ทิศทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่สำคัญกับทุกคนในยุคที่ผู้คนสนใจในเรื่องการเงิน ที่มีผลกระทบกับการดำเนินชีวิต การทำธุรกิจ การลงทุนในด้านต่าง การทำงาน เราจึงควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ อาจจะดูข่าวสาร ทีวี สื่อต่างๆ ในโซเชียลมิเดีย ในเว็บไซต์ต่างๆ จากสมาร์ทโฟน เครื่องคอมพิวเตอร์ และสามารถรวบรวมข่าวสาร ข้อมูล ความรู้ทางด้านเศรษฐกิจ ให้เป็นองค์รวมสามารถนำความรู้เรื่องเศรษฐกิจไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ อย่างดียิ่ง ถ้าไม่มีความรู้ทางด้านเศรษฐกิจ เราจะไม่สามารถรู้ทิศทางของการเงินของโลกว่ามีแนวโน้ม การลงทุน ธุรกิจต่างๆ ที่ท่านลงทุนไว้เป็นอย่างไร ซึ่งทำให้ธุรกิจของท่านอาจเสียหายอย่างมาก จึงต้องติดตามทิศทางเศรษฐกิจอย่างมีความรู้เท่าทัน และติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อคอยเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น หากเศรฐกิจของสหรัฐเกิดความชะลอตัวหรือแย่ลงจนถึงขั้นวิกฤตนั่นเอง
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะมีการเจริญเติบโตไม่มากเท่าที่ประมาณไว้ อยู่ที่ประมาณ 3.5 % จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาที่ค่อยเป็นค่อยไป สถานการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ ประเทศที่เราควรจะจับตามองอย่างมากคือ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา 2559 เพราะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพราะจะมีผลกระทบอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจโลกอย่างมาก โดยเฉพาะผลกระทบต่อประเทศไทย และผลกระทบถึงราคาหุ้นและทองคำนั่นเอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว หากราคาหุ้นหรือราคาทองคำของสหรัฐตก ราคาหุ้นและทองคำในไทยก็จะตกไปด้วย ไม่เพียงเท่านี้ แต่ราคาพืชผลทางการเกษตรต่างๆ ก็อาจจะเกิดผลกระทบไปด้วยได้เช่นกัน
เมื่อไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวลดลงจากไตรมาสที่ 3 จากการส่งออกน้อยลง เพราะค่าเงินดอลล่าที่แข็งขึ้น เศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว เพราะราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงอย่างมาก ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานลดลงไปด้วย บวกกับเป็นช่วงฤดูหนาวที่อากาศไม่หนาวเย็นเหมือนปีก่อนๆ ทำให้คนส่วนในสหรัฐฯ การใช้พลังงานก็ลดลง แต่ก็มีพายุหิมะในระยะสั้น และเป็นห่วงเวลาที่จะไม่ค่อยออกมาจับจ่ายซื้อของมาก เพราะก่อนฤดูหนาวได้ออกมาซื้อของใช้กันแล้ว เพื่อเตรียมเข้าสู้ฤดูหนาว แต่เป็นช่วงชั่วคราวเท่านั้น เพราะตัวเลขจ้างแรงงาน บวกค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น ภาพรวม GDP ก็ดีขึ้น จะตัวเลขไตรมาส 2 การขายรถยนต์มากขึ้นเพราะดอกเบี้ยน้อย
ในช่วงต้นปีนี้นั้นอัตราการบริโภคและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐอเมริกาลดลง อัตราการเติบโตของผู้บริโภคและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาอย่างมาก เพราะเมือผู้บริโภคมีความมั่นใจในเศรษฐกิจ ผู้ก็จะหันมาบริโภคโดยจับจ่ายใช้สอย ซื้อของใช้ต่างๆ ก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก ทำให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนเงินตรา และทรัพย์สินต่างๆ ทั้งอสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ ที่มีค่าตามมา
เรื่องการเมืองของสหรัฐอเมริกาก็เป็นสิ่งที่ต้องเราจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะมีความสำคัญไม่น้อยกว่าเรื่องเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างในเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงของการหยั่งเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระหว่าง 2 พรรคใหญ่ ระหว่าง พรรครีพับลิกัน กับพรรคเดโดแครต เป็นพรรคการเมืองที่ขับเขี้ยวในทางการเมืองมาตลอดระยะเวลายาวนาน ไม่มีพรรคใดนอกจากสองพรรคนี้ เพราะแข็งแกร่งไม่แพ้กัน โดยไม่มีพรรคอื่นใดมาเทียบได้ และทางด้านการเมืองนี้เอง ก็อาจส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ โดยรอบได้เช่นกัน จึงไม่ควรที่จะละเลยการติดตามความเคลื่อนไหวของการเมืองสหรัฐเป็นอันขาด
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้จัดทำแผนงบประมาณประจำปี 2560 ให้สภาคองเกรสพิจารณาก่อนที่จะนำไปใช้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้พัฒนาไปในทิศทางต่างๆ มากขึ้น ในวงเงิน 4.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นงบประมาณที่ขาดดุลการค้าลดลง และจะทำให้มีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น งบประมาณของประเทศดังกล่าวก็จะเป็นใน เรื่องการป้องกันความมั่งคงของประเทศเรื่องการก่อการร้ายของกลุ่มประเทศที่หัวรุนแรงต่างๆ ทั่วโลกที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหมด กลับมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะในแถวยุโรปที่ยังคงหวาดระแวง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งในยุโรปเศรษฐกิจก็แย่อยู่แล้ว ก็จะยิ่งซ้ำเติมเข้าไปอีก และในส่วนต่างๆ ของโลกก็ยังคงระมัดระวังอย่างในประเทศไทย รัฐบาลก็ให้ความสำคัญไม่น้อยโดยมีแผนรองรับ และในงบประมาณก็ยังมีในเรื่องการพัฒนาในเรื่องพลังงานที่มีความต่อเนื่อง ในเรื่องน้ำมันในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่ง ผลิตไว้ใช้ภายในประเทศ โดยนำเข้าลดลง เพราะสามารถผลิตได้เองมากขึ้น ทำให้ได้เปรียบในเรื่องพลังงาน
จะเห็นแล้วว่าประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาที่เป็นประเทศยักษ์ใหญ่ของโลก แม้ว่าจะมีหนี้สินมาก แต่ก็ยังมีเศรษฐกิจที่มีโอกาสกลับมายืนอยู่ได้ อย่างมีนัย เพราะทั้งนวัตกรรม อุตสาหกรรม พลังงานและทรัพยากรบุคคลที่มีค่า จึงทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาอาจจะชะลอตัวอยู่ไม่นานก็คงจะกลับมาเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ แต่อาจต้องใช้เวลาหลายปี เราก็ควรติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา อย่างใกล้ชิด เพราะมีผลต่อเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจของประเทศไทย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รู้แบบนี้แล้ว ก็ควรที่จะติดตามเศรษฐกิจของสหรัฐอยู่เสมอ ซึ่งไม่เพียงแต่เศรษฐกิจของสหรัฐเท่านั้น แต่เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป ก็เป็นอีกแห่งที่น่าจับตามองเช่นกัน ซึ่งก็อาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทย ได้ไม่น้อยไปกว่าเศรษฐกิจของสหรัฐเลยทีเดียว