ซึ่งอากาศค่อนข้างจะร้อนจึงมีการเปิดพัดลมระบายอากาศและลดความร้อนให้แมว หากไม่แพ้กลิ่นแมว หรือ ขนแมว ไม่แนะนำให้ไปเที่ยวหรือหากไปก็ชมแมวไทยสวยๆด้านนอกก็ได้เพราะในโรงเลี้ยงนั้นกลิ่นแมวจะแรงไปสักนิด
จุใจกันไหมกับที่เที่ยวที่นำมาแนะนำกันลองหาเวลาไปเยี่ยมเยือนสถานที่เหล่านี้กันดูบ้างหลายๆแห่งไปเช้าเย็นกลับได้ หรือ จะเลือกค้างสักหนึ่งคืนเปลี่ยนบรรยากาศการนอนก็ดีไม่น้อยและบอกย้ำกันอีกทีว่าไปนอกเทศกาลหรือนอกฤดูกาลท่องเที่ยวรับรองว่าสนุกเหมือนกันเพราะคนไม่แน่น ไม่ต้องแย่งที่พักกับใครด้วย