โลกธุรกรรมออนไลน์ในปัจจุบันกลายเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เพราะในยุคดิจิตอลนี้ใครๆ ต่างก็หันมาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้มันเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ของวิวัฒนาการต่างๆ ทางเครื่องมือหลายๆ อย่างที่มีความทันสมัยมากขึ้น เหมือนกับความทันสมัยที่เข้ามาสู่ธนาคารอย่างการใช้เสียงในการสั่งงานเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางโลกออนไลน์ ซึ่งการใช้ธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์นั้นเริ่มมีบทบาทมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีสื่อสารยังมีบทบาทเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจด้วย และยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจบริการให้พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่โลกยุคดิจิตอลที่จะช่วยเติมเต็มความสามารถของแต่ละหน่วยงานได้
นวัตกรรม VOICE Biometrics แห่งแรก
สุดยอดแห่งนวัตกรรมเสียงสั่งได้ VOICE Biometrics เป็นระบบยืนยันด้วยเสียงพูด ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ และเทคโนโลยีอันล้ำนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์กับการเป็นผู้ช่วยตรวจสอบให้กับภาคธนาคารในการวิเคราะห์เนื้อเสียงของลูกค้าด้วยการยืนยันตัวตนเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ซึ่งเป็นธนาคารแห่งแรกที่นำเทคโนโลยี Biometrics (ไบโอเมตริกซ์)ด้านเสียงมายืนยันตัวตนลูกค้าเพื่อเข้าสู่ระบบธนาคารซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยของลูกค้าธนาคารที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งระบบเสียงสั่งได้นี้เป็นที่นิยมในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง หรือออสเตรเลีย ถือเป็นการพลิกโฉมของวงการธนาคารที่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย มีการนำระบบ ไบโอเมตริกซ์ด้านเสียงมาใช้กับลูกค้าธนาคารซึ่งเป็นการยกระดับด้านความปลอดภัยของภาคธุรกิจการเงินและการธนาคารในประเทศไทยแห่งแรกอีกด้วย
ระบบการทำงานของนวัตกรรม VOICE Biometrics
ระบบการทำงานของนวัตกรรม VOICE Biometrics มีความแม่นยำและปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นจากการลงทะเบียนบันทึกข้อมูลเสียงของลูกค้าเข้าไปในระบบ โดยจะผ่านทางซิตี้โฟนแบงค์กิ้ง 1588 ซึ่งเสียงของแต่ละบุคคลจะเป็นเอกลักษณ์ชัดเจน ระบบไบโอเมตริกซ์จะช่วยให้เครื่องทำการประมวลเสียงให้เป็นรูปแบบของข้อมูลเสียงหรือ Voice print ซึ่งจะถูกจัดเก็บด้วยการเข้ารหัสเซิฟเวอร์ที่มีความปลอดภัยในการใช้งานสูง ที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ และหากคุณโทรศัพท์เข้ามาทำธุรกรรมกับทางซิตี้โฟนของทางธนาคาร ระบบจะทำการพิสูจน์ตัวตนแล้วจะทำการตรวจ สอบเอกลักษณ์เสียงของตัวคุณกับ Voice print ที่เป็นต้นฉบับที่ถูกบันทึกไว้ก่อนหน้าซึ่งเสียงของลูกค้าจะใช้เป็นรหัสผ่านเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชีได้ภายในไม่เกิน 15 วินาที ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกรวดเร็วของการให้บริการในการทำธุรกรรมการเงินระบบออนไลน์ เมื่อลูกค้าสมัครใช้บริการดังกล่าวผ่านทางซิตี้โฟนแบงก์กิ้ง ลูกค้าก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการตอบคำถามมากมายเพื่อยืนยันตัวตนหรือจดจำรหัสผ่านอีกต่อไป
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์
เทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์มีความปลอดภัยของระบบคือ เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในสถาบันการเงิน ที่ใช้ในการตรวจ สอบตัวบุคคลว่าเป็นเจ้าของบัญชีหรือไม่นั้นด้วยระบบอันทันสมัย ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นพื้นฐานอันสำคัญของการทำธุรกิจทางสถาบันการเงิน ซึ่งหากเทียบกับการตรวจสอบด้วยลายเซ็น หรือบัตรประจำตัว แม้แต่รหัสผ่านถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ง่ายต่อการปลอมแปลงอย่างมากในปัจจุบันนี้ และยังอาจเป็นช่องทางแห่งการฉ้อโกงของมิจฉาชีพได้ แต่เมื่อมีการนำเอาเทคโนโลยีทางด้านไบโอเมตริกซ์มาเป็นสิ่งประกอบเพื่อเพิ่มเติมเรื่องของความปลอดภัยในสถาบันการเงินเมื่อต้องการตรวจสอบตัวบุคคล อย่างการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือแทนการคีย์รหัสผ่าน บวกกับการยืนยันตัวตนด้วยเสียงผ่านบริการคอลเซ็นเตอร์ ทำให้ระบบ VOICE Biometrics กลายเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจจากสถาบันทางการเงินทั่วโลก ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการลดและป้องกันมิจฉาชีพทางการเงินได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ซิตี้แบงก์นำร่องใช้เสียงแทนรหัส
ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย มีมาตรฐานที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลของลูกค้าเป็นสำคัญ ปัจจุบัน ได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้เป็นธนาคารแห่งแรกที่สามารถให้บริการระบบ VOICE Biometrics ซึ่งเป็นระบบการยืนยันตัวตนด้วยเสียงเพื่อเข้าสู่ระบบการบริการทางโทรศัพท์ของธนาคาร ส่งผลทำให้การเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินพื้นฐานของลูกค้าผ่าน ซิตี้โฟน แบงก์กิ้ง 1588 มีทั้งความสะดวกสบายและปลอดภัย ทำให้ลูกค้าซิตี้แบงก์ ไม่ต้องกังวลในการจำรหัสผ่านให้ยุ่งยากหรือตอบคำถามส่วนตัวจำนวนมากอีกต่อไป ด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะของระบบ Voice Biometrics มีความปลอดภัยสูง แม้ว่าเจ้าของบัญชีจะพูดภาษาที่แตกต่างจากที่ได้บันทึกไว้เมื่อตอนลงทะเบียนการยืนยันตัวตนในระบบ Voice Biometrics ครั้งแรก แต่หากเป็นเสียงเจ้าของบัญชีตัวจริงก็สามารถขอทำรายการที่ต้องการกับเจ้าหน้าที่ซิตี้โฟน แบงก์กิ้งได้ แต่หากมีผู้อื่นพยายามเลียนแบบเสียงเจ้าของบัญชี ทางเจ้าหน้าที่ซิตี้โฟน จะทำการแจ้งให้ทราบทันทีว่ามีผู้ติดต่อที่ไม่ผ่านการตรวจสอบเสียงด้วยระบบ Voice Biometrics เช่นกัน ซึ่งถือเป็นระบบรักษาความปลอดภัยอีกทางหนึ่ง
ปัจจุบันเริ่มมีการนำเทคโนโลยีระบบ VOICE Biometrics ไปใช้กันในหลากหลายสายงานบ้างแล้ว อย่างงานทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับอาชญากรข้ามชาติ และการสืบสวนการกระทำผิดทางอาญา ซึ่งจะช่วยให้ผู้รักษากฎหมายช่วยในการจับกุมตัวผู้กระทำผิด รวมถึงช่วยองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ที่นำระบบ VOICE Biometrics มาใช้เกี่ยวกับการค้นคว้าและวิจัยที่เป็นส่วนความลับ และการระวังภัยเข้า-ออกของบริษัท นอกจากนี้เทคโนโลยีระบบ VOICE Biometrics ยังเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี อย่างการใช้งานคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค หรือสมาร์ทโฟน ที่มีการตรวจสอบผู้ใช้ งานด้วยการแสกนลายนิ้วมือ และลักษณะการพิมพ์ อีกด้วย